ปภ.เตือน38จว.รับมือพายุ
ไทยความร้อนพุ่ง3พันจุด
ปภ.แจ้งเตือน 38 จังหวัด ในภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้ง กทม. เฝ้าระวังพายุฤดูร้อนช่วง 8-10 มีนาคม ขณะที่ GISTDAเผยจุดความร้อนไทยพุ่งทะยานกว่า 3 พันจุด เพื่อนบ้านเมียนมาพุ่งสูงปรี๊ดกว่า 6 พันจุด ตามด้วยลาว2,710จุด
เมื่อวันที่ 7มีนาคม2567 กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (52/2567) แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุม ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความขึ้นจากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดหลายพื้นที่ ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีพายุฤดูร้อนโดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ระหว่างวันที่ 8-10 มี.ค.
ทั้งนี้ แยกเป็น ภาคเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ น่าน อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 จังหวัด ได้แก่ เลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ นครราชสีมา และบุรีรัมย์ ภาคกลาง 23 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด ปทุมธานี นนทบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และสมุทรปราการ
กอปภ.ก โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 38 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยติดตามสภาพอากาศ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที
ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย
สามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์“ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป
แฟนเพจGISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) โพสต์ข้อความว่า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิ เอ็นพีพี (Suomi NPP) และจากดาวเทียมอีกหลายดวง เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2567 ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 3,013 จุด
จุดความร้อนที่พบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ 1,291 จุด ตามด้วยพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 964 จุด พื้นที่เกษตร 309 จุด พื้นที่แหล่งชุมชนและอื่นๆ 226 จุด เขต ส.ป.ก. 205 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 18 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด ได้แก่ ลำปาง 354 จุด แม่ฮ่องสอน 343 จุด และ เชียงใหม่ 329 จุด
ส่วนประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนมากสุดอยู่ที่พม่า 6,332 จุด ตามด้วย ลาว 2,710 จุด เวียดนาม 1,143 จุด และกัมพูชา 1,091 จุด
ส่วนที่ จ.แม่ฮ่องสอน ช่วงเช้าวันที่ 7มี.ค.67 จุดความร้อนจากไฟป่าที่ดาวเทียมตรวจพบ ความร้อนช่วงเช้า 173 จุด ส่วนของวันที่ 6 มี.ค.67 จุดความร้อนรวม 245จุดและของวันที่ 5 มี.ค. 2567 รวม 207 จุด โดยจะเห็นว่าจุดความร้อนจากไฟป่า ได้มีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดหมอกควันจากไฟป่า ลอยปกคลุมพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน หนาทึบ กระทบต่อทัศนวิสัยนการมองเห็นและการบินของอากาศยานอีกด้วย ขณะที่ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5มคก./ลบ.ม.ของแม่ฮ่องสอน ค่าสูงสุดรายชั่วโมงวัดได้ 152มคก./ลบ.ม.ค่าเฉลี่ยที่ 127.6มคก./ลบ.ม.
นายสมจินต์ เนตรประดิษฐ์ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า สถานการณ์ได้มีความรุนแรงมากขึ้น จากพิกัดที่ดาวเทียมตรวจพบ ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยในพื้นที่ต่างๆ ในทุกอำเภอของแม่ฮ่องสอน เร่งเข้าไปควบคุมไฟป่าที่เกิดขึ้นและรายงานผลการปฏิบัติให้ทราบทันทีเมื่อเข้าถึงพื้นที่และดับไฟป่าได้สำเร็จหากบริเวณพื้นที่ไหน ที่ไม่สามารถดับไฟป่าได้ให้ทำแนวกันไฟป่า รอบๆ พื้นที่ดังกล่าว เพื่อป้องกันการลุกลามขยายวงกว้างออกไปอีก
ทั้งนี้ ขอวิงวอนไปยังประชาชนในทุกพื้นที่หากจะมีการเผาป่าในป่าเศรษฐกิจชุมชน หรือเผาไร่ ขอให้แจ้งยังผู้ใหญ่บ้านผ่านนายอำเภอมาถึงศูนย์บัญชาการควบคุมไฟป่าและหมอกควันฯ เพื่อที่จะมีการดำเนินการอนุมัติให้ตามต้องการ ขออย่าลอบเผาป่าแบบนี้ซึ่งมันส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในแม่ฮ่องสอนโดยรวม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี