เจ้าหน้าที่บุกจับหญิงวัย 50 ปีที่เปิดบัญชีม้าหลอกทำธุรกรรมการเงินฉ้อโกงชาวบ้านวงเงินความเสียหาย 50 ล้านบาท มี 5 หมายจับอ้างไม่รู้เรื่องเปิดบัญชีให้เพื่อนสนิทสมัยประถมนำเงินไปหมุนเวียนบัญชีเพื่อกู้เงิน
วันที่ 22มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจกองกำกับการสายตรวจ กองบังคับการปฏิบัติการพิเศษ (บก.ปพ.) ภายใต้การอำนวยการสั่งการของ พล.ต.ต.ศุภากร จันทาบุตร ผบก.ปพ., พ.ต.อ.เรืองรัตน์ หงษ์ทิพรัตน์ ผกก.สายตรวจ บก.ปพ. ร่วมกับทีมช้างศึกสองเล ของ ตชด.434 จ.พัทลุงนำหมายจับของศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีและหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต เข้าตรวจค้นและจับกุม น.ส.ตะวันนา หรือนา อายุ 50 ปี หลังจากสืบทราบว่ามาพักอาศัยอยู่ที่บ้าน หมู่ 1 ต.ควนรู อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
โดยเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าสังเกตุการณ์อยู่บริเวณหน้าบ้านจนแน่ชัดว่า น.ส.ตะวันนา อยู่ในบ้านจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม โดยพบว่าหน้าบ้านมีกล้องวงจรปิดคอยเฝ้าดูความผิดปกติด้วย ทีแรก น.ส.ตะวันนา ยังไม่ยอมเปิดประตูแต่เมื่อเจ้าหน้าที่แสดงหมายจับให้ดูก็ต้องยอมจำนนและเปิดประตูให้แต่โดยดี โดย น.ส.ตะวันนา เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี ลงวันที่ 9 มี.ค.69 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และเป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ลงวันที่ 22 ส.ค.65 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นและความผิดเกี่ยวกับข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ และเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนแกะรอยจนทราบว่าหนีมากบดานอยู่ที่บ้านหลังนี้
ทั้งนี้ พฤติกรรมของ น.ส.ตะวันนา จะเป็นคนเปิดบัญชีม้าเพื่อทำธุรกรรมทางการเงินเกี่ยวกับธุรกิจผิดกฏหมายและหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนโดยเฉพาะระบบออนไลน์ เช่น หลอกขายสินค้าทางออนไลน์ โดยไม่มีสินค้าอยู่จริง หรือการทำธุรกรรมทางการเงินในรูปแบบต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ที่หลอกหลวงให้ลูกค้าโอนเงิน และจากการสอบถาม น.ส.ตะวันนา อ้างว่าตนไม่เคยรู้เรื่องคดีที่ถูกออกหมายจับและไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกง
แต่สาเหตุที่ถูกออกหมายจับเพราะไปเปิดบัญชีธนาคารให้กับเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่รู้จักกันตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษาและกินนอนด้วยกันจึงเชื่อใจ ซึ่งตอนนั้นเพื่อนคนนี้เปิดบริษัทร้านวัสดุก่อสร้างที่ จ.สุราษฎร์ธานี และให้ตนเปิดบัญชีให้เพื่อนำไปหมุนเวียนเงินในบัญชีเพื่อจะทำการกู้เงินให้ได้วงเงินมากขึ้น และหลังจากนั้นเพื่อนคนนี้ก็ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯและขาดการติดต่อไปจนถึงปัจจุบัน และไม่เคยรู้มาก่อนว่าเพื่อนพาไปใช้ทำธุรกรรมทางการเงินที่ผิดกฏหมายฉ้อโกง จนกระทั่งมาทราบตอนถูกออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกง และเคยถูกจับกุมครั้งแรกเมื่อปี 61 และพ้นโทษออกมาเมื่อปี 65 และตอนที่อยู่ในเรือนจำก็เคยพบกับอีกหลายคนที่ถูกจับในคดีเดียวกับตนและถูกเพื่อนคนนี้หลอกให้เปิดบัญชีม้าให้
ล่าสุดในวันนี้ก็เพิ่งทราบว่ายังมีหมายจับติดตัวอีก 2 หมายที่เจ้าหน้าที่ถูกเจ้าหน้าที่ตามมาจับกุม ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยหลบหนีเพราะรู้ตัวดีว่าไม่เคยไปหลอกใคร มีอาชีพขายงานศิลปะทางออนไลน์ และจากการตรวจสอบประวัติของ น.ส.ตะวันนา พบว่าเคยมีหมายจับคดีฉ้อโกงถึง 5 หมายเป็นหมายจับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือบก.ปอท. 2 หมาย ซึ่งจับแล้ว หมายจับของ สภ.อุดรธานี เป็นหมายที่จับแล้วเช่นกัน ซึ่งหมายจับที่เจ้าหน้าที่นำมาจับกุมอีก 2 หมายจับของ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี วงเงินเสียหาย 2,673,000 บาทและหมายจับของ สภ.เมืองภูเก็ต วงเงินเสียหาย 3,600,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายจากคดีฉ้อโกงประชาชนจากการเปิดบัญชีม้าทั้งหมดประมาณ 50 ล้านบาท โดยเฉพาะหมายจับของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี - บก.ปอท มูลค่ากว่า 46 ล้านบาท
ภายหลังถูกจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวส่งสภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับ และจะสอบสวนขยายผลไปยังผู้ที่เป็นต้นตอตัวการใหญ่ของการเปิดบัญชีม้าเพื่อนำไปทำธุรกรรมผิดกฏหมายฉ้อโกงชาวบ้านในเครือข่ายนี้ต่อไปซึ่งเจ้าหน้าที่มีข้อมูลอยู่แล้วตามคำให้การของ น.ส.ตะวันนา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี