ป้าไม่ทน! ปั่นจักรยานร้องศูนย์ดำรงธรรม หลังถูกแก๊งทวงหนี้ตะโกนด่าหยาบคายต่อหน้าคนนับสิบ เหตุค้างจ่าย 2 วันขายของไม่ดี ป้ายันไม่เคยคิดเบี้ยว-พร้อมใช้คืนตามที่กู้ จนท.รุดตรวจสอบแต่ไร้เงา

เมื่อวันที่ 13 มี.ค.2567 น.ส.ธนภรณ์ หรือป้าวรรณ  อายุ 54 ปี  ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์  ซึ่งเป็นแม่ค้าขายขนม เครื่องดื่ม และของเล่นเด็ก ได้ปั่นจักรยานไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง   หลังถูกแก๊งทวงหนี้เงินกู้นอกระบบไปตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายขณะกำลังขายของต่อหน้าผู้คนนับสิบ  ทำให้เกิดความอับอาย  สาเหตุเพราะค้างจ่ายดอกเบี้ย 2 วัน เนื่องจากขายของไม่ค่อยดีจึงขอผัดผ่อนไปก่อน  แต่ที่ผ่านมาก็จ่ายทั้งต้น และดอกเบี้ยมาตลอดไม่เคยเบี้ยว  แม้ดอกเบี้ยจะสูงกว่ากฎหมายกำหนด 

โดย ป้าวรรณ  ให้ข้อมูลว่าช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ได้กู้เงินนอกระบบกับแก๊งดังกล่าวเพื่อมาหมุนในการซื้อของขายจำนวนเงิน 6,000 บาท  โดยจะหักล่วงหน้าก่อน 600 บาท ได้รับเงินเพียง 5,400 บาท จากนั้นต้องจ่ายทั้งต้น และดอกเบี้ยวันละ 300 บาททุกวัน  เป็นระยะเวลา 24 วัน  สรุปได้เงิน 5,400 บาท  แต่ต้องจ่ายคืนทั้งต้นดอกเบี้ย 7,200 บาท   ที่ผ่านมาก็จ่ายวันละ 300 บาทมาตลอดไม่เคยค้าง แต่พอเดือนนี้ เป็นช่วงสอบ และโรงเรียนใกล้ปิดเทอมจึงขายของไม่ค่อยได้  จึงไม่ได้จ่ายดอก 2 วันแล้ว แก๊งทวงหนี้ก็มาตะโกนด่าด้วยถ้อยคำหยาบคายต่อหน้าคนจำนวนมากทำให้รู้สึกอับอายมาก   

ส่วนตัวยืนยันว่าหนี้ที่กู้มาพร้อมใช้คืนให้ แต่รับไม่ได้ที่ถูกด่าประจานแบบนี้ จึงได้มาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรม  เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัยด้วย  

หลังรับเรื่อง น.ส.เพชรรัตน์  ภูมาศ  นายอำเภอนางรอง  ก็ได้มอบหมายให้นายจักร์กฤษ  ร่วมกูล  ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม  พร้อมกับนายธนธรณ์พล  ไขว้พันธ์  ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง  นายอัมรินท์ ทิพย์อักษร ปลัดอำเภอ  และนางรัชนีกร สวัสดิ์พูล ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง ลงพื้นที่ไปตรวจสอบ   แต่ไม่เจอแก๊งทวงหนี้คาดว่าน่าจะไหวตัว   

อย่างไรก็ตามจะได้ตรวจสอบและติดตามแก๊งทวงหนี้ดังกล่าวมาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย  หากมีการข่มขู่ หรือปล่อยเงินกู้เกินกว่ากฎหมายกำหนด