ดีอี-ตำรวจดิ้นเร่งปราบ30วัน
ตัดวงจรแก๊งคอลฯ/เว็บพนัน
“ดีอี” งัดยาแรงเร่งปราบโจรออนไลน์ มั่นใจเส้นตาย 30 วันเห็นผลส่วนตำรวจ บช.ก.นำหมายศาลเข้าค้นอาคารร้างที่ จ.สระแก้ว-บริษัทในกทม.ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์-พนันออนไลน์ พบวางสายอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงใต้ดินลากข้ามแดนไปกัมพูชา คุมตัวผู้ขอใช้งานฯ เร่งสอบสวนขยายผลทันควัน
เมื่อวันที่ 2เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง กล่าวถึงกรณีที่มอบหมายให้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมกับกองบัญชาการสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) แก้ปัญหาอาชญากรรมทางออนไลน์ ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้สั่งการกับนายประเสริฐ ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ บช.สอท. เพื่อมีการบูรณาการและให้มีผลชี้วัดได้ ซึ่งอยากให้ชัดเจนภายใน 30 วัน
ด้านนายประเสริฐ กล่าวว่า ช่วงท้ายการประชุมครม.นายเศรษฐา ได้สั่งการให้กระทรวงดีอี บูรณาการการทำงานร่วมกับ บช.สอท.เร่งปราบปรามอาชญากรรมทางออนไลน์ ให้สัมฤทธิ์ผลภายใน 30 วัน จึงเตรียมประชุมร่วมกับบช.สอท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยด่วนเพื่อกำหนดทีมทำงานและดำเนินการตามข้อสั่งการนายกฯ เราต้องใช้ยาแรง เพราะอาชญากรรมทางไซเบอร์โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ถือว่าทำความทุกข์ให้กับคนไทยเป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า 30 วัน จะสามารถเห็นผลได้เลยหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า เห็นผล อยากให้ทุกคนคอยติดตามดู อย่างน้อยจะต้องมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ในการเอาผิดผู้กระทำความผิดเมื่อถามว่าทางสหประชาชาติ เปิดเผยว่ารัฐบาลเกาหลีเหนือมีการโจรกรรมเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ทั่วโลกเพื่อนำไปพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งประเทศไทยก็มีสกุลเงินคริปโตฯ ทางกระทรวงดีอี ตรวจสอบเรื่องนี้อย่างไรหรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ได้ให้คณะกรรมการคุ้มครองรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นผู้ดูแลเรื่องนี้ ขณะนี้มีการพูดคุยกันอยู่ เราติดตามสถานการณ์ตลอดเพราะถือเป็นเรื่องใหม่และจะต้องป้องกัน
ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีที่นายกฯ มีข้อสั่งการถึง บช.สอท.ให้เร่งขับเคลื่อนปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดที่หลอกลวง ใช้กลโกง ต้มตุ๋นพี่น้องประชาชน หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และเว็บพนันออนไลน์ โดยจะต้องขยายผลทั้งขบวนการให้ถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง มีผลปฏิบัติการเป็นประจักษ์และเป็นรูปธรรมภายใน 1 เดือน ว่าได้กำชับไปยัง พล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ รอง ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีลบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร.ให้ขับเคลื่อนตามนโยบายและข้อสั่งการของนายกฯ อย่างจริงจังและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมตามกำหนดเวลา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นไว้วางใจให้แก่พี่น้องประชาชน พร้อมกันนี้ได้สั่งการให้ใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในการตรวจสอบและปราบปรามเว็บพนันออนไลน์ด้วย
อีกด้านหนึ่งผู้สื่อข่าวรายงานว่ากำลังตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) สนธิกำลังร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 , ตำรวจภูธร จ.สระแก้ว , ทหารจากกองกำลังบูรพา และเจ้าหน้าที่ กสทช.นำหมายศาลจังหวัดสระแก้ว เข้าตรวจค้นอาคารไม่มีเลขที่ หมู่ 7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อตัดวงจรการดำเนินการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์โดยชุดสายตรวจออนไลน์ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ติดตามตรวจสอบเว็บไซต์ผิดกฎหมาย ซึ่งจากการสืบสวนพบเว็บไซต์ที่กระทำความผิดมีการใช้งานอินเตอร์เน็ตในพื้นที่อาคารดังกล่าว จากการตรวจสอบพบว่าเป็นอาคารร้างของสำนักงานขายคอนโดมิเนียม แต่ไม่ได้ก่อสร้าง มีการติดตั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่น่าจะเกี่ยวพันกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเว็บพนันออนไลน์ โดยมีบริษัทเอกชนรายหนึ่ง เป็นผู้ขอใช้บริการอินเตอร์เน็ตแบบ leased line ความเร็วสูง(1000mbps/200mbps) เป็นความเร็วที่มากกว่าตามบ้านเรือนทั่วไป
นอกจากนี้ยังพบว่ามีการฝังสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตใต้ดิน ลากผ่านที่ดินบริษัทอสังหาริมทรัพย์แห่งหนึ่งด้านหลังอาคารสำนักงานแห่งนี้ เป็นระยะทางกว่า 700 เมตร ข้ามแดนไปยังประเทศกัมพูชา รวมทั้งได้พบอีกว่ามีการขอใช้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงลักษณะเดียวกัน ติดตั้งยังอาคารดังกล่าวทั้งหมด 6 วงจร ตรวจสอบพบหมายเลข IP ที่เปิดให้บริการกว่า 384 หมายเลขมีชื่อผู้ขอใช้บริการอินเตอร์เน็ต 4 ราย แต่พบว่าผู้ชำระค่าบริการรายเดือนเป็นบุคคลเดียวกัน
ทั้งนี้ มีการประสานรถขุดดินจากทหารกองกำลังบูรพา ขุดหาแนววางสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตใต้ดิน ซึ่งระหว่างตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบร่องรอยว่าสายถูกตัด3 เส้น จึงตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้ามาไม่ถึง1 ชั่วโมง มีชาย 2 คน ได้เข้ามาตัดสายจึงออกติดตามตัวชายทั้งสอง จนพบตัว และสอบถามจนได้ความว่าได้รับคำสั่งจาก นาย ป.ที่เป็นเจ้านายให้ตัดสายดังกล่าว
ต่อมากำลังเจ้าหน้าที่อีกชุดได้เข้าตรวจสอบบริษัทให้บริการเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ต แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.ภายหลังพบว่าเป็นบริษัทที่มีชื่อขอใช้สัญญาณอินเตอร์เน็ตที่อาคารร้างในพื้นที่จ.สระแก้ว โดยพบตัวนาย ก.ซึ่งเป็นกรรมบริษัท และเป็นผู้ชำระค่าบริการอินเตอร์เน็ตภายในอาคารร้างจากการตรวจค้นพบเอกสารเกี่ยวกับการเช่าใช้บริการอินเตอร์เน็ตที่อาคารร้างและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์9 รายการ
สอบถามนาย ก.รับว่าเป็นผู้ขอใช้อินเตอร์เน็ตและติดตั้งสายสัญญาณด้วยตนเอง แต่รับว่าจ้างจาก นาย ป.เป็นรายเดือนๆ ละ 300,000 บาท เป็นเวลาเกือบ 2ปี ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2544 มาตรา 67 (1) ฐานประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน1 แสนบาท หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะขยายผลไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อเร่งติดตามตัวมาสอบสวนดำเนินคดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี