‘ใบตองแห้ง-ส.ศิวรักษ์’ยื่นแถลงศาลอาญา ขอให้ประกันตัว‘ตะวัน-แฟรงค์’ และนักโทษทางความคิด ชี้เป็นเหยื่อกระแสสังคม
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 8 มีนาคม 2567 ที่ศาลอาญา นายอธึกกิต แสวงสุข หรือ “ใบตองแห้ง” สื่อมวลชนอาวุโส เเละนายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ นักเคลื่อนไวทางการเมืองตัวแทนของนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือ “ส.ศิวรักษ์” ปัญญาชนสยามและผู้บุกเบิกวิสัยทัศน์สังคมศาสตร์และประวัติศาสตร์ไทย เดินทางมายื่นคำแถลงขอให้ศาลพิจารณาไม่รับฝากขังของพนักงานสอบสวน สน.ดินแดง และคัดค้านการไม่ให้ปล่อยชั่วคราวตะวัน และแฟรงค์ รวมถึงประชาชนผู้ต่อสู้ทางความคิดรายอื่นอันจะเกิดขึ้นในอนาคต
นายอธึกกิต ออกแถลงการณ์ระบุว่า เชื่อว่าไม่มีใครอยากย้อนกลับไปอยู่ภายใต้ระบบเก่า และประเทศไทยจะต้องตั้งหลักจากประชาธิปไตย โดยมีหลักใหญ่ใจความคืออำนาจสูงสุดเป็นของประชาชนและเชื่อว่าองค์กรตุลาการเป็น เสาหลักซึ่งรับประกันความปลอดภัยและสิทธิเสรีภาพของประชาชนเหล่านี้ ดำรงตนเป็นจุดเชื่อมโยงที่ปกปักพิทักษ์รักษาให้ความปลอดภัยระหว่างประชาชนกับการปกครอง ขอยืนยันว่าการปล่อยตัวชั่วคราวบุคคลนั้น เป็นสิทธิของบรรดาผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญา การจำคุกกักขังควบคุมบุคคลใดเกินกว่าที่สมควรตามเหตุผลที่กฎหมายกำหนดนั้นจะกระทำมิได้
ด้วยความเคารพต่อศาลอาญาตนเห็นว่าการรับฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองในคดีนี้ไว้โดยไม่ให้ปล่อยชั่วคราวออกไปทั้งที่ทั้งสองมิได้มีพฤติการณ์หลบหนี ยินยอมให้เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมที่บริเวณหน้าศาลอาญาและโดยที่ทั้งสองไม่ใช่บุคคลที่จะสามารถเข้ายุ่งเหยิงพยานหลักฐานและกระทำการขัดขวางสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวนนั้น เป็นกรณีที่เป็นอันตรายต่อกระบวนการยุติธรรมและต่อตัวเยาวชนทั้งสอง
โดยอาจเป็นการด้อยค่าสิทธิมนุษยชนของพวกเขา ในการพิทักษ์รักษากระบวนการยุติธรรมและดำรงไว้ซึ่งระบบอันที่พวกเราผู้ใหญ่และเราเพิกเฉยละเลยต่อการพิทักษ์รักษาสิทธิมนุษยชนปัญญาชนทั้งหลายเป็นเสาหลักในการปกปักดูแลประชาชนนั้น ไปไม่ได้ และเราต้องเรียนรู้หลักการตามนิติปรัชญาเพื่อนำมาใช้สร้างความเป็นธรรมให้ทุกชนเท่าเทียมกัน
ขอเรียนท่านผู้พิพากษาโปรดพิจารณาไม่รับฝากขังผู้ต้องหาทั้งสองนี้ต่อไปก็ขอให้ผู้พิพากษาผู้พิจารณาปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาและพิจารณาให้ความเป็นธรรมปล่อยตัวชั่วคราวทางความคิดทั้ง หลายเมื่อคราวที่ท่านมีอำนาจพิจารณาด้วย
นายอธึกกิต กล่าวอีกว่า สื่อบางสื่อที่สร้างกระแสให้ทานตะวันเป็นเหมือนแม่มดจนกดกันให้ตำรวจต้องหาข้อหาที่ร้ายแรงมาสนองกระแสสังคม ทั้งที่จริงดูจากพฤติการณ์การไม่ฟังคำสั่งของตำรวจที่อยู่ท้ายขบวนเสด็จควรจะเป็นแค่ความผิด พ.ร.บ.จราจร เท่านั้น ไม่ใช่เป็นเรื่องความไม่ปลอดภัยต่อราชวงศ์ ตนมองว่าการตั้งข้อหา มาตรา116 เป็นการตั้งข้อหาที่เกิดกว่าเหตุ ดูจากพฤติการณ์คือทั้งสองออกรถก่อนที่ตำรวจจะอนุญาตตำรวจก็มาล้อมการบีบแตรดังกล่าว จึงเป็นการบีบใส่ตำรวจ แต่ที่ไม่มีการตั้งข้อหามาตรา 112 คงเพราะจะกลัวว่าเป็นการอ้างสถาบันมากเกินไป ก็เลยตั้งข้อหามาตรา116 เพื่อสนองความรู้สึกกระแสดราม่า
ด้านนายนภสินธุ์ หรือสายน้ำ อ่านแถลงการณ์แทนนายสุลักษณ์ ความว่า ข้าพเจ้าเนติบัณฑิตอังกฤษ จากสำนักเดอะมิดเดิ้ล เทมเปิล ซึ่งเชื่อมั่นว่าโดยหลักแห่งนิติปรัชญา ทุกคนต้องได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และบุคคลจะต้องมีสิทธิเสรีภาพความเสมอภาคอย่างเท่าเทียมกัน การควบคุมกักขังที่ชอบด้วยกฎหมายจะต้องทำเพื่อป้องกันภยันอันตรายอื่นใดหรือการหลบหนีเท่านั้น ต้องมีการประกันอิสรภาพของบุคคลอย่างเคร่งครัดและจะตีความกฎหมายจำกัดสิทธิเสรีภาพเป็นหลักไม่ได้ ตนเห็นว่าผู้ต้องหาทั้งสองคน เป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหาที่พนักงานอัยการยังไม่ได้ฟ้องเป็นคดีต่อศาล และการต่อสู้ของเยาวชนสองคนนี้ เห็นชัดว่าเป็นกรณีของการต่อสู้ทางความคิด
ไม่มีเหตุผลใดทั้งทางมนุษยธรรมและทางหลักกฎหมายที่จะควบคุมขังเด็กไว้ตามคำร้องขอของรัฐ ขอศาลได้ปลดปล่อยเด็กเหล่านี้ ตามอำนาจที่ศาลยุติธรรมมีอยู่ เพื่อให้เขามีสิทธิต่อสู้ทางความคิด และมีสิทธิในการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่หากผิดก็ลงทัณฑ์ หากถูกก็ให้ยกฟ้อง และให้ปล่อยเด็กโดยทันที
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี