ดับเครื่องชน!‘ทนายตั้ม’แจ้งเอาผิด‘บิ๊กตำรวจ-ภรรยา’ร่วมฟอกเงิน โวหลักฐานเพียบ
1 เมษายน 2567 ที่ สน.เตาปูน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ “ทนายตั้ม” เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เดินทางนำเอกสารหลักฐานรวม 175 แผ่น เข้าพบ พ.ต.ท.ฐิตานนท์ ไชยเขียว รอง ผกก.(สอบสวน) สน.เตาปูน เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ “พล.ต.อ.” และภริยา รวมถึงบัญชีม้าอีก 2 บัญชี ในข้อหาฟอกเงินฯ , ร่วมกันฟอกเงิน และสบคบฯฟอกเงิน ในคดีรับเงินบัญชีม้าของ น.ส.พิมพ์วิไล ในเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์
นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้มีการเตรียมหลักฐานมาให้กับพนักงานสอบสวน ซึ่งมีการแถลงข่าวไปแล้ว และเป็นเอกสารหลักฐานชุดเดียวกับที่เคยยื่นกับ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ให้ตรวจสอบ เพื่อแจ้งความดำเนินคดี พล.ต.อ. และภริยา และบัญชีม้า 2 บัญชี โดยยืนยันว่าวันนี้เป็นการแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ไม่ใช่การลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน
ส่วนกรณีที่มีการถอนฟ้องคดีหมิ่นประมาทฯกับตนนั้น มองว่าเป็นการกลัวว่าตนไปขอสเตทเม้นท์ของคนในครอบครัวออกมา แล้ววันนี้ตนจะเดินทางไปที่ศาลเพื่อขอคัดคำฟ้องว่ามีส่วนไหนที่เป็นเท็จหรือไม่ หากพบส่วนไหนที่เป็นเท็จก็จะมีการดำเนินการต่อไป โดยวันนี้จะแจ้งเฉพาะข้อหา เกี่ยวกับการฟอกเงิน ซึ่งยังไม่มีการแจ้งข้อหาเกี่ยวกับ ม.157 เพราะกลัวว่าเรื่องจะไปถึง ป.ป.ช.ทันที
นายษิทรา กล่าวว่า ส่วนความคืบหน้าที่มีการยื่นสำนวนให้ทาง บก.ปปป. ทำการตรวจสอบเส้นทางการเงินนั้น มีการเข้าไปให้ปากคำแล้ว คาดว่าในวันที่ 3-4 เม.ย.นี้ จะมีการนัดพยานเพื่อไปสอบปากคำ ซึ่งอยู่ระหว่างการประสานทางนางพิมพ์วิไล เจ้าของบัญชีม้า และสายลับ หลังจากนี้จะดำเนินคดีถึงที่สุด และจะดูว่าพนักงานสอบสวนทำตามขั้นตอนเหมือนคดีทั่วไปหรือไม่ หากพนักงานสอบสวนไม่ดำเนินการ ก็จะดำเนินคดีพนักงานสอบสวนด้วย
“มั่นใจว่ามีหลักฐานการโอนเงินทำบุญที่วัดซึ่ง พล.ต.อ. มีอำนาจในการควบคุมสั่งการบัญชีม้าที่รับส่วยมาถึงมั่นใจจะมาดำเนินคดี เพราะมีโอกาสที่จะถูกดำเนินคดีกลับสูง โดยหลังจากนี้ตนจะทำหนังสือคำให้การ เพื่อให้พนักงานสอบสวน ดูว่าจะมีการสอบประเด็นไหนบ้าง” นายษิทรา กล่าว
นายษิทรา กล่าวถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ว่า หากเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศอื่นนั้น เมื่อพบว่าเป็นเรื่องที่ระดับ พล.ต.อ. ต้องฐานกระทำผิดฟอกเงิน ป่านนี้คงมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบไปแล้ว ไม่ใช่นิ่งเงียบ ไม่สนใจอะไรเลย จนมีฝ่ายค้านติดต่อเข้ามาเพื่อขอข้อมูลเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องความเดือดร้อนประชาชน และถือว่าเรื่องส่วยเป็นเรื่องใหญ่
“หากพบว่ามีเส้นเงินไปทำบุญ เป็นเงินบาปที่วัดไหน รวมถึงมีคนแจ้งเข้ามาอีก 2 วัด ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูลอยู่ แต่ตนไม่อยากเอ่ยชื่อให้วัดเสียหาย คาดว่าจะมีการโอนเงินไปหลายครั้ง ส่วนกรณีที่ออกมาแฉเรื่องส่วยทำให้ตำรวจออกมาทำงานกัน ตามจับทั้งต่างด้าวและอื่นๆ ตอนนี้เชื่อว่าคนเก็บส่วยเริ่มกังวลว่าจะถูกคนจ่ายเงินแบล็กเมล์ แล้วนำมาส่งให้ตน สื่อก็ตื่นตัวความเดือดร้อนประชาชนก็น้อยลงไปด้วย” นายษิทรา กล่าว
เมื่อถามว่านอกจากเส้นเงินไปทำบุญแล้ว ยังมีเส้นเงินไปทำอย่างอื่นอีกหรือไม่ นายษิทรา กล่าวว่า ตอนนี้ที่ชัดเจนที่เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ. คือการนำไปทำบุญและมีการให้คนในครอบครัวเป็นรายเดือน ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกับการจับกุมปราบปรามการกระทำความผิด
เมื่อถามว่ามีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้นหรือไม่ เพราะผู้นำฝ่ายค้านได้ยื่นมือเข้ามาช่วย นายษิทรา กล่าวว่า รู้สึกอุ่นใจขึ้น เพราะนักการเมืองระดับผู้นำฝ่ายค้านให้ความสนใจในเรื่องนี้ในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่น
“ที่มาแจ้งความที่นี่เพราะเห็นว่าที่ สน.เตาปูน มีการดำเนินคดีเรื่องเว็บพนันบีเอ็นเคแล้ว แสดงว่าพนักงานสอบสวนต้องมีหลักฐานเบื้องต้นแล้วที่จะรู้ว่านางพิมพ์วิไล เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน โอนเงินให้สายไหนสายนั้นต้องมีความผิดเช่นเดียวกัน” นายษิทรา กล่าว
เมื่อถามว่าวันข้างหน้าถ้าคดีไปอยู่ในมือ ป.ป.ช. จะดำเนินการอย่างไร นายษิทรา กล่าวว่า ถ้าคดีไป ป.ป.ช.มีความมั่นใจกว่า แต่ก่อนที่จะไป ป.ป.ช.อยากให้ทางตำรวจตรวจสอบเส้นเงินให้ละเอียดเรียบร้อยก่อนแล้วค่อยส่งไปเพราะ ป.ป.ช.จะช้ากว่าตำรวจ
“ถ้าไม่มั่นใจเอาผิดคงไม่มาแจ้งความดำเนินคดีกับ พล.ต.อ. เพราะก็กลัวเรื่องความปลอดภัย ตอนนี้ไม่มีใครมาดูแลเรื่องความปลอดภัยของตนเลย มีแต่ทางผู้นำฝ่ายค้านเขากังวล แต่ก็ไม่มีกำลังพลที่จะมาดูแลได้ ตนก็จะดูแลตัวเองไปก่อน ซึ่งถ้าเอาตำรวจมาดูแลยิ่งกลัว” ทนายตั้ม กล่าว
ภายหลังนายษิทรา เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนแล้ว ออกมาเปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบถามกับตนว่าจะให้รวมคดีนี้เป็นสำนวนเดียวกับคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เลยหรือไม่ โดยตนบอกให้นำไปรวมเป็นคดีเดียวกันด้วย ซึ่งอีกประมาณ 2-3 วันจะเดินทางเข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน เพิ่มเติม
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี