ปธ.ศาลฎีกาเปิดแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา-แผนกคดีฟอกเงินฯในศาลแพ่งทรงประสิทธิภาพมากที่สุด ใช้ปราบบัญชีม้า แก๊งคอลฯจัดผู้พิพากษาเชี่ยวชาญ ลุยคดีเฉพาะทาง สร้างความเที่ยงธรรมรวดเร็ว
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 2 เมษายน ชั้น 6 อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นางอโนชา ชีวิตโสภณ ประธานศาลฎีกา พร้อมด้วยนายธานี สิงหนาท เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายยอดชาย วีระพงศ์ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา นายอมรรัตน์ กริยาผล อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม และคณะผู้บริหารสำนักงานศาลยุติธรรม ศาลอาญา ศาลแพ่ง ร่วมพิธีเปิดแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา และแผนกคดีฟอกเงินและมาตรการทางแพ่งในศาลแพ่ง
นางอโนชา กล่าวเปิดงานว่า อาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นอาชญากรรมที่ใช้วิธีการทางเทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์เข้ามาเป็นเครื่องมือในการกระทำผิด ซึ่งมีบทบาทในสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นช่องทางเอารัดเอาเปรียบและล่อลวงประชาชน จนได้ไปซึ่งทรัพย์สินมากมายมหาศาล ทั้งยังใช้เป็นช่องทางการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ส่งผลกระทบต่อประชาชนและประเทศชาติ เช่น การเปิดบัญชีเงินฝากธนาคารของบุคคลอื่น หรือ "บัญชีม้า"เพื่อใช้เป็นช่องทางการกระทำผิด หรือคดีเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ คดีเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หลายปีที่ผ่านมา ศาลอาญาพิจารณาพิพากษาคดี โดยยึดเจตนารมณ์มุ่งคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ แต่เมื่อรูปแบบการก่ออาชญากรรม มีความซับซ้อนมากขึ้น
ศาลอาญาในฐานะหนึ่งในเสาหลักของสถาบันตุลาการ จึงจำต้องปรับตัวให้เท่าทันต่อสถานการณ์ ระบบการพิจารณาพิพากษาคดีแบบเดิมอาจไม่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้ทันท่วงที การจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมฯในศาลอาญา จึงเป็นวิธีการรับมือที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด เนื่องจากคดีอาชญากรรมฯในศาลอาญา และคำร้องขอใช้มาตรการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะได้รับการชำระทางคดี โดยผู้พิพากษาที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน อีกทั้ง ยังมีการพัฒนาระบบการสืบพยานหลักฐานในรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งเสริมการทำงานของผู้พิพากษาให้เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว เหมาะสมกับการแสวงหาข้อเท็จจริงในคดีให้แก่ประชาชนอย่างมีคุณภาพ ทั้งเป็นการส่งเสริมให้ผู้พิพากษาที่เชี่ยวชาญคดีชำนัญพิเศษ มีโอกาสพิจารณาพิพากษาคดีตามความถนัดซึ่งเป็นการนำร่องให้มีการจัดตั้งแผนกคดีพิเศษต่าง ๆ ต่อไปอีกในอนาคต
นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า การจัดตั้งแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในศาลอาญา สำนักงานศาลยุติธรรมและศาลอาญาได้ขับเคลื่อนเพื่อให้การพิจารณาพิพากษาคดีที่มีลักษณะเป็นอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นไปโดยรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ เนื่องจากผู้กระทำผิดนั้นใช้วิธีการที่ซับซ้อน และยังมีผู้ร่วมกระทำผิดหลายรายเป็นเครือข่ายเพื่อให้ได้ทรัพย์สินและปกปิดอำพรางการกระทำความผิด ดังนั้นการสืบสวนตลอดจนการนำพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดในชั้นศาลจึงต้องรวดเร็วมีประสิทธิภาพ และจำเป็นต้องดำเนินการโดยบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเป็นการเฉพาะด้วย
สำหรับ“คดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” ที่จะเข้าสู่การพิจารณา คือคดีอาญาที่ฟ้องขอให้ลงโทษบุคคลที่กระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ คดีความผิดฉ้อโกง กรรโชกหรือรีดเอาทรัพย์ โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือ ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยแผนกคดีนี้มีอำนาจพิจารณาพิพาษาคดีที่อยู่ในเขตอำนาจและที่โอนมาตามกฎหมาย เว้นแต่คดีที่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของแผนกคดียาเสพติด แผนกคดีค้ามนุษย์ และยังให้พิจารณาเพื่อมีคำสั่งเกี่ยวกับคำร้องของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ด้วย
ด้านแผนกคดีฟอกเงินและมาตรการทางแพ่งในศาลแพ่ง ประธานศาลฎีกาในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (ก.บ.ศ.) ได้ลงนาม ให้จัดตั้งแผนกคดีฟอกเงิน ฯ ตามแนวทางที่ศาลแพ่งเสนอโครงการ เพื่อให้การบริหารจัดการคดีฟอกเงินและมาตรการทางแพ่งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพทั้งด้านความรวดเร็ว ด้านการเก็บรักษาความลับ ด้านการคุ้มครองสิทธิของประชาชนผู้สุจริต โดยสถานการณ์ปัจจุบันเท่ามกลางการพัฒนาอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี เงินและประโยชน์ที่ได้จากการก่ออาชญากรรมจำนวนมาก สามารถโยกย้ายได้อย่างรวดเร็วผ่านระบบอินเตอร์เน็ต การตั้งบริษัทและธุรกิจบังหน้า มูลนิธิและองค์กรการกุศล อีกทั้งศาลแพ่งเป็นศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ.2559 มาตรา 14 พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 ที่จะใช้มาตรการทางแพ่งกับผู้กระทำความผิดซื้อขายหลักทรัพย์ที่ไม่เป็นธรรม การจัดตั้งแผนกคดีนี้จึงสอดคล้องและเหมาะสมตามสภาพคดีปัจจุบันที่มีรูปแบบใหม่และความซับซ้อน ทั้งนี้ อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง ได้ออกประกาศให้เริ่มดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน2567 เป็นต้นไป
ด้านนายเผ่าพันธ์ ชอบน้ำตาล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ความจริงแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาได้จัดองค์คณะผู้พิพากษาไว้10 องค์คณะ มีผู้พิพากษา รวมทั้งหัวหน้าแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีด้วย ทั้งหมด 21 ท่าน โดยแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี นี้มีงานอยู่ 2 ส่วน คืองานคดีที่มีการฟ้องเข้ามา ตามพ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พวกบัญชีม้า ฉ้อโกง รีดเอาทรัพย์ที่มีการใช้คอมพิวเตอร์ และคดีอื่นๆ ที่บุคคลมีการฟ้องร้องเข้ามา
อีกส่วนหนึ่งไม่ใช่คดี แต่เป็นเรื่องการใช้มาตรการ เช่นการขอปิดเว็บไซต์ นอกจากนี้ก็ยังมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตราต่างๆ ก็จะมาอยู่กับแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีนี้ด้วย ซึ่งคดีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตั้งแต่ปี2561 มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจนเมื่อปี 2566 มีจำนวน 790 กว่าคดี ส่วนคดีบัญชีม้า ตามพ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกฎหมายใหม่เมื่อปี 2566 มีเพียง 8 คดี แต่คาดว่าจะมากขึ้น
นายเผ่าพันธ์กล่าวอีกว่า การที่ศาลอาญาตั้งแผนกนี้ขึ้นมาเฉพาะ มีจุดสำคัญเพื่อจะเข้าไปจัดการกับคดีประเภทนี้ให้เป็นระบบ ถูกที่ถูกทาง โดยส่วนใหญ่พยานหลักฐานซึ่งทราบกันดีว่า เป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์เกือบทั้งนั้น ถ้าเราไม่มีระบบ ไม่มีคนที่เข้าใจ สุดท้ายก็อาจจะต้องส่งพยานหลักฐานที่เป็นกระดาษ ซึ่งมองว่าเป็นปัญหาของกระบวนการทำงาน ขณะที่องค์คณะผู้พิพากษาก็จะมีความรู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ระดับหนึ่ง ทั้งนี้ศาลยุติธรรมได้นำเทคโนโลยี ระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการทำงานตั้งแต่ปี 2561 แล้ว และอาจจะต้องมีการอบรมหรือเพิ่มเติมทักษะ ตอนนี้ศาลยุติธรรมมีแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ส่วนศาลแพ่งก็มีแผนกซื้อขายออนไลน์ ส่วนในอนาคตจำเป็นจะต้องมีศาลอาชญากรรมทางเทคโนโลยีโดยเฉพาะหรือไม่ ก็ต้องถามสังคมว่ามีความต้องการหรือไม่ ถ้าประชาชนต้องการศาลยุติธรรมก็น่าจะรับมาพิจารณาให้สอดคล้องกัน
ก่อนหน้าที่จะมีแผนกคดีอาชญากรรมและเทคโนโลยี มีปัญหาของกระบวนการยุติธรรมทั้ง ตำรวจ ทนายความ อัยการ รวมทั้งสถาบันการเงินที่จะต้องแลกเปลี่ยน เชื่อมโยงข้อมูลกัน แต่มีปัญหาเรื่องหลักฐานการกระทำผิดที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ เมื่ออัยการฟ้องคดีศาล ถ้าเราไม่ทำให้เกิดความชัดเจน ก็จะต้องใช้หลักฐานเป็นกระดาษ ซึ่งเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมก็ได้ออกประกาศสำนักงานศาลยุติธรรมใช้ทั้งในศาลอาญา และศาลแพ่ง ว่า พยานหลักฐานที่เป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์อย่างไร ก็สามารถส่งให้ศาลได้ ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญและเป็นประโยชน์กับกระบวนการยุติธรรม โดยเฉพาะเมื่อเรามีแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี การส่งพยานหลักฐานเป็นไฟล์ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ก็จะช่วยให้การพิจารณาคดีมีความสะดวกรวดเร็วขึ้น
นายเผ่าพันธ์ กล่าวอีกว่า ศาลไม่ได้มีหน้าที่ปราบปรามบัญชีม้า เพียงแต่มีการพิจารณาคดีทั้ง 2 ฝ่าย เพราะเรามองกลับกัน คนที่ถูกกล่าวหาเป็นจำเลย ก็จะต้องได้รับความเป็นธรรมจากศาลด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีที่นายตำรวจใหญ่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้าหรือพนันออนไลน์ หากอัยการยื่นฟ้องเข้ามาจะอยู่ในแผนกคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีใช่หรือไม่ นายเผ่าพันธ์ กล่าวว่า แผนกคดีนี้เราดูข้อหาเป็นหลัก ไม่ได้ดูตำแหน่งของคู่ความว่ามีตำแหน่งอะไร แต่ถ้าข้อหาเข้าตามที่กำหนดของคดีแผนกนี้ ซึ่งอาจเป็นข้อหาเกี่ยวกับบัญชีม้าและข้อหาอื่น ก็อยู่ในอำนาจของแผนกคดีอาชญากรรมและเทคโนโลยี.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี