ตำรวจทองผาภูมิ กาญจนบุรี ตามรวบ"ไอ้โจ้"ขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ผู้ต้องหาตามหมายจับเครือข่าย"นายดำ-เต้ย" ที่ถูกจับไปเมื่อปี 66 แต่ยังปากแข็งให้การภาคเสธ
ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่นำโดย พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ, พ.ต.ท.ธีรพร วิจิตรบรรณการ รอง ผกก.สส.สภ.ทองผาภูมิ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.3 บก.สส.ภ.7 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ร้อย ตชด.135 เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด ภ.7 (ชปส.ภ.7) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.1 บก.สส.ภ.7 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.4 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ร่วมกันจับกุมตัวนายพิทักษ์ หรือดำ อายุ 71 ปี พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 298,000 เม็ด ยาไอซ์ น้ำหนัก 9 กิโลกรัม ได้ที่บริเวณจุดตรวจสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 1 ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี จากการสอบปากคำรวมทั้งการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ร่วมขบวนการ สุดท้ายศาลจังหวัดทองผาภูมิได้พิจารณาอนุมัติหมายจับเพิ่มอีก 2 ราย
ประกอบด้วย 1.นายพิพัฒน์ หรือโจ้ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิ ที่ 23/2566 ลงวันที่ 8 พ.ค.2566 ในความผิดฐาน "สมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด" และ 2.นายนัฐพล หรือเต้ย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิที่ 23/2566 ลงวันที่ 8 พ.ค.2566 ในความผิดฐาน "เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด"
ต่อมาวันที่ 4 พ.ค.66 เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวนายเต้ย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิที่ 23/2566 ลงวันที่ 8 พ.ค.2566 ในความผิดฐาน "เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด" ได้ที่บริเวณจุดตรวจสามแยกทองผาภูมิ พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 110,179 เม็ด ส่วนนายโจ้ อยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับ
โดยคดีดังกล่าวนั้น พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภาค 7 ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ที่ลักลอบนำเข้าจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 7 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ทองผาภูมิ เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาที่กำลับหลบหนีหมายจับมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ก่อนที่จะถึงช่วงหยุดยาวเทศกาลวันสงกรานต์ ประจำปี 2567 ที่กำลังจะมาถึงนี้
ล่าสุดเวลา 13.00 น.วันที่ 10 เม.ย.67 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า พบนายโจ้ ผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี หลังจากได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
จากนั้นจึงนำกำลังออกติดตามร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.บ้านโป่ง เจ้าหน้าที่ชุดตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ภาค 7 จนกระทั่งเวลา 16.00 น.เจ้าหน้าที่พบนายโจ้ อยู่ที่บริเวณริมถนนเพชรเกษมสายเก่า ท้องที่หมู่ 4 ต.ดอนกระเบื้อง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมแสดงและอ่านหมายจับศาลจังหวัดทองผาภูมิ ที่ 23/2566 ลงวันที่ 8 พ.ค.66 และหมายจับที่ 37/2566 ลงวันที่ 23 มิ.ย.66 ให้นายโจ้ ผู้ต้องหาได้เข้าใจต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นหาสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติมที่บ้านพักในพื้นที่ ต.ห้วยหมอนทอง และห้องพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ เบื้องต้นนายโจ้ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับชาว ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ยังให้การปฏิเสธ แต่ด้วยพยานและหลักฐานที่แน่นหนา เจ้าหน้าที่จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในข้อกล่าวหา “กระทำความผิดฐาน ร่วมกันจำหน่ายโดยการมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า เป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายให้กลุ่มประชาชนและมีผลการทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชน และข้อหา “สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ผู้นั้นสมคบกันกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด ฯลฯ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี