‘เมียวดี’เปิดด่าน
ปล่อยสิบล้อคนไทยกลับบ้าน
นายกฯยันคุมสถานการณ์ได้
ทางการเมียนมายอมเปิด 2 ด่าน เปิดทางระบายรถบรรทุกสินค้าของไทยกลับบ้าน โชเฟอร์สิงห์รถบรรทุกบอกสถานการณ์อันตรายจะไม่กลับเข้าไปอีก ด้านนายกฯเศรษฐา ย้ำคุมสถานการณ์ได้
สำนักข่าวเอเอฟพีของฝรั่งเศส รายงานว่า ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา เปิดเผยกับสื่อท้องถิ่นเมื่อคืนวันที่ 11 เม.ย. 2567 ว่า ทหารเมียนมาต้องถอนกำลังออกจากฐานที่มั่นเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมากำลังหารือกับทางการไทยเกี่ยวกับกำลังทหารเหล่านี้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนทหารเมียนมาที่ถอนกำลังออกจากที่มั่นในเมียวดีว่ามีเท่าใด
ยังมีรายงานที่ ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวกับสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษในภาคภาษาเมียนมา ว่า กำลังมีการเจรจาระหว่างสองประเทศ และระบุด้วยว่า นักรบของกองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นยูได้บุกเข้ามาในเมือง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม ขณะที่ในวันเดียวกัน โฆษกของกลุ่มเคเอ็นยู กล่าวกับสำนักข่าวเอเอฟพี ว่าทหารเมียนมาอาจยังคงมีอาวุธอยู่
คำยืนยันดังกล่าวของโฆษกรัฐบาลทหารเมียนมามีขึ้นหลังจากมีการปะทะกันอย่างหนักระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังฝ่ายตรงข้ามในเมืองเมียวดีมาตั้งแต่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ โดยนายปาโดห์ ซอตอ นี โฆษกกองกำลังเคเอ็นยูอ้างว่าทหารเมียนมาราว 200 นาย ได้ถอนกำลังออกจากเมืองเมียวดีไปแล้ว และไปหลบอยู่บริเวณสะพานมิตรภาพที่เชื่อมเมืองเมียวดีกับ อ.แม่สอด จ.ตาก ของไทย
วันที่ 12 เม.ย. 2567 ที่ด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ 2 เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา มีรายงานว่า ทางการเมียวดีมีคำสั่งเปิดด่านเป็นการชั่วคราวตั้งแต่ช่วงเช้า แต่ยังมีเจ้าหน้าที่ประจำด่านเมียวดีเข้าไปทำงานเพื่อเร่งระบายรถบรรทุกสินค้าจำนวนมากของไทยที่จอดตกค้างอยู่ในฝั่งเมียวดี หลังจากเมื่อวันที่ 11 เม.ย. 2567 มีการปิดด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ 2 แบบฉุกเฉิน จากสถานการณ์ความไม่สงบภายในเมืองเมียวดี
ซึ่งหลังประตูด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ 2 เปิดออก ขบวนรถบรรทุกสินค้าของไทยต่างทยอยขับข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 2 จากฝั่งเมืองเมียวดี กลับมายังฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ประเทศไทย อย่างต่อเนื่อง โดยมีทหารจากหน่วยเฉพาะกิจราชมนูหลายสิบนายพร้อมอาวุธครบมือและรถยนต์ติดปืนกล เฝ้าระวังบริเวณเชิงสะพานด่านพรมแดนแม่สอดแห่งที่ 2 ตรวจสอบรถบรรทุกทุกคันที่ข้ามด่านพรมแดนอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสลักลอบขนสิ่งของผิดกฎหมาย
คนขับรถบรรทุกรายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตนขับรถข้ามไปส่งสินค้าที่คลังสินค้าในฝั่งเมียวดี แต่ขากลับเกิดสถานการณ์สู้รบ และมีทหารเมียนมาจำนวนมากหลบหนีเข้ามาอยู่ภายในที่ทำการด่านพรมแดนถาวรเมียวดีแห่งที่ 2 จนมีการปิดด่าน ทำให้ตนและคนขับรถบรรทุกอีกหลายรายต้องติดค้างและนอนพักอยู่ในรถที่ลานจอดรถด่านพรมแดนถารเมียวดีแห่งที่ 2 ตลอดทั้งคืน กระทั่งตอนเช้าสามารถขับรถข้ามกลับมาฝั่งไทยอย่างปลอดภัยได้ก็รู้สึกดีใจมาก แต่ช่วงนี้คงต้องขอหยุดขับรถข้ามไปฝั่งเมียวดีไว้ก่อน เพราะยังไม่มั่นใจในสถานการณ์
ในวันเดียวกัน มีรายงานว่า นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ตลอดจนผู้แทนระดับสูงจากกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย
กองทัพบก สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งในช่วงเช้า รองนายกฯ ได้พบหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัดตาก และผู้แทนจากหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์บริเวณชายแดนล่าสุด อีกทั้งยังได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเพื่อประเมินผลกระทบและเตรียมความพร้อมของฝ่ายไทยอย่างมีประสิทธิภาพและทันที
จากนั้นเวลา 14.00 น. นายปานปรีย์ พร้อมด้วย นายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พ.ต.อ.บวรภพ สุนทรเรขา ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัด (ผกก.ตม.จว.) ตาก และผู้แทนระดับสูงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจเยี่ยมด่านศุลกากรแม่สอด และสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่ง พ.ต.อ.บวรภพ รายงานว่า จำนวนคนข้ามแดนในช่วงต้นสัปดาห์นั้นมีมากกว่าในช่วง 1-2 วันนี้ แต่ก็ยอมรับว่า วันที่ 12 เม.ย. 2567 บรรยากาศค่อนข้างเงียบ
ขณะที่นายปานปรีย์ ซึ่งเดินขึ้นทางเท้าของสะพานมิตรภาพไทย – เมียนมา แห่งที่ 1 ไปจนถึงกึ่งกลางสะพาน ได้กล่าวกับสื่อว่า ฝั่งเมียวดีในวันนี้เงียบ รวมถึงตอบสื่อมวลชนต่างชาติว่า สถานการณ์เงียบเหมือนในอดีต นอกจากนั้นยังได้พูดคุยกับผู้ประกอบการร้านค้าในบริเวณใกล้เคียงด่านศุลกากรแม่สอด ซึ่งมีเสียงสะท้อนว่า เศรษฐกิจหลังสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 การค้าซบเซา แต่การสู้รบที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้ตื่นตระหนกแต่อย่างใดเพราะชินแล้วและสถานการณ์ยังปกติ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศ ลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามสถานการณ์การสู้รบใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ว่านายกฯ ได้สั่งการหรือกำชับอะไรบ้างหรือไม่
โดยนายกฯ เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้า เวลา 07.00 น. ตนได้พูดคุยกับ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) แล้ว และรับทราบสถานการณ์แล้ว ทุกอย่างอยู่ใต้การควบคุมที่ดี ไม่มีปัญหา ขณะที่เมื่อถามว่ามีแผนรองรับหากมีการทะลักเข้าไทยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า มี มีอยู่แล้วและมีรองรับไว้แล้ว โดยมีการพูดคุยกันตลอดเวลา กับทั้ง พล.อ.เจริญชัย รวมถึง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) เรื่องการที่เขามีปัญหากันภายใน แต่หากมีการล้นเข้ามาในไทย เรารับไม่ได้
“เครื่องบินที่จะบินผ่านน่านฟ้า เราก็รับไม่ได้ ห้ามเด็ดขาดที่จะมีการล้ำน่านฟ้าเข้ามา ซึ่ง ผบ.ทอ. ก็มีการสั่งการ โดยได้ออกข่าวมาว่ามีการเตรียมความพร้อมไม่ให้มีการวกเข้ามาได้ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่วางแผนไว้ แต่ตรงนี้ไม่อยากจะพูดเยอะ เป็นเรื่องของความมั่นคง แต่ขอให้มั่นใจและสบายใจได้ว่าทุกภาคส่วนมีการพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา” นายเศรษฐา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี