ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยดร.ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา,นายวิจิตร กิจวิรัตน์รองผู้ว่าฯนครราชสีมา นางสมพิศ ทองดีนอก เกษตรจังหวัด รวมทั้งผู้แทนจาก ธ.ก.ส. เกษตรและสหกรณ์จังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนตัวแทนเกษตรกร ร่วมประชุมเพื่อจัดทำโครงการบำนาญประชาชน ปลูกต้นไม้เป็นเงินออม”
นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า การปลูกต้นไม้มีค่าเพื่อเป็นบำนาญ เป็นแนวคิดร่วมกันจากทุกภาคส่วน เพื่อเป็นบำนาญในยามชราและเป็นทางเลือกให้กับประชาชน แรงงานนอกระบบเกษตรกร ชาวไร่ ชาวนา ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ฯลฯ ที่ไม่มีบำเหน็จบำนาญในยามชรา หากเริ่มปลูกไม้มีค่าตั้งแต่อายุยังน้อย ต้นไม้ที่ปลูกก็เติบโตมีราคาในอนาคต ตลอดจนการปลูกต้นไม้ยังเป็นการอนุรักษ์ คุ้มครอง ฟื้นฟู ส่งเสริมพัฒนา ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนเป็นการลดก๊าซเรือนกระจกและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทางธรรมชาติ
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า จังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ที่มีสภาพเป็นป่าไม้ ที่มีต้นไม้ขึ้น เนื้อที่ 2 ล้านไร่เศษ คิดเป็นร้อยละ 15.54 ของพื้นที่จังหวัด จึงต้องมีการเร่งรัดดำเนินการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในทุกรูปแบบและต่อเนื่องเพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งสถานการณ์บุกรุกทำลายป่าในพื้นที่ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเนื่องจากปัญหาที่ดินทำกินและปัญหาการตัดไม้ทำลายป่า ทั้งนี้โครงการจะเริ่มดำเนินงานภายในปี 2567 นี้ ตั้งเป้าเกษตรกรหรือประชาชนทั่วไปเข้าร่วมโครงการ ไม่ต่ำกว่า 20,000 คนและมีเป้าหมายปลูกต้นไม้ไม่ต่ำกว่า 1 ล้านต้น สำหรับเกษตรกร และประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานเกษตรตำบลและอำเภอทั้ง32 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี