พายุถล่ม‘น่าน-เชียงราย’
หลังคาปลิวหลายร้อยครัว
ภาครัฐเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดเชียงราย น่าน โคราชบุรีรัมย์ หลังพายุฤดูร้อนถล่มไม่ยั้งหลังคาบ้านพักหลายร้อยหลัง เผยเหตุสลดที่เชียงรายต้นไม้โค่นล้มทับแรงงานดับ 2 ศพ ขณะที่ภาคเหนือ-อีสาน อากาศยังร้อนจัด
เมื่อวันที่ 20 เมษายน นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องจากขณะนี้ทุกภาคของประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด โดยในตอนกลางวันบริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนเกือบทั่วไปต่อเนื่อง อุณหภูมิสูงสุดตั้งแต่ 33-43 องศาเซลเซียส รัฐบาลมีความห่วงใยสุขภาพประชาชนในหน้าร้อนโดยเฉพาะโรคที่มากับหน้าร้อนและฮีทสโตรก จึงขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัดดังกล่าวโดยเฉพาะเด็ก ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี แนะนำให้ผู้ปกครองควรใส่ใจดูแลสุขอนามัยให้แก่เด็กในหน้าร้อนที่มักเกิดโรคในเด็ก
ชี้โรคฮีทสโตรกถึงขั้นเสียชีวิต
เช่น โรคท้องร่วง อาหารเป็นพิษ โรคภูมิแพ้ผิวหนังในเด็กและฮีทสโตรก โดยในช่วงต้นเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด อุณหภูมิสูง เชื้อโรคต่าง ๆ สามารถเจริญเติบโตได้ดีและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้จะปะปนมากับอาหารและน้ำดื่ม พ่อแม่ผู้ปกครองจึงต้องระมัดระวังเรื่องสุขอนามัย ความสะอาด โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กเล็กให้มากที่สุด เนื่องจากเด็กเล็กมีภูมิต้านทานร่างกายที่น้อยกว่าผู้ใหญ่ ส่งผลให้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ข้อมูลกรมการแพทย์ ระบุโรคหน้าร้อนที่พบบ่อยในเด็ก เช่น 1) โรคท้องร่วง สาเหตุเกิดจากเชื้อไวรัส แบคทีเรีย โปรโตรซัว พยาธิ ติดต่อโดยการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อโรคเข้าไป โดยจะพบอาการถ่ายเหลวมากกว่า 3 ครั้งต่อวัน ถ่ายเป็นน้ำหรือมีมูกเลือดปนและเมื่อเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดทำให้ติดเชื้อในเลือด เสี่ยงต่อการคุกคามถึงชีวิตได้ 2) โรคอาหารเป็นพิษ เกิดจากเชื้อต่าง ๆ ที่มาจากพิษแบคทีเรีย เชื้อรา หรือสารเคมีที่ปนเปื้อน มักพบได้จากอาหารที่ไม่สุกสะอาด อาการมีไข้ ปวดท้อง อาเจียน คลื่นไส้ ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง 3) โรคภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก เป็นโรคผิวหนังที่พบบ่อยในหน้าร้อน อาการของโรค คือ ผิวหนังจะแห้ง คันและไวต่อสารภายนอกที่มาสัมผัส ทำให้มีผื่นขึ้นในลักษณะเป็น ๆ หาย ๆ การป้องกันทำได้โดย เลือกสวมใส่เสื้อผ้าเนื้อนุ่มใช้สบู่อ่อน และใช้ครีมบำรุงผิวเพื่อให้ผิวเกิดความชุ่มชื้น 4) โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก เกิดจากอากาศที่ร้อนเกินไปจนทำให้ร่างกายปรับสมดุลอุณหภูมิไม่ได้ จนอาจเกิดอาการฮีทสโตรก อาการที่พบได้แก่ ปวดศีรษะ หน้ามืด เพ้อ ชัก ไม่รู้สึกตัวหายใจเร็ว หัวใจเต้นผิดจังหวะ หรืออาจจะช็อกจนเสียชีวิตได้
เตือนระมัดระวังสุขภาพ
“กรมการแพทย์แนะนำให้ผู้ปกครองควรระมัดระวังในเรื่องสุขภาพ และความสะอาดให้แก่เด็ก ๆ โดยมีหลักสำคัญคือรับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ รักษาความสะอาดของร่างกาย หลีกเลี่ยงอากาศร้อน หากร้อนมากควรพยายามลดความร้อน โดยอาบน้ำ เปิดแอร์ เปิดพัดลมให้บุตรหลาน ให้อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้ดี ให้ดื่มน้ำมากขึ้นในวันที่มีอากาศร้อนจัดเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำ และดูแลสุขอนามัยเพื่อให้ปลอดภัยจากโรคในหน้าร้อน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดโดยทั่วไปกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนถึงร้อนจัด โดยหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานานไว้ด้วย ในขณะที่มีลมตะวันตกเฉียงใต้และลมใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนอง กับมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะนี้ไว้ด้วย
สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 28-30 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
พายุถล่มเชียงรายอ่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.เชียงราย ยังเกิดมีฝนตำหนักและฝนฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ ซึ่งล่าสุดในช่วงเย็นถึงช่วงกลางคืนวันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ได้มีฝนตกหนักและพายุพัดแรงในหลายพื้นที่ของ จ.เชียงราย โดยพายุได้พัดมาจากทาง จ.พะเยา เข้าสู่ อ.ป่าแดด มีบ้านเรือนได้รับผลกระทบในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 5 และหมู่ 12 ต.ป่าแดด อ.ป่าแดด
ส่วน อ.พาน เกิดขึ้นหลายหมู่บ้านคือหมู่ 4 หมู่ 6 หมู่ 9 หมู่ 10 หมู่ 11 หมู่ 13 หมู่ 17 และหมู่ 18 ต.ป่าหุ่ง หมู่ 2 หมู่ 4 หมู่ 6 หมู่ 8 ต.สันติสุข หมู่ 4 หมู่ 5 หมู่ 6 หมู่ 12 หมู่ 16 หมู่ 20 ต.แม่อ้อ หมู่ 5 ต.เวียงห้าว หมู่ 1 หมู่ 4 หมู่ 5 หมู่ 7 ต.สันกลาง หมู่ 4 หมู่ 9 ต.เจริญเมือง และหมู่ 3 หมู่ หมู่ 8 หมู่ 11 หมู่ 21 หมู่ 23 หมู่ 24 หมู่ 25 ต.เมืองพาน และต่อเนื่องถึงบางส่วนของ ต.ดอยลาน อ.เมืองเชียงราย
หลังคาปลิวนับร้อยหลัง
ผลจากพายุพัดผ่านดังกล่าวทำให้ต้นไม้กิ่งไม้ล้มลงมาขวางถนนในหลายพื้นที่และบ้านเรือนได้รับความเสียหายส่วนใหญ่เป็นหลังคาและฝาบ้านไม่ต่ำกว่า 100 หลังคาเรือน ซึ่งนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าฯเชียงราย ได้สั่งการให้นายอำเภอทุกอำเภอร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.เชียงราย ได้เข้าสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้านต่อไป
ทั้งนี้ได้มีฝนตกและพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นหลายครั้งใน จ.เชียงราย ช่วงเดือน เมษายนนี้ และเคยเกิดเหตุสลดขึ้นเมื่อเย็นวันที่ 18 เมษายนโดยขณะที่มีรถยนต์กระบะติดโครงเหล็กคันหนึ่งขับรับส่งคนงาน จำนวน 15 คน ไปตามถนนสายป่าซางนาเงิน-บ้านจะลอ
เมื่อถึงเขตบ้านป่าซางนาเงิน ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง ได้มีต้นสนขนาดใหญ่ถูกพายุซัดจนล้มลงมาทับตรงท้ายกระบะที่เป็นโครงเหล็ก และถูกแรงงาน จนเสียชีวิตทันที 2 คน เป็นชาย 1 คนและหญิง 1 คนโดยฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ได้เพียง 3 เดือน นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 คน ทั้งหมดเป็นแรงงานจากฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน
ถล่มบุรีรัมย์ไม่ทันได้ตั้งตัว
เจ้าหน้าที่เทศบาลอุดมธรรม และกำนันตำบลกระสัง อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ เร่งออกสำรวจความเสียหาย หลังจากเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา (19 เมษายน)ได้เกิดพายุฤดูร้อนพัดบ้านเรือนชาวบ้านได้รับความเสียหาย 4 หมู่บ้าน
มีบ้านหนองลิง หมู่ 4 ,บ้านหนองแขม หมู่ 5 , บ้านป่าบุ หมู่ 17 และ บ้านระโยง หมู่ 18 ข้าว ถูกกระแสลมพัดปลิวออกไป เบื้องต้นจากการสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่จะเป็นหลังคาบ้าน หลังคายุ้ง
ด้านนายนภันต์ โพธิ์วิไลศิริกุล กำนัน ต.กระสัง กล่าวว่าชาวบ้านไม่ทันเตรียมตัว เพราะพายุมาเร็วและแรง พัดต้นไม้ใหญ่โค่นหลายต้น บ้านเรือนชาวบ้านเท่าที่ทราบในตอนนี้เสียหายไม่น้อยกว่า 100 หลังคาเรือน และถือว่าเป็นความรุนแรงทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นในรอบ 50 ปี ตอนนี้กำลังสำรวจความเสียหายรายงานตามขั้นตอน เพื่อหาแนวทางเยียวยาตามระเบียบของทางราชการต่อไป
กวาดโคราชเสียหายหนัก
เมื่อเวลา 11.00 นางฉมามาศ อินทรักษา นายกเทศมนตรีตำบล (ทต.) ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ส่วนงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุวาตภัย เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (19 เม.ย ) ได้เกิดพายุฤดูร้อนทั้งฝนตกหนักและลมพัดกรรโชกแรงนานร่วม 1 ชั่วโมง ทำให้สิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินทั้งของราชการและประชาชนในพื้นที่บ้านพบสุข หมู่ 5 และบ้านแสนสุข หมู่ 7 ได้รับความเสียหายจำนวนมาก
นางฉมามาศ นายก ทต.ปรุใหญ่ เปิดเผยว่า พบความเสียหาย มียานพาหนะของ ทต.ปรุใหญ่และเจ้าหน้าที่จำนวน 10 คัน ถูกต้นไม้ใหญ่ล้มทับพัง ป้ายโฆษณา หลังคาร้านจำหน่ายสินค้าโอท็อปฝั่งตรงข้ามสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา นครราชสีมา บ้านเรือนราษฎรกว่า 30 หลังคาเรือน เบื้องต้นได้ให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบของทางราชการพร้อมแจกสิ่งของบรรเทาทุกข์และจัดกำลังเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายรวมทั้งตัดต้นไม้ใหญ่ล้มขวางเส้นทางสัญจรและสายไฟฟ้าออก
ด้านนายกฤษฏิ์ พูนเกษม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด (ปภ.จ.) นครราชสีมา กล่าวสรุปเหตุวาตภัยในพื้นที่ 3 อำเภอ ดังนี้ อ.เมือง อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.โนนสูง ซึ่งมีบ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 60 หลังคาเรือน ได้ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้ความช่วยเหลือต่อไป
“น่าน”พายุฤดูร้อนถล่ม 2 อำเภอ
นายจำรัส อินแก้ว รก.หัวหน้าสนง.ปภ.จ.น่าน สาขาเชียงกลาง ได้รับรายงานจากหน่วยงานในพื้นที่ว่าได้เกิดเกิดวาตภัยในพื้นที่อำเภอปัว จังหวัดน่าน ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย ที่ ตำบลไชยวัฒนา บ้านเลขที่ 106 บ้านเสี้ยว หมู่ที่ 6 ลมพัดหลังคาบ้านเสียหายจำนวน 1 หลัง ตำบลแงง หลังคาสนามเปตองผู้สูงอายุ บ้านท่าล้อม หมู่ที 2 ลมพัดหลังคาเสียหาย ตำบลเจดีย์ชัย บ้านเลขที่ 221 บ้านนาก้อ หมู่ที่ 1 เป็นบ้านของนางสมบูรณ์ วังสาร ซึ่งมีผู้พิการอยู่อาศัย ได้รับความเสียหายบางส่วนจำนวน 1 หลัง
ต่อมาเวลา 15.54 น. เกิดวาตภัยในพื้นที่บ้านดอนสบเปือ หมู่ที่ 7 ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน ทำให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย จำนวนหลายหลัง ในเบื้องต้นทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้านและคณะกรรมการหมู่บ้านกำลังตรวจสอบความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบต่อไป
อุดรธานียุ้งฉางพังเพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเย็นวันที่ 19 เมษายน เกิดพายุฤดูร้อนถล่มบ้านเรือนประชาชนพังพินาศฟาดไปในหลายหมู่บ้านที่จ.อุดรธานี ทั้งนี้จ.อุดรธานี เจอผลกระทบจากพายุถล่มอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายกระจายไปหลายอำเภอของจ.อุดรธานีแล้ว ไม่ว่าจะเป็นอ.หนองหาน,อ.ทุ่งฝน,อ.บ้านดุง,อ.วังสามหมอ,อ.เมือง,อ.เพ็ญ,อ.หนองวัวซอ,บ้านผือ คร่าวๆ บ้านเรือนประชาชนเสียหายประมาณ 200 หลังคาเรือน ถือว่า จ.อุดรธานีเจอพายุแบบถี่ยิบ ถล่มแทบทุกอำเภอ
โดยความเสียหายเบื้องต้น อ.หนองหาน มี ต.พังงู 5 หลัง ต.โพนงาม 1 หลัง อ.วังสามหมอ มีบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับความเสียหายในพื้นที่ ต.ผาสุก 40 หลัง,ต.หนองหญ้าไซ 1 หลัง ส่วนที่อ.บ้านผือ มี ต.บ้านผือ คอกสัตว์เสียหาย 4 แห่ง ,ต.กลางใหญ่ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 42 หลัง ยุ้งฉาง 1 แห่ง ,ต.บ้านค้อ โรงเก็บเครื่องมือ 4 แห่ง,ต.เมืองพาน โรงเก็บพืชผล 4 แห่ง มีชาวบ้านที่ได้รับบาดเจ็บจากพายุ 2 รายส่วนที่ อ.เมืองอุดรธานี บ้านเรือนประชาชนใน ต.เชียงยืน เสียหาย 17 หลัง, ต.สามพร้าว 11 หลัง วัด 1 แห่ง ต.นากว้าง 30 หลัง และอำเภออื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการสำรวจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี