5วันสงกรานต์อุบัติเหตุ1,564ครั้ง
ดับสังเวย206ศพ
เจ็บ1,593ราย-17จว.ตายเป็นศูนย์
สั่งคุมประพฤติเมาขับ3,973คดี
คนแห่กลับสายเหนือ-อีสานแน่น
รณรงค์ลดอุบัติเหตุสงกรานต์ 5 วัน เกิดอุบัติเหตุทางถนนสะสม 1,564 ครั้ง บาดเจ็บรวม 1,593 คน ผู้เสียชีวิต รวม 206 ศพ จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิตมี 17 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงราย 61 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน 60 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด กทม.-เชียงราย 13 ศพ ขณะที่ศาลสั่งคุมประพฤติคดีเมาแล้วขับ สงกรานต์ 5 วัน 3,973 คดี ลดลงจากปีที่แล้ว 32.3% “กทม.”แชมป์คดีเมาขับ 446 คดี
เมื่อวันที่ 16 เมษายน ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข เป็นประธานแถลงผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.)ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567
สงกรานต์วันที่5เกิดอุบัติเหตุ301ครั้ง
นพ.ชลน่านเปิดเผยว่า ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2567 รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนนประจำวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่ 5 ของการรณรงค์ “ขับขี่อย่างปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ” พบว่า เกิดอุบัติเหตุ 301 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 314 คน ผู้เสียชีวิต 39 ราย สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ร้อยละ 43.19 ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 23.92 ตัดหน้ากระชั้นชิด ร้อยละ 15.28 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ ร้อยละ 83.82 ส่วนใหญ่เกิดบนเส้นทางตรง ร้อยละ 78.74 ถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 38.54 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 31.89 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ เวลา 16.01-17.00 น. ร้อยละ 9.63 ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตสูงสุดอยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี ร้อยละ 18.13 จัดตั้งจุดตรวจหลัก 1,756 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 51,386 คน โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ น่าน 14 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ น่าน 16 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ เชียงราย 4 ราย
สะสม5วันอุบัติเหตุ1,564ครั้ง-ดับ206
“สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสมช่วง 5 วันของการรณรงค์ ตั้งแต่วันที่ 11-15 เมษายน เกิดอุบัติเหตุรวม 1,564 ครั้ง ผู้บาดเจ็บรวม 1,593 คน ผู้เสียชีวิต รวม 206 ราย จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 17 จังหวัด จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุดได้แก่ เชียงราย 61 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ น่าน 60 คน จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานครและเชียงราย 13 ราย”นพ.ชลน่านกล่าว และว่า วันนี้ประชาชนต่างเดินทางกลับกรุงเทพมหานครและจังหวัดใหญ่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทำให้ถนนหลายสายมีปริมาณรถจำนวนมาก ศปถ.จึงประสานจังหวัดปรับแผนการดำเนินงานสร้างความปลอดภัยทางถนนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยบูรณาการตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง อาสาสมัคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่บริหารจัดการจราจรและอำนวยความสะดวกให้ประชาชนตลอดเส้นทาง ส่วนกระทรวงสาธารณสุขประสานให้จังหวัดและหน่วยงานในพื้นที่เตรียมพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ จัดเตรียมบุคลากรทางการแพทย์ อาสาสมัครกู้ชีพกู้ภัย รวมถึงยานพาหนะให้พร้อมเข้าถึงจุดเกิดเหตุทันที
สั่งทุกจว.ระดมจนท.รับมือคนกลับ
ด้านนายโชตินรินทร์ เกิดสม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านสาธารณภัยและพัฒนาเมือง ในฐานะประธานการประชุมคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนตลอดทั้งปี เปิดเผยว่า วันนี้ (16 เม.ย. ) เส้นทางสายหลักและถนนที่เชื่อมต่อจากภูมิภาคเข้าสู่กรุงเทพมหานครมีปริมาณการจราจรหนาแน่น ประกอบกับสถิติอุบัติเหตุทางถนนที่ผ่านมาช่วงวันดังกล่าว มีจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ศปถ. จึงได้ประสานจังหวัดและอำเภอบูรณาการตามแผนปฏิบัติการอย่างเข้มข้น เน้นการทำงานเชิงป้องกัน โดยเฉพาะการป้องปรามพฤติกรรมเสี่ยงอุบัติเหตุทางถนนเริ่มตั้งแต่ด่านชุมชนไปจนถึงด่านหลัก พร้อมประชาสัมพันธ์เส้นทางเลี่ยง ทางลัดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ และบริเวณที่มีการก่อสร้างถนน รวมถึงดูแลความปลอดภัยของรถโดยสารสาธารณะ พนักงานขับรถต้องมีสภาพร่างกายที่พร้อมในการขับรถอย่างปลอดภัย
ขณะที่นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน กล่าวว่า วันหยุดวันสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ประชาชนส่วนใหญ่เดินทางกลับเข้าสู่กรุงเทพฯจำนวนมาก จึงขอฝากผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนดูแลสภาพร่างกายของตนเองให้พร้อมขับขี่ และตรวจเช็คสภาพรถให้ปลอดภัย ก่อนออกเดินทางกลับ ไม่ขับรถเร็ว และปฏิบัติตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด หยุดพักรถทุก 1 - 2 ชั่วโมง ไม่ฝืนขับรถ เมื่อมีอาการง่วงนอนให้จอดพักรถตามจุดบริการต่าง ๆ หรือสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้ทุกคนเดินทางถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ในบางพื้นที่โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลางตอนบน จะมีฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ทำให้สภาพถนนเปียกลื่นและทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงขอฝากเตือนประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่เป็นพิเศษ
5วันศาลคุมประพฤติเมาขับ3.9พันคดี
ด้านนายเรืองศักดิ์ สุวารี อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรมแถลงถึงสถิติคดีที่ศาลสั่งคุมความประพฤติในวันที่ 15 เมษายนว่า รวมทั้งสิ้น 242 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 236 คดี และคดีขับเสพ 30 คดี สำหรับยอดรวมสะสม 5 วัน ของ 7 วันอันตราย มีจำนวน 4,132 คดี จำแนกเป็น คดีขับรถขณะเมาสุรา 3,973 คดี คิดเป็นร้อยละ 96.15 คดีขับรถประมาท 3 คดี คิดเป็นร้อยละ 0.07 คดีขับเสพ 156 คดี คิดเป็นร้อยละ 3.78
กทม.แชมป์เมาขับ446คดี
โดยกรุงเทพมหานคร มีคดีเมาขับสูงสุดอันดับหนึ่ง 446 คดี รองลงมา นนทบุรี 238คดี และสมุทรปราการ 214 คดี ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติสะสม 5 วันของ 7 วันอันตรายปี 2566 พบว่า คดีขับรถขณะเมาสุรา 5,869 คดี และปี 2567 จำนวน 3,973 คดี ลดลง 1,896 คดี คิดเป็นร้อยละ32.3 ทั้งนี้ สำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ ยังสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการประชาชน โดยร่วมกับอาสาสมัครคุมประพฤติ ภาคีเครือข่าย และผู้ถูกคุมความประพฤติ พร้อมทั้งจัดให้มีการตรวจเยี่ยมด่าน แจกน้ำดื่มที่จุดบริการประชาชน ด่านตรวจค้นและด่านชุมชน 162 จุด มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 4,167 คน เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร ให้ประชาชนเดินทางอย่างปลอดภัย
ข้าวสารสาดน้ำ3วันเคลียร์ขยะ116ตัน
เมื่อวันที่ 16 เมษายน สำนักงานเขตพระนคร เปิดเผยถึงการจัดเก็บขยะในเทศกาลสงกรานต์ในคืนวันที่ 15 เมษายน เวลา 23.00 น. โดยทำการฉีดล้างทำความสะอาดทางเท้าและผิวจราจร เพื่อคืนสะอาดให้กับพื้นที่ หลังจบงานสงกรานต์ ณ บริเวณถนนข้าวสารและพื้นที่โดยรอบ สำหรับปริมาณขยะถนนข้าวสารและพื้นที่โดยรอบ ระหว่างวันที่ 12-14 เม.ย.67 รวมทั้งสิ้น 116 ตัน ดังนี้ ถนนข้าวสาร วันที่ 12 เมษายน จำนวน 12 ตัน วันที่ 13 เมษายน จำนวน 15 ตัน วันที่ 14 เมษายน จำนวน 15 ตัน รวม 42 ตัน พื้นที่โดยรอบถนนข้าวสาร รวม 74 ตัน
คนทยอยกลับสายเหนือรถแน่น
อีกด้าน ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพการจราจรบนถนนทางหลวงหมายเลข 32 ถนนสายเอเชีย ช่วง 4 แยกหางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ ต่อเนื่องถึงแยกต่างระดับชัยนาท-ตาคลี ขาล่องเข้ากรุงเทพมหานคร ตั้งแต่ช่วงเช้าซึ่งเป็นวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลสงกรานต์ว่า สภาพการจราจรคึกคัก ปริมาณรถมากขึ้น เนื่องจากประชาชนและนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางกลับจากการเล่นน้ำสงกรานต์ทางภาคเหนือ มีบางช่วงถนนมีรถแล่นเต็มพื้นที่ เคลื่อนตัวได้ช้า ชะลอตัวบ้างในจุดสัญญาณไฟจราจร4แยกหางน้ำสาคร อ.มโนรมย์ เมื่อผ่านจุดนี้ไปก็สามารถทำความเร็วได้ และมีความคล่องตัวมากขึ้นจนเข้าพื้นที่ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายและช่วงเย็นถึงค่ำปริมาณรถเพิ่มขึ้น มีปัญหาติดขัด โดยเฉพาะจุด 4 แยกหางน้ำสาคร ที่มีสัญญาณไฟจราจร เจ้าหน้าที่ได้แนะนำเส้นทางรอง โดยเปลี่ยนไปใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 340 เลี้ยวเข้า อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาทที่หลัก กม.ที่150 ผ่านตัวเมืองชัยนาท ผ่าน จ.สุพรรณบุรี อ.บางบัวทอง และเข้า กทม. เพื่อระบายรถจากถนนสายหลัก
ถนนมิตรภาพ-บขส.แออัดทั้งวัน
การจราจรบนถนนมิตรภาพช่วงผ่านอ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่นเข้าจ.นครราชสีมา พบว่าประชาชนพากันเดินทางกลับเข้ากรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดในภาคตะวันออกจำนวนมาก เพื่อเริ่มทำงานกันตามปกติวันที่ 17 เมษายน ส่งผลให้ถนนมิตรภาพ ปริมาณรถหนาแน่ เคลื่อนตัวได้ช้า สลับหยุดนิ่ง ใช้ความเร็วได้ประมาณ 10-50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีรถติดสะสมช่วงก่อนถึงทางแยกสัญญาณไฟจราจรเป็นระยะทางยาว
ขณะที่ถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา มีปริมาณรถค่อนข้างหนาตา โดยเฉพาะบริเวณจุดพักรถของสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ตั้งอยู่ริมถนนเลี่ยงเมืองนครราชสีมา มีรถของประชาชนมาจอดพักหลังเดินทางมาเป็นระยะทางยาวจากหลายจังหวัดทางภาคอีสานก่อนเดินทางต่อ ซึ่งมีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่เลือกใช้เส้นทางด่วนพิเศษ มอเตอร์เวย์ M6 เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทำให้ตั้งแต่ช่วงเช้า มีประชาชนเลี้ยวไปขึ้นทางด่วนพิเศษ M6 ต่อเนื่อง ส่วนประชาชนที่จะเดินทางกลับไปยังจังหวัดทางภาคตะวันออก ก็จะใช้เส้นทางสาย 304 นครราชสีมา วังน้ำเขียว – ปราจีนบุรี ก่อนที่จะแยกต่อไปยังจังหวัดทางภาคตะวันออก
ส่วนบรรยากาศการเดินทางของประชาชนที่สถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมา แห่งที่ 2 ตลอดทั้งวันมีชาวโคราชและจังหวัดใกล้เคียง ทั้งจ.ชัยภูมิและบุรีรัมย์มาซื้อตั๋ว เดินทางกลับไปกรุงเทพฯ โดยบริเวณชานชาลาประชาชนยืนรอเข้าแถวซื้อตั๋วรถทัวร์โดยสารเต็มไปหมดตั้งแต่ช่วงเช้า จนถึงช่วงค่ำ
หมอชิตแออัดคนกลับเข้ากรุงเทพฯ
บรรยากาศที่ขนส่งหมอชิต 2 ช่วงเวลา 04.30 น.วันเดียวกัน มีผู้โดยสารทยอยเดินทางกลับจากภูมิลำเนา หลังฉลองเทศกาลสงกรานต์ ส่งผลให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก บางคนแบกกระสอบข้าวสาร หอบสัมภาระมาเต็มมือ และแม้ว่าทางสถานีขนส่งหมอชิต จะจัดจุดให้บริการรถแท็กซี่ไว้รองรับ แต่ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ทำให้ต้องมีการเสริมรถ ขสมก.ฟรี ไว้ให้บริการรับส่งระหว่างสถานีขนส่งหมอชิตและสถานีรถไฟฟ้า BTS หมอชิต ลดปัญหาความแออัด โดยจัดรถบัสไว้ 8 คัน ให้บริการตั้งแต่เวลา 04.00 น. -07.00น.ทุกวัน จนกว่าจำนวนผู้โดยสารจะลดลง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี