กทม.หารือคกก.ควบคุมอาคาร แนวทางแก้ปัญหา แอชตันอโศก เห็นควรส่งเรื่องให้บ.อนันดาทำให้ถูกต้องตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด “ไม่รื้อแต่ทำให้ถูกกฎหมาย”
นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวถึงการดำเนินการกรณีแอชตันอโศก หลังคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ว่า จากคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเมื่อวันที่ 27 ก.ค.2566 กรุงเทพมหานครโดยสำนักการโยธา ได้มีหนังสือแจ้งคำพิพากษาศาลปกครองสุงสุด ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเมื่อ 4 ส.ค. 2566 ทั้งบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเซีย อโศก, สำนักงานเขตวัฒนา และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ การดำเนินการตาม ม.41 นั้น กทม.มีข้อไม่แน่ใจว่าจะส่งเรื่องไปให้เจ้าของห้องชุดซึ่งมีหลายร้อยคน นิติบุคคล หรือ บริษัทอนันดาฯ กทม.จึงได้หารือคณะกรรมการควบคุมอาคาร โดย สนย. มีหนังสือหารือคณะกรรมการควบคุมอาคารเรื่อง การออกคำสั่งตาม ม.41 เมื่อ24 ส.ค. 2566 และคณะกรรมการควบคุมอาคารตอบข้อหารือกลับเมื่อ 17 ต.ค. 2566 ว่า ตามประเด็นที่หารือเป็นปัญหาการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด หากสำนักการโยธามีปัญหาในการปฏิบัติตามคำพิพากษาควรสอบถามไปยังสำนักงานศาลปกครองข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาที่หารือมายังไม่เพียงพอที่จะพิจารณาได้ กทม.โดย สำนักงานกฎหมายและคดีมีหนังสือหารือสำนักคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครอง เรื่องแนวทางการปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด และสำนักคดีปกครอง สำนักงานศาลปกครองตอบกลับว่า กรณีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องภายหลังจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษานั้นเป็นกรณีที่อยู่นอกเหนือจากคำบังคับของศาล เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่จะต้องพิจารณาตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป กทม.จึงได้ทำหนังสือไปสอบถามทางคณะกรรมการควบคุมอาคารเมื่อ 27 ธ.ค. 2566 โดย สนย.มีหนังสือหารือแนวทางการออกคำสั่ง ม.40 และม.41 ว่า กทม.ควรจะต้องดำเนินการอย่างไร ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมอาคาร โดยมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณา
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการควบคุมอาคาร คงไม่ช้า กทม.ก็ได้เข้าไปรายงานคณะกรรมการเมื่อ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากคณะกรรมการฯ ตอบกลับให้เป็นดุลพินิจของ สนย. ที่จะดำเนินการ ความเห็นของ กทม.ก็จะส่งเรื่องไปที่บริษัทอนันดา น่าจะปฏิบัติได้ง่ายกว่าส่งเรื่องไปที่เจ้าของห้องชุดหลายร้อยห้อง โดย
กทม.จะส่งไปยังบริษัท อนันดา ให้ดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องตามคำสั่งศาล คือไม่ได้ให้รื้อ แต่ทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีหลายแนวทางไม่ว่าจะเป็นมีทางออกทางอื่น ซึ่งทางอนันดาก็ต้องหาทาง การรื้อหรือทุบ ซึ่งเป็นไปได้ยาก โดยในเชิงทางกฎหมายให้ลดความสูงอาคารให้เป็นไปตามกฎหมายหรือแนวทางของ รฟม. คือ ทำให้ที่เวนคืนสมวัตถุประสงค์ก่อนซึ่งเข้าใจว่าทางกระทรวงคมนาคมเข้าใจปัญหานี้อยู่ เป็นเรื่องการใช้ที่ของรัฐ ทุกคนไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามหาทางออกเรื่องนี้อยู่” รองผู้ว่าฯ วิศณุ กล่าว
ในส่วนกระทรวงคมนาคมได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ มีการประชุมหลายครั้งเพื่อให้ รฟม. พิจารณาแนวทางในการแก้ไขปัญหา
ผู้ได้รับผลกระทบการอนุญาตใช้พื้นที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศ เช่น หาแนวทางทำพื้นที่ให้สมวัตถุประสงค์การเวนคืน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี