“ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ” ปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามใดๆ ของนักข่าวถึงความเห็นหลังอ่านผลการศึกษาของป.ป.ช.-ความเห็นกฤษฎีกา รวมถึงแหล่งที่มางบฯที่ใช้ดำเนินโครงการเงินดิจิทัล และกรณีนายกฯระบุทุกหน่วยงานในบอร์ดเงินดิจิทัลเห็นด้วยกับโครงการนี้
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่มีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ต่างประเทศ เป็นประธานการประชุม ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ผู้ว่าฯธปท.)ถึงความเห็นต่อโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท หลังอ่านความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)แล้ว แต่นายเศรษฐพุฒิ ไม่ได้ตอบคำถามดังกล่าว
เมื่อถามอีกว่า มีอะไรน่าเป็นห่วงหรือไม่ หากใช้งบประมาณปกติดำเนินโครงการ แต่นายเศรษฐพุฒิ ก็ยังไม่ตอบคำถาม และพยายามหลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์ ผู้สื่อข่าวพยายามถามถึงกรณีนายกฯระบุว่า ทุกภาคส่วนเห็นด้วยแล้ว รวมถึงผู้ว่าฯธปท.ด้วย แต่นายเศรษฐพุฒิก็ไม่ได้ตอบคำถามเช่นกัน ก่อนรีบเดินขึ้นรถที่จอดรออยู่ แล้วออกจากทำเนียบฯไปทันที
ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เน้นย้ำการทำงานของรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยรัฐบาลดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องในมาตรการหลัก อาทิ บรรเทาภาระค่าครองชีพโดยเฉพาะค่าสาธารณูปโภค ดำเนินมาตรการแก้หนี้ให้ประชาชนทั้งระบบ ออกมาตรการกระตุ้นกำลังซื้อผ่าน Easy e-Receipt และ มาตรการฟรี VISA สนับสนุนการท่องเที่ยว อย่างไรก็ดี ยังมีเครื่องชี้ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ทำให้เห็นว่าประเทศไทยยังฟื้นตัวไม่เต็มศักยภาพ
นายชัยกล่าวต่อว่า การดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจถือว่าจำเป็นอย่างมีนัยยะสำคัญ และนายกฯให้ความสำคัญว่าประเทศไทยต้องฟื้นตัวได้ระดับเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศไทยจึงยังต้องดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม ป้องกันปัจจัยที่อาจเกิดขึ้นจากความเสี่ยงของเศรษฐกิจปี 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ครั้งที่ 2/2567 จึงมีข้อสรุปว่าโครงการ Digital Wallet มีความจำเป็น ที่จะช่วยเพิ่มเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจให้กระจายตัวไปสู่ท้องถิ่น สร้างโมเมนตั้มให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้อย่างเต็มศักยภาพ
อย่างไรก็ดี ในที่ประชุมฯ ได้พิจารณาถึงรายละเอียดของโครงการฯ เพื่อให้สอดคล้องกับความเหมาะสม โดยได้1. มอบหมายให้กระทรวงการคลัง และสำนักงบประมาณ ร่วมกันพิจารณาแหล่งงบประมาณทางเลือกเพิ่มเติม 2. มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับประเภทร้านค้า และสินค้าที่เข้าร่วมโครงการฯ 3. มอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดส.) และ สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) (สพร.) ร่วมกันดำเนินการศึกษารูปแบบของระบบ และแนวทางการพัฒนาระบบที่สามารถรองรับการดำเนินโครงการฯ
4.มอบให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งคณะอนุกรรมการด้านตรวจสอบการกระทำที่อาจเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของโครงการฯ โดยให้ทุกส่วนนำมาเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพิจารณา เพื่อให้ได้ข้อสรุปในวันที่ 10 เมษายนนี้ เมื่อพิจารณาแนวโน้มทางเศรษฐกิจของประเทศ ปัจจัยที่ต้องเผชิญ Headwind ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ถือว่าโครงการ Digital Wallet จำเป็น โดยนายกฯย้ำให้การขับเคลื่อนโครงการ คำนึงถึงความเห็นของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน และคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของประเทศและประชาชนเป็นสำคัญ แต่ต้องเป็นไปภายใต้วินัยการเงินการคลังของรัฐ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี