‘ตม.จว.สตูล’สนองนโยบาย‘ผบช.สตม.-ผบก.ตม.6’สแกนพื้นที่กวดขันกฎหมายคนเข้าเมือง จับปรับนายจ้างไม่แจ้งที่พักอาศัยของคนต่างด้าว พร้อมบูรณาการ‘ตชด.436-ฝ่ายปกครอง’จับเมียนมาครอบครองยาบ้า ทั้งเสพเอง-ขายให้คนในละแวกใกล้เคียงราคาเม็ดละ 20 บาท
2 เมษายน 2567 พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล ผกก.ตม.จว.สตูล และ พ.ต.ท.ระลึก อินทรัศมี รอง ผกก.ตม.จว.สตูล สั่งการให้ ว่าที่ พ.ต.ท.ยงยุทธ เลิศปรีชาพงศ์ สว.ตม.จว.สตูล นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.สตูล ออกตรวจสอบสถานประกอบการกิจการก่อสร้าง และห้องพักของคนต่างด้าวในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อประชาสัมพันธ์กฎหมายคนเข้าเมืองและหากพบผู้กระทำความผิดก็ให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง
ต่อมาวันที่ 1 เมษายน 2567 เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.สตูล สืบสวนจนทราบว่าที่บริเวณงานก่อสร้างโรงผลิตกระแสไฟฟ้าริมถนนสตูลธานี ต.เกตรี อ.เมืองสตูล จ.สตูล มีแรงงานต่างด้าวเดินทางเข้ามาใหม่เป็นจำนวนมาก และอาจมีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จึงเข้าไปปิดล้อมตรวจค้น และตรวจสอบแรงงานต่างด้าวในไซส์งานก่อสร้างทุกคน พบว่า ทุกคนเป็นแรงงานสัญชาติเมียนมา มีหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงานที่ถูกต้อง แต่เมื่อตรวจสอบข้อมูลในระบบสารสนเทศ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พบว่า มีแรงงานต่างด้าว 11 คน ไม่ได้แจ้งที่พักอาศัยต่อเจ้าพนักงานอย่างถูกต้อง จึงได้เรียกนายไชยยันต์ อายุ 46 ปี ชาวไทย ผู้ดูแลคนงานต่างด้าวดังกล่าวมารับทราบการกระทำความผิด พร้อมปรับเป็นเงิน 17,600 บาท และตรวจพบคนต่างด้าวอีก 1 ราย ที่ไม่ได้รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานเมื่ออยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่า 90 วัน จึงได้ปรับเป็นเงิน 4,000 บาท ซึ่งค่าปรับดังกล่าวเป็นไปตามที่กำหนดในบันทึกคณะกรรมการเปรียบเทียบตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2541 เรื่องมอบหมายให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการเปรียบเทียบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด
สำหรับการดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 ที่สั่งการให้ระดมกวาดล้างอาชญากรรมห้วงเทศกาลสงกรานต์ 2567 ให้ตรวจคนเข้าเมืองทุกจังหวัดตรวจสอบคนต่างด้าวที่เดินทางเข้าและออกราชอาณาจักรอย่างเข้มงวด จับกุมผู้กระทำความผิดตามกฎหมายคนเข้าเมือง และการทำงานของคนต่างด้าว โดยมุ่งเน้นเพื่อเป็นการกวาดล้างอาชญากรรมตามนโยบายของรัฐบาล
นอกจากนี้ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. , พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 ,พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล ผกก.ตม.จว.สตูล, พ.ต.ท.ระลึก อินทรัศมี รอง ผกก.ตม.จว.สตูล และ พ.ต.ท.คำนึง อุ่นปลอด ผบ.ร้อย ตชด.436
ตม.จว.สตูล และฝ่ายปกครองจังหวัดสตูล ได้รับการประสานจาก เจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติด ตชด.436 ที่ได้ทำการสืบสวนโดยได้รับแจ้งเบาะแสจากสายลับว่ามีนายพู ชาวเมียนมา มีพฤติกรรมจำหน่ายยาบ้า ที่ขนำไม่มีเลขที่ในชุมชน หมู่ 2 ต.ปากน้ำ อ.ละงู จ.สตูล จึงได้ประชุมวางแผนร่วมกันเพื่อทำการจับกุม จนวันที่ 27 มีนาคม 2567 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้เข้าตรวจสอบบริเวณขนำไม่มีเลขที่ดังกล่าว พบชายวัยรุ่น 1 คน นั่งอยู่ข้างในขนำ เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ได้มีอาการพิรุธ หน้าซีด ตัวสั่นชัดเจน พูดคุยสอบถามจนทราบว่าชื่อ พู เป็นชาวเมียนมา อายุ 30 ปี สามารถสื่อสารภาษาไทยได้เข้าใจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอตรวจเอกสารของคนต่างด้าวซึ่งนายพู ยอมรับว่าไม่มีแต่อย่างใด
หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นภายในขนำดังกล่าว และค้นสิ่งของส่วนตัวของนายพู จนพบยาบ้ารวมจำนวน 985 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีน้ำเงินแบบกดเปิดปิด ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาลซึ่งตั้งอยู่ในขนำดังกล่าว
นายพู ยอมรับว่ายาบ้าทั้งหมดเป็นของตนเองจริงและเพิ่งจะเสพยาบ้าก่อนที่จะถูกตรวจพบ โดยยาบ้าดังกล่าวได้แบ่งขายให้กับคนในละแวกใกล้เคียงในราคาเม็ดละ 20 บาท เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวนายพูไปตรวจหาสารเสพติดที่ รพ.สตูล และพบว่ามีสารเมทแอมเฟตามีนในปัสสาวะของนายพูจริง จึงได้จับกุมดำเนินคดีในความผิดฐาน “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน)โดยมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนโดยฝ่าฝืนกฎหมาย, เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย”
หลังจากนั้นได้ทำการสืบสวนขยายผลเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยคนต่างด้าวหลังจากได้รับโทษตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว จะต้องถูกผลักดันกลับประเทศและยังต้องห้ามเดินทางกลับเข้ามาในประเทศไทยตามที่กฎหมายกำหนดเอาไว้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี