ตำรวจสภ.กุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ คุมตัวอดีตพระดังข่มขู่ และถ่ายคลิปหญิงสาวประจานไปค้นกุฏิพบปืนแบลงค์กัน 4 กระบอก ลูกกระสุนปืน และยาบ้าเพียบ ขณะที่เจ้าตัวให้การภาคเสธ ระบุ “มันเป็นกรรม” ด้านตำรวจแจ้งข้อหา และคัดค้านการประกันตัว
วันที่ 1 เมษายน 2567 ความคืบหน้ากันจอมพลัง หรือนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ ลงพื้นที่ สภ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ ประสานงานกับ พล.ต.ต.ตรีวิทย์ ศรีประภา ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.เมธาพงษ์ บุญศรี ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ นายผดุงศักดิ์ อิ่มเอิบ ปลัด จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งมอบหมายให้ นายประสงค์ จันทร์กระจ่าง ป้องกัน จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอกุฉินารายณ์ เข้าติดตามความคืบหน้าและช่วยเหลือคดีพระสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งใน อ.กุฉินารายณ์ แอบมีสัมพันธ์กับหญิงสาววัย 48 ปี แล้วถ่ายคลิปแบล็คเมย์ ส่งภาพโป๊เปลือยตอนมีสัมพันธ์กับหญิงให้คนในครอบครัว และส่งไปหยามใจสามี
นอกจากนี้พระยังมีอาวุธปืน โดยจะใช้ปืนประกอบพิธีลองของโดยจะยิงใส่หลังคนมาร่วมพิธี พระเคยใช้อาวุธปืนตบเข้าที่บริเวณใบหน้าของหญิง และยิงถากไปที่แขน และบังคับให้หญิงบอกเลิกกับสามีถ้าไม่เลิกไม่ยอมมาอยู่ด้วยก็ขู่จะขู่ฆ่า และจะยิงหัวสามี และยังมีพฤติกรรมเสพยา กระทั่งหญิงแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ. กุฉินารายณ์ และลูกสาวส่งเรื่องมาขอความช่วยเหลือกับกันจอมพลัง
จากนั้นชุดสืบสวนภาค 4 ชุดสืบสวน ภ.จว.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวน สภ.กุฉินารายณ์ ได้จับกุมตัวพระชัยชนะ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ จ 179/2567 ลงวันที่ 19 มีนาคม 2567 ข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงของคู่ถูกข่มขืนใจหรือของผู้อื่นจนผู้ถูกข่มขืนใจยินยอมโดยมีอาวุธ พร้อมของกลางอาวุธปืนและยาบ้าจำนวน 51 เม็ดได้ที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี ก่อนคุมตัวไปลาสิกขาบทและนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.กุฉินารายณ์เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ ได้คุมตัวอดีตพระชัยชนะ ไปค้นกุฏิที่พัก และบริเวณภายในสำนักสงฆ์พระธาตุภูหินกอง ต.เหล่าใหญ่ อ.กุฉินารายณ์ โดยมีชาวบ้านมามุ่งดูเหตการณ์จำนวนมาก
โดยจากการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในกฏิเบื้องต้นพบอาวุธปืนแบลงค์กัน 4 กระบอก ยาบ้า 14 เม็ด และลูกกระสุนปืนอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน พร้อมคุมตัวอดีตพระชัยชนะไปสอบปากคำที่โรงพัก
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามอดีตพระชัยชนะถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งอดีตพระชัยชนะไม่ให้สัมภาษณ์ แต่บอกเพียงสั้นๆว่า “มันเป็นกรรม” จะให้การในชั้นศาล และรอให้ทนายเป็นคนให้ข้อมูล ซึ่งขณะนี้กำลังให้พี่ชายหาทนายมาต่อสู้คดีอยู่
ด้าน พ.ต.อ.เมธาพงษ์ บุญศรี ผกก.สภ.กุฉินารายณ์ ระบุว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การภาคเสธ จะขอให้การในชั้นศาล ขณะนี้อยู่ระหว่างให้พี่ชายแต่งตั้งทนายมาสู้คดี ซึ่งเบื้องต้นทางพนักงานสอบสวนจะได้แจ้งข้อหาข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกายเสรีภาพชื่อเสียงของคู่ถูกข่มขืนใจหรือของผู้อื่นจนผู้ถูกข่มขืนใจยินยอมโดยมีอาวุธ ซึ่งเป็นข้อหาตามหมายจับไปก่อน ส่วนข้อหาอื่นๆทั้งยาเสพติด และอาวุธปืนจะมีการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อหาเพิ่มต่อไป ทั้งนี้หลังจากสอบปากคำจะส่งไปฝากขัง และพนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีพฤติกรรมข่มขู่ผู้เสียหาย และหลบหนี
ขณะที่ ชาวบ้าน กล่าวว่า ปกติตนก็เคยมาทำบุญถวายอาหารที่วัดแห่งนี้เกือบทุกวัน แต่ก็ไม่ได้สนิทกับพระดังกล่าว จึงไม่รู้เรื่องรวมที่เกิดขึ้น หลังจากทราบข่าวก็ตกใจ เพราะไม่คิดว่าเกิดขึ้นที่บ้านตนเอง ซึ่งตนก็ยังศรัทธาวัดเหมือนเดิม แต่ในตัวนั้นคงหมดศรัทธาแล้ว และก็ต้องปล่อยเป็นหน้าที่ของกฎหมายต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี