■■ ประชาชนซึ่งเข้าไปใช้สวนลุมออกกำลังตลอดเกือบทุกวันคนหนึ่งได้แลเห็นผู้ว่าฯกทม. ทำกิจกรรมเกี่ยวกับสายไฟฟ้าลงดินไม่ใกล้ไม่ไกลศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมฯ ด้วยใจที่อยากพบอยากเจออยากคุยกับผู้ว่าฯกทม.อยู่แล้ว จึงเข้าไปทักทาย พร้อมตั้งคำถามว่า แล้วศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินีแห่งนี้เขาไม่เปิดแล้วใช่หรือไม่...
■■ คำตอบที่ผู้ว่าฯชัชชาติ พูดออกมาคือ “ก็ สก.เขาก็ไม่เอาแล้วนี่” ทำเอาผู้ตั้งคำถามที่อาจรู้ที่ไปที่มาของปัญหาศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินี ซึ่งเขตปทุมวันหลอกเช้าหลอกเย็นว่าจะเปิดตอนนั้นตอนนี้ และยังไม่ตรัสรู้ว่าตอนไหนปีใดแน่นอนจะเปิด ต่างพากันมึนงงในคำตอบสาหัสสากรรจ์ทีดียว เพราะศูนย์ฝึกอาชีพเปรียบเสมือน “เส้นเลือดฝอย” ที่สามารถหล่อเลี้ยงหรือชุบชีวิตผู้คนไร้งานไร้อาชีพได้เมื่อมีโอกาสเข้าไปฝึกอบรมแล้วจบออกมาทำมาหาเลี้ยงชีพ ที่สำคัญเป็นหน้าที่ของ กทม.ที่จะดำเนินการเปิดหรือปิดไม่ใช่หน้าที่ สก. และ สก.คนนั้นก็ใช่ว่าจะเป็นผู้วิเศษมีอิทธิพลอะไรใดๆ ต่อผู้ว่าฯกทม.เลย ที่สำคัญโอกาสข้างหน้าเมื่อครบวาระแล้ว สก.ท่านนั้นจะได้กลับมาอีกหรือไม่ อย่างไรก็ตาม คนตัดสินใจในการบริหารจัดการทั้งหมดเป็น ผู้ว่าฯกทม....
■■ หรือถ้าผู้บริหารชุดปัจจุบันตัดสินใจไม่เปิดศูนย์ฝึกฯแห่งนี้อีกต่อไปก็ประกาศออกมาให้ชัดๆว่า “ปิดถาวร” ด้วยติดขัดปัญหานั่นนี่ ทุกอย่างก็จะปิดเกมจบศูนย์ฝึกอาชีพสวนลุมพินีอายุ 50 กว่าปี ลงแบบไม่มีข้อกังขา และผู้คนก็จะได้เข้าใจว่า “เส้นเลือดฝอยนั้นเป็นแค่วาทกรรม” เท่านั้น...
■■ ที่จริงการทำงานของผู้ว่าฯกทม.ผู้คนยุคปัจจุบันเขาสนับสนุนเรื่องทิศทางนโยบายต่างๆ อย่างมาก ผู้ว่าฯชัชชาติไปทางใดผู้คนต้อนรับทุกจุดทุกแห่ง ผู้ว่าฯชัชชาติควรเดินตามความต้องการของประชาชน ไม่ใช่ยอมสยบให้กับ สก.บางคน หรือคนใดคนหนึ่ง เพราะการทำเช่นนั้นเท่ากับความอ่อนแอ ฆ่าตัวตายสำหรับศูนย์ฝึกอาชีพทุกศูนย์ฯที่ยังเปิดให้บริการประชาชนทุกแห่งบอกตรงไปตรงมามีประชาชนหลากหลายพื้นที่เข้าไปอบรมไม่จำเพาะเจาะจงว่าเฉพาะในพื้นที่เขตนั้นเขตเดียวเหมือนที่ สก.บางคนหาวเป็นดาวเดือน “มันอยู่ที่ความสะดวกของประชาชน” ศูนย์ฝึกอาชีพมีนบุรี, สะพานสูง, จตุจักร, สาทร, บางคอแหลม ฯลฯ ต่างมีประชาชนหลากหลายเข้าไปอบรม...
■■ เกี่ยวกับเรื่องของฝุ่นพิษหลายคนตั้งคำถาม กทม.ไม่เห็นทำอะไร ประเด็นดังกล่าวจะพูดกันฉาวและให้ข้อมูลกันผิดๆ ตลอดมา เพราะในข้อเท็จจริงแล้ว PM2.5หรือเจ้าควันพิษนั้น กทม.โดยสำนักสิ่งแวดล้อมปฏิบัติเข้มข้นตามกรอบอำนาจที่มีอยู่ครบหมด ทั้ง ประกาศ, รณรงค์, ป้องกัน,แจ้งเตือนประชาชน, สั่งการให้ สำนักการโยธาซึ่งเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโครงการต่างๆ ในพื้นที่ กำชับกวดขันผู้รับเหมาทุกรายให้ระมัดระวังฝุ่นละออง รวมไปถึงร่วมมือกับตำรวจ กรมขนส่งตรวจจับรถบรรทุกดินมักง่าย ควันดำ ฯลฯ แต่อำนาจในการแก้ไขระดับมหภาคที่สามารถหยุดความวิบัติเลวร้ายดังกล่าวได้ไม่ใช่หน้าที่ของ กทม. แต่เป็นอำนาจหน่วยงานหลักระดับกระทรวง ทบวง กรม...
■■ ที่สำคัญรัฐบาลต้องทุบโต๊ะจริงๆ จังๆ ด้วย แล้วปัญหา “ชะตากรรมชะตาทราม” ดังกล่าวก็จะจบ โดยสรุปควันพิษทุกปีไม่ว่าใครเข้ามาเป็นผู้ว่าฯกทม. ก็จะดำเนินการแก้ไขป้องกันเสมอมาไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และย้ำว่าหน้าที่หลักแก้ไขได้เป็นรูปธรรมไม่ใช่อำนาจ กทม....■■
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี