ผักแห่ปรับราคา
ผักชีกิโลละ250บ.
‘ขึ้นฉ่าย’150บาท
อ้างเหตุร้อน-แล้ง
ผักในตลาด จ.ยะลา-โคราชหลายชนิดเริ่มปรับขึ้นราคา ด้านแม่ค้าเผยสั่งผักสดมาจากภาคกลางและหลายจังหวัด สาเหตุฝนทิ้งช่วง-อากาศร้อน แล้งหนัก ยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 18เมษายน ที่ตลาดนัดบันนังซิแน ต.ยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สินค้าประเภทผักหลายชนิดปรับราคาขึ้นประชาชนส่วนหนึ่งคาดหวังว่าผักตามตลาดนัดจะมีราคาถูกกว่าตามห้างสรรพสินค้า แต่กลับพบว่าราคาก็ปรับขึ้นสูงขึ้นเช่นเดียวกัน อาทิ ถั่วฝักยาว จากกิโลกรัมละ 40บาท ขึ้นเป็น 70 บาท ผักกาดหอม จากกิโลกรัมละ 50 บาท ขึ้นเป็น 120 บาท ผักขึ้นฉ่าย จากกิโลกรัมละ 100 บาท ขึ้นเป็น 150 บาท ผักชี จากกิโลกรัมละ200 บาท ขึ้นเป็น 250บาท ต้นหอมจากกิโลกรัมละ 80 บาท ขึ้นเป็น100 บาท ผักบุ้งจีนจากกิโลกรัมละ 20 บาท ขึ้นเป็น 40 บาท และมะนาวแป้นพิจิตรจากกิโลกรัมละ 80 บาท ขึ้นเป็น 100บาท แตงกวา จากกิโลกรัมละ 30 บาท ขึ้นเป็น 60 บาท โดยเริ่มปรับขึ้นมาตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์และคาดว่ายังมีแนวโน้มที่จะปรับราคาสูงขึ้นอีก หากสภาพอากาศในบริเวณพื้นที่แหล่งเพาะปลูกในภาคกลาง ฝนยังคงทิ้งช่วงอยู่เช่นนี้อีกประกอบกับอากาศที่ร้อนและแล้งจัด
ทั้งนี้ ชาวบ้านที่มาซื้อผักในตลาดดังกล่าว ระบุว่า ขณะนี้ผักหลายชนิดมีราคาแพงขึ้น ครั้งแรกที่ตั้งใจมาซื้อเพราะคิดว่าจะมีราคาถูกกว่าตลาดใหญ่หรือในห้างสรรพสินค้า แต่ราคากลับไม่แตกต่างกัน แต่มีเพียงผักบางชนิดที่คนในพื้นที่ปลูกได้เองแล้วนำมาขาย จึงมีราคาถูกกว่า เช่น ต้นหอม เมื่อก่อนราคากิโลกรัมละ 60-70 บาท แต่เวลานี้ขึ้นไปเป็นกิโลกรัมละ 120 บาท ซึ่งก็จะใช้วิธีเลือกซื้อแบบเป็นกำที่มีต้นหอม ผักชีกำละ 20 บาท ก็พอทำกับข้าวได้ก็ถือว่าพอรับได้
ด้านแม่ค้าขายผักเปิดเผยว่า ผักมีราคาแพงหลายอย่าง ทั้งผักกาดหอม ผักขึ้นฉ่ายต้นหอม ผักชี ผักบุ้งจีน แตงกวา และมะนาว เนื่องจากสภาพอากาศแปรปรวนในหลายพื้นที่เริ่มแห้งแล้งเพราะฝนทิ้งช่วง โดยเฉพาะหลายจังหวัดทางภาคกลาง ซึ่งเป็นแหล่งเพาะปลูกผัก ทำให้ผลผลิตที่ออกมาไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ส่งผลกระทบให้ปริมาณผักที่ส่งให้กับลูกค้าต่างจังหวัดเริ่มมีปริมาณลดน้อยลง อย่างเช่นพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา จะสั่งผักมาจาก จ.ราชบุรีและตลาดขายส่งผักสดทางภาคกลาง ซึ่งราคาผักสดยังคงมีแนวโน้มที่จะปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่ จ.นครราชสีมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจราคาไข่ไก่และผักสดชนิดต่างๆ ในตลาดใหม่แม่กิมเฮง อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่าไข่ไก่ และผักหลายชนิดมีการปรับราคาขึ้นซึ่งทั้งแม่ค้าและประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาด ต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าข้าวของทุกอย่างแพงขึ้น ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่แผงขายผักของน.ส.วงเพชร สังข์พงษ์ ซึ่งขายไข่ไก่ และผักสดหลายชนิด มีลูกค้ามาเลือกซื้อค่อนข้างบางตา โดยผู้ที่เคยเป็นลูกค้าประจำต่างหายหน้าหายตาไปหลายคน ส่วนลูกค้าที่ยังคงมาแวะเวียนจับจ่ายซื้อของอยู่ก็ลดปริมาณการซื้อลง
แม่ค้าแผงขายผักสดตลาดใหม่แม่กิมเฮง ระบุว่า ราคาสินค้าการเกษตรช่วงนี้มีการปรับขึ้นต่อเนื่อง เพราะได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้ผักหลายชนิดได้รับความเสียหาย และขาดแคลน ส่วนไข่ไก่ก็มีการปรับขึ้นราคาหน้าฟาร์มด้วย ทำให้สินค้าหลายชนิดปรับราคาสูงขึ้น โดยเฉพาะไข่ไก่ ปรับขึ้นราคาแผงละ 6 บาท แต่ที่ปรับราคาขึ้นสูงสุดก็จะมีอยู่ 3 ชนิด ได้แก่ ผักชี เดือนที่แล้วราคากิโลกรัมละ 80บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 200บาทผักขึ้นฉ่าย เดือนที่แล้วราคากิโลกรัมละ 60 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 160บาทและถั่วฝักยาว เดือนที่แล้วกิโลกรัมละ 35 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท นับว่าตอนนี้ราคาผักพุ่งขึ้นเร็วกว่าทองคำหลายเท่าตัวเลยทีเดียว
ขณะเดียวกัน นางพเยาว์ อริกุล นายกสมาคมการค้าผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยภาคกลาง เปิดเผยว่า การขึ้นราคาไข่ไก่คละหน้าฟาร์มฟองละ 20 สตางค์ อยู่ที่ราคาฟองละ 3.60 บาท ตามที่เครือข่ายสหกรณ์ไข่ไก่ประกาศไปเมื่อวันที่ 17 เมษายนที่ผ่านมา เป็นผลจากภาวะอากาศร้อนแล้ง ที่ทำให้แม่ไก่ไข่เกิดความเครียด กินอาหารได้น้อยลง กินน้ำมากขึ้นเพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย เนื่องจากไก่ไม่มีต่อมเหงื่อ ทั้งยังมีขนปกคลุม เป็นอุปสรรคต่อการระบายความร้อนออกจากร่างกาย เมื่อมีความเครียดสะสมและสารอาหารที่ได้ไม่เพียงพอกับการสร้างฟองไข่ ผลผลิตไข่ไก่จึงลดลง ส่งผลให้ปริมาณไข่ไก่ในตลาดมีน้อยลง ขณะที่ขนาดไข่ไก่ก็เล็กลง รายได้ที่เกษตรกรได้รับก็ลดลงด้วย สวนทางกับต้นทุนค่าน้ำที่สูงขึ้นและค่าไฟฟ้าที่ต้องใช้มากขึ้น จึงเชื่อว่าทางผู้บริโภคจะเข้าใจถึงสถานการณ์ดังกล่าว
“ราคาไข่ไก่มีการปรับขึ้นลง ตามกลไกตลาดอุปสงค์อุปทาน เห็นได้ว่าช่วงอากาศร้อนแล้ง ปริมาณไข่ไก่จะน้อยลงจากสภาพทางกายภาพของแม่ไก่ กระทบปริมาณผลผลิตไข่ออกสู่ตลาด ทำให้ราคาไข่หน้าฟาร์มขยับขึ้นเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาดเช่นนี้ทุกปี หากอากาศเย็นลงปริมาณไข่ไก่ออกสู่ตลาดมากขึ้น ราคาก็จะขยับลง เชื่อว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่เข้าใจในกลไกนี้ดี” นางพเยาว์ กล่าว
ส่วนกรมการค้าภายใน ยืนยันไปในทิศทางเดียวกันว่าราคาไข่ไก่เป็นไปตามฤดูกาล โดยเฉพาะช่วงหน้าร้อนของทุกปี แม่ไก่ไข่จะออกไข่น้อยลงหรือมีขนาดเล็กลง ทำให้ปริมาณไข่ไก่หายไปราว 10% และราคาอาจขึ้นมาบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ โดยราคาไข่ฟองละ 3.60 บาท ไม่ใช่ราคาสูงสุดในปี 2567 เนื่องจากก่อนหน้านี้ในช่วงเดือนมกราคม 2567 ราคาไข่คละหน้าฟาร์มเคยสูงสุดที่ 3.80 บาทมาแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี