เหนือกระอักฝุ่นควัน
ไฟป่ายังปะทุต่อเนื่อง
นายกฯเจอกับตัวเอง
จอดรถลงตรวจทันที
สถานการณ์ฝุ่นพิษควันไฟป่าภาคเหนือยังกระอักหนัก-อีสานเหนือขณะจุดความร้อนไทยพุ่ง 1,874 จุด ไฟป่าแม่ฮ่องสอนยังรุนแรง ต้องขอเสริมกำลัง “ชุดเหยี่ยวไฟ”เพิ่ม เชียงใหม่อากาศยังวิกฤต ควันไฟป่าปกคลุมทั้งเมือง ค่าฝุ่นพิษสูงถึง 591 ไมโครกรัม/ลบ.ม. อากาศแย่อันดับ 3 ของโลก ด้านผวจ.เชียงใหม่ยันไม่ประกาศภัยพิบัติ ไม่เกิดประโยชน์ ลุ้นงบกลางมาแก้ฝุ่น ขณะที่ นายกฯลงพื้นที่พะเยา เจอไฟไหม้ริมทาง แวะจอดรถลงตรวจทันที ซัดเหตุคนมักง่ายทิ้งก้นบุหรี่ ขอบคุณจนท.กรมทางหลวง ช่วยดูแลดับไฟ มอบ‘ปลัดคมนาคม’ดูแลค่าล่วงเวลา-สวัสดิการ
เมื่อวันที่ 18 มี.ค.2567 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง จากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น“เช็คฝุ่น”
ภาคเหนือยังกระอักฝุ่นพิษควัน
โดยเมื่อเวลา08.00น.วันที่ 18 มี.ค.2567 พบว่ามี19 จังหวัดภาคเหนือ มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ อาทิ แม่ฮ่องสอน 160.6 ไมโครกรัม เชียงราย 148.8 ไมโครกรัม พะเยา 135.4 ไมโครกรัม เชียงใหม่ 135.2 ไมโครกรัม ลำพูน 131.7 ไมโครกรัม น่าน 114.6 ไมโครกรัม ลำปาง 112 ไมโครกรัม แพร่ 94.5 ไมโครกรัม สุโขทัย 93.8 ไมโครกรัม ตาก 92.2 ไมโครกรัม อุตรดิตถ์ 85.5 ไมโครกรัม
อำนาจเจริญ 82.7 ไมโครกรัม กาฬสินธุ์ 82.3 ไมโครกรัม เลย 82.2 ไมโครกรัม อุบลราชธานี 81.0 ไมโครกรัม มุกดาหาร 79.3 ไมโครกรัม นครพรม 77.6 ไมโครกรัม ยโสธร 76.5 ไมโครกรัม พิษณุโลก 75.9 ไมโครกรัม โดยคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโซนเหนือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนพื้นที่กรุงเทพมหานครช่วงเช้า พบค่าฝุ่น PM2.5 อยู่ในเกณฑ์คุณภาพอากาศดีทั่วทุกเขตพื้นที่
ไทยจุดความร้อนปะทุอีก1,874จุด
นอกจากนี้ GISTDA ได้เผยข้อมูลจากดาวเทียมซูโอมิเอ็นพีพี(Suomi NPP)และจากดาวเทียมอีกหลายดวงเมื่อวันที่17มี.ค. ไทยพบจุดความร้อนทั้งประเทศ 1,874จุดยังระบุว่าจุดความร้อนที่พบส่วนใหญ่เกิดขึ้นในพื้นที่ป่าอนุรักษ์722 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 537 จุด พื้นที่เกษตร 362 จุด แหล่งชุมชนและอื่นๆ 120 จุด พื้นที่เขต ส.ป.ก.119 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 14 จุด สำหรับจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรกได้แก่ แม่ฮ่องสอน 408 จุด เชียงใหม่ 179 จุด ตาก 117 จุด
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้านพบจุดความร้อนมากสุดอยู่ที่พม่า 5,328 จุด ตามด้วยไทย 1,874 จุด ลาว 1,348 จุด กัมพูชา 1,059 จุด และ เวียดนาม 731 จุด
ไฟป่าแม่ฮ่องสอนวิกฤติหนัก
ขณะที่สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ยังหนักมากและรุนแรงทุกวันซึ่งหน่วยในพื้นที่มีกำลังพลจำกัด จนต้องเสริมกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวไฟนครศรีธรรมราชเข้าปฏิบัติหน้าที่ช่วยดับไฟป่า ในอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน หลังไฟป่าปะทุหนักต่อเนื่องในพื้นที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ไฟป่าที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่เกิดบริเวณจุดที่เป็นเทือกเขาสูงชันและไม่สามารถดับได้ ส่งผลให้หมอกควันเพิ่มปริมาณมากขึ้น บางแห่งไฟป่าลามเข้าสู่เรือกสวน อยู่ติดกับบ้านของราษฎร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งเข้าไปดับไฟป่าหวั่นลุกลามเข้าไหม้บ้านเรือนราษฎรในพื้นที่
เมืองในหมอกไฟป่า-ฝุ่นควันพุ่ง
สำหรับสถานการณ์ไฟป่าใน จ.แม่ฮ่องสอน พบยังคงมีการลักลอบเผาป่าอย่างหนักโดยเฉพาะพื้นที่ อ.อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ช่วงเช้าดาวเทียมตรวจจับความร้อน พบจุดความร้อนสูงถึง 277 จุด พบว่าเกิดไฟป่าในพื้นที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน สูงถึง 110 จุดส่งผลให้ค่าทัศนวิสัยเช้าวัดได้ 1 กิโลเมตรทั่วทั้งตัวเมืองมีแต่หมอกควันไฟป่าหนาทึบ จนมองแทบไม่เห็น ขณะที่ค่าปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กว่า 2.5ไมครอน เช้านี้วัดได้ 294 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินค่ามาตรฐานถึง 7 เท่าและมีค่าสูงสุดของภาคเหนือ
เชียงใหม่วิกฤติควันปกคลุมทั้งเมือง
สภาพท้องฟ้าตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงเช้ายังถูกหมอกควันไฟป่าปกคลุมทั้งเมืองจนมองไม่เห็นดอยสุเทพ-ปุย ติดต่อกันมาหลายวัน โดยเฉพาะพื้นที่ ต.ช้างเผือกและต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ค่าฝุ่นPM 2.5ลดลงจากเมื่อวานนี้เล็กน้อยแต่ยังอยู่ในระดับสีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน
ศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รายงานคุณภาพอากาศแบบรายชั่วโมง บริเวณบ้านหัวโท อ.เชียงดาว เมื่อเวลา 07.00 น. ค่า PM 2.5 สูงถึง 591 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือสูงเกินค่ามาตรฐานถึง 15 เท่า
เชียงใหม่อากาศแย่รั้งที่3ของโลก
ด้าน เว็บไซต์ไอคิวแอร์ รายงานเมื่อเวลาประมาณ 11.00น. จัดอันดับให้ จ.เชียงใหม่ มีคุณภาพอากาศแย่อันดับ 3 ของโลก ค่าดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) อยู่ที่ 196 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ค่าฝุ่น PM2.5 เกินค่ามาตรฐานทั้งจังหวัดต่อเนื่องแม้จะลดลง แต่ยังคงส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนและนักท่องเที่ยว
ขณะที่ช่วงเช้า พบจุดความร้อนกระจายใน 18 อำเภอ จำนวน 112 จุด พื้นที่ อ.เชียงดาวมากที่สุด 20 จุด เจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดับไฟซึ่งบางพื้นที่เป็นภูเขาสูง เส้นทางลาดชัน ต้องใช้รถจักรยานยนต์เข้าพื้นที่ เพื่อให้ถึงจุดที่เกิดไฟป่า ซึ่งเป็นไปอย่างยากลำบาก
ผู้ว่าฯยันไม่ประกาศภัยพิบัติ
ขณะที่ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าฯเชียงใหม่ กล่าวถึงเรื่องการประกาศพื้นที่ภัยพิบัติจากสถานการณ์ฝุ่นว่า หากใครคุ้นเคย จากสถานการณ์น้ำท่วมขนาดใหญ่และจำเป็นต้องประกาศภัยพิบัติคือสิ่งที่จำเป็น เพราะเป็นสถานการณ์ขนาดใหญ่และระเบียบเงินทดรองราชการของกระทรวงการคลัง ก็เขียนไว้ชัดว่ามีรายการที่ระบุว่าจ่ายค่าอะไรได้บ้าง แต่สำหรับภัยที่เป็นฝุ่นPM2.5 ในระเบียบเงินทดรองราชการ กระทรวงการคลัง ไม่มีเขียนไว้ว่าจ่ายค่าอะไรได้บ้าง นอกเหนือจากค่าน้ำมันรถเจ้าหน้าที่ ระเบียบเป็นอย่างนี้ ดังนั้น การประกาศภัยพิบัติ เพื่อสู้ฝุ่น ไม่เกิดประโยชน์ในการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยราชการ จึงไม่มีความจำเป็น หรือ มีน้ำหนักมากเพียงพอ หรือเป็นสิ่งจูงใจว่าเราต้องประกาศ เพื่อให้นำเงินมาใช้เพราะไม่เกิดประโยชน์อยู่แล้ว
“ปัญหานี้จะได้รับการแก้ไข เมื่อ พ.ร.บ.อากาศสะอาด และกฎหมายลูกผ่านออกมา ที่มีการพูดถึงข้อจำกัดของระเบียบเงินทดรองราชการ หรืองบฉุกเฉินฯเพราะประกาศไปก็ใช้ไม่ได้จริงสำหรับภัยพิบัติฝุ่น จึงจะต้องออกเป็นพ.ร.บ.อากาศสะอาด และกฎหมายลูก ที่จะมีค่าใช้จ่ายออกมา” นายนิรัตน์ ย้ำ
ลุ้นงบกลางจากครม.เสริมดับไฟ
ผู้ว่าฯเชียงใหม่ระบุอีกว่าขณะนี้ปรึกษากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งนายกฯได้กรุณาอนุมัติงบกลางเป็นปีแรกที่รัฐบาลเห็นความจำเป็น ส่วนหนึ่งจะมาจ้างคนไปดูแลป่าซึ่งทางจังหวัดก็ขออนุมัติงบกลางไปยังคณะรัฐมนตรี คาดว่าจะออกมาเร็วๆนี้ เราจะมาเติมเต็มในส่วนที่คนของกระทรวงทรัพย์ฯยังจ้างไม่หมด เราจะจ้างเพิ่มและให้หน่วยงานที่เดินเท้าเข้าป่า ให้ค่าน้ำมันรถ ไม่ได้ขอมาซื้อของหรือซ่อมถนนหรือที่ไปกลัวว่าจะต้องมีเงินทอนต่างๆ ไม่มีบริษัทไหน มาขายของ เพื่อภัยพิบัติ ตนไม่ได้ขอมาซื้อหน้ากากอนามัยใดๆทั้งสิ้น เรื่องเงินทอนต่างๆตัดไปได้เลย ผมระวังตัว ไม่อยากยุ่งกับเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ตั้งใจที่จะดูแลพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด
นายกฯเจอไฟไหม้ริมทางจอดรถทันที
วันเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในการลงพื้นที่ จ.พะเยา และการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่(ครม.สัญจร)ครั้งที่2/2567ที่จ.พะเยา ระหว่างวันที่ 18 - 19 มี.ค.และติดตามการตรวจราชการในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนสองเชียงราย น่าน พะเยาแพร่ เชียงใหม่ ลำปาง โดยวันนี้ นายกฯพร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม ร่วมเดินทาง จากจจ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่จ.พะเยา
ในเวลา10.35น.ระหว่าง ทางซึ่งเลยจุดชมวิวอำเภอวังเหนือ ต.วังทอง หลักกิโลเมตร ที่ 35 รอยต่อ 3 จังหวัด จ.ลำปาง เชียงราย และพะเยา นายกฯได้แวะ ดูสถานการณ์ไฟไหม้ป่าริมทางซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการฉีดน้ำเพื่อดับไฟ ที่ยังปรากฏการไหม้อยู่ต่อเนื่อง
ซัดเหตุคนมักง่ายทิ้งก้นบุหรี่
โดยนายกฯได้เดินไปสอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงซึ่งนำรถน้ำมาฉีดดับเพลิง ถึงสาเหตุการเกิดไฟไหม้ป่าว่าเกิดจากก้นบุหรี่หรือไม่ เพราะดูลักษณะไม่น่าเกิดจากการเผา เจ้าหน้าที่ชี้แจงว่า“ใช่”นายกฯกล่าวว่าเพราะก่อนหน้านี้ตนผ่านจุดนี้มาแล้วยังไม่เจอแต่พอกลับมาก็มาเจอพอดีว่ามีไฟไหม้”นายกฯจึงถามต่อว่าเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยและมีเยอะหรือไม่ เจ้าหน้าที่ก็ยอมรับว่า“มีเยอะ”นายกฯจึงย้ำว่าลักษณะนี้ ไม่น่าจะเป็นการเผาป่าใช่หรือไม่ถ้าฉะนั้นคงเป็นอุบัติเหตุ
นายกฯกล่าวอีกว่าเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้น มาจากการทิ้งก้นบุหรี่ ไม่น่าจะใช่การเผาป่าหรือเศษวัชพืชแน่นอน เพราะเหตุเกิดอยู่ข้างทาง อีกทั้ง จุดที่เกิดก็มีสภาพที่แห้งมาก ใบไม้ร่วงเต็ม ยากให้ประชาชนทุกคนให้ความสำคัญด้วย แม้เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ความมักง่ายนิดๆหน่อย ๆแต่ก็สร้างความเสียหายได้เยอะเหมือนกัน
มอบ‘ปลัดคมนาคม’ดูแลสวัสดิการ
จากนั้น นายกฯได้เดินไปดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการดับไฟป่าในบริเวณดังกล่าวก่อนเดินกลับมาสอบถามกับเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงใช่หรือไม่เนื่องจากเห็นสัญลักษณ์ปักอยู่ที่บนเสื้อ นายกฯกล่าวว่า กรมทางหลวงก็มีส่วนช่วยในการดับไฟป่า ซึ่งมีรถดับเพลิง เป็นของตัวเองด้วย
ขณะที่ปลัดกระทรวงคมนาคม ชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงจะออกตรวจตลอดเพื่อดูเรื่องของอุบัติเหตุระหว่างทางด้วย นายกฯถามเจ้าหน้าที่ต่อว่า มีวิ่งตลอด24ชั่วโมงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ตอบว่า เมื่อได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้จะวิ่งมาช่วยดับไฟ นายกฯจึงย้ำฝากปลัดกระทรวงคมนาคว่าช่วงนี้ขอให้ดูเรื่องค่าล่วงเวลาให้เจ้าหน้าที่เพราะอาจจะต้องทำงาน24ชั่วโมง อีกทั้งขอให้เจ้าหน้าที่ดูเรื่องป้องกันการเกิดไฟป่าให้ฉีดน้ำตลอดแนวได้หรือไม่ซึ่งเจ้าหน้าที่รายงานว่ามีพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางมาก จากนั้นนายกฯเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.พะเยาต่อ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี