เพลิงไหม้ในโรงงานสารเคมีที่ระยอง ยังคงมีไฟปะทุอยู่บริเวณโรงที่ 3 ทีมดับเพลิง ร้องขอเจ้าหน้าที่ สคพ.13 ชลบุรี ให้เอาเครื่อง XRF หรือเครื่องวิเคราะห์โลหะมาตรวจสอบสารเคมีที่อยู่ในโรงที่ 3 ว่ามีชนิดใดบ้าง ทำไมถึงยังไม่มอด และปะทุขึ้นมาอีกเรื่อยๆ และเก็บตัวอย่างเถ้าที่ไหม้แล้วไปตรวจสอบด้วย ด้านอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เตรียมยื่นขอแถลงศาลระยอง ขอเปลี่ยนแปลงให้สามารถเข้าจัดการสารเคมีโรงงานได้แทนเจ้าของโรงงาน เพื่อให้สามารถขนสารเคมีออกไปได้เร็วขึ้น ขณะที่ชาวบ้านเตรียมพร้อมรอรับนายกฯ อย่างมีความหวังว่าจะแก้ปัญหา ที่ผ่านมา 10 ปีได้
วันที่ 26 เม.ย.67 ผู้สื่อข่าวายงานว่า ทีมดับเพลิงเหตุเพลิงไหม้โรงงานสารเคมี บ.วินโพรเสส ม.4 ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง นำโดยนายทศพล บวรโมทย์ นอภ.บ้านค่าย และนายจตุรงค์ วงค์สุวรรณ นายก อบต.บางบุตร ได้ประชุมทีมดับเพลิง หลังจากใช้สาร F-500 เข้าดับไฟบริเวณโรงที่ 3 ซึ่งเป็นอะลูมิเนียมดรอส(กากเหลือจากการหลอมอะลูมิเนียม) แต่ปรากฏว่า ยังไม่สามารถทำให้มอดสนิทได้ โดยพบว่าดินและทรายที่กลบเกิดยุบตัวแล้วมีโพรง และไฟเกิดการปะทุขึ้นมาอีกอยู่เรื่อยๆ จึงยังไม่มอดเสียที จึงต้องมีการร้องขอ เจ้าหน้าที่ สคพ.13 ชลบุรี ให้นำเครื่อง XRF หรือเครื่องวิเคราะห์โลหะ มาตรวจกองสารเคมีโรงที่ 3 ว่ามีชนิดใดบ้าง รวมทั้งให้เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เก็บตัวอย่างกากตะกรันอะลูมิเนียมมาตรวจสอบด้วย เพื่อให้สามารถดับเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพและเห็นผล รวมทั้งจะมีนำปูนขาวหรือหิน ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าดินและทรายเข้ากลบในโกดัง 3 อีกด้วย
ด้านนายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นถือว่ารุนแรงมาก เพราะว่ามีสารเคมีชนิดต่างๆ จำนวนมาก และอยู่ระหว่างต้องคำพิพากษาของศาลปี 64 ให้วินโพรเสสดำเนินการกำจัดทั้งหมด ซึ่งกว่าจะได้ดำเนินการจริงจังต้นปี 65 โดยอ้างว่าหาผู้รับเหมาที่เหมาะสมไม่ได้ อย่างไรก็ตามจะมีกรมโรงงานอุตสาหกรรมกำกับดูแลว่ากำจัดถูกต้องหรือไม่ ซึ่งการดำเนินการนำสารเคมีออกไปกำจัดเกิดความล่าช้ากระทั่งเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นมาแล้วที่ จ.อยุธยา ซึ่งเป็นการวางเพลิงชัดเจนโดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ส่วนที่โรงงานแห่งนี้ ทางกรมโรงงานฯ ได้มีการย้ำกับทางวินโพรเสส ให้จัด รปภ.เข้าเวรยามตลอดเวลา และติดกล้องวงจรปิดไว้ด้วย ซึ่งจะไปตรวจสอบว่าช่วง้วลานั้นมีใครเข้าออกบ้าง ซึ่งเป็นประเด็นที่จะคลายข้อสงสัย ส่วนเรื่องที่กรมโรงงานฯ ที่คิดว่าจะทำ 2 เรื่อง คือ 1.เดิมโรงงานแห่งนี้ต้องคำพิพากษาของศาล จะขอให้อัยการจังหวัดยื่นขอแถลงศาล ขอเปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการ ให้ทางกรมโรงงานฯ เข้ามาดำเนินการจัดการเกี่ยวกับเพลิงไหม้ และสารเคมีในโรงงาน ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วน และ 2.การบริการจัดการงบประมาณที่จำเลยนำเงินไปวางที่ศาล ขอให้ทางกรมโรงงานฯ เป็นผู้จัดการ เพื่อไม่ให้เกิดความล่าช้าในการจัดการกับสารเคมีในโรงงานฯ ทั้งไหม้ไปแล้ว และยังไม่ไหม้
ด้านนายอนันต์ ประกอบสุข อายุ 52 ปี ชาวบ้าน ม. 4 ตำบลบางบุตร อำเภอบ้านค่าย บอกว่า ได้รับผลกระทบจากกลิ่นและควันไฟ ตอนนี้ชาวบ้านหมู่ใกล้เคียงทั้งหมดเหมือนผีเร่ร่อน อยู่ในพื้นที่ไม่ได้ ส่วนมากจะย้ายไปอยู่ตามบ้านพี่น้อง หรือไปเช่าโรงแรมนอน กันหมด ส่วนตัวเองและแม่ก็ต้องไปเช่าโรงแรมนอนเช่นกันตอนนี้ ก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกว่า 5,000 บาทแล้ว เดือดร้อนมาก มีบ้านเป็นของตัวเองแต่นอนไม่ได้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาแก้ไขให้จบสักทีมันยืดเยื้อมากแล้ว ซึ่งหมู่บ้านนี้มีทั้งคนแก่และคนติดเตียง ไปอยู่ที่อื่นก็อยากจะกลับแต่บ้าน อย่างเช่นแม่ ที่มีอายุ 80 ปีแล้ว ต้องพาไปนอนโรงแรมแม่ก็เดินเปิดประตูร้องจะกลับบ้านทั้งคืน ยิ่งตอนนี้เศรษฐกิจไม่ดีเงินทองหายากยังต้องมาสิ้นเปลืองกับสิ่งนี้ อยากถามว่าปัญหาแบบนี้ใครจะรับผิดชอบ
"หลังจากรู้ว่านายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ชาวบ้านก็ดีใจกันมาก เพราะคิดว่าผ่านมาเป็น 10 ปีถ้านายกฯลงมาครั้งนี้แก้ปัญหาให้พวกเราไม่ได้คงไม่มีใครแก้ปัญหาให้ได้อีกแล้ว คงต้องพึ่งเทพเทวดาฟ้าดิน อยากวอนนายกรัฐมนตรี จะให้คนทั้งหมู่บ้านก้มกราบ เพื่อวอนขอช่วยพวกเราด้วย พวกเราเดือดร้อนมาเป็น 10 ปีแล้ว ถ้าท่านลงมาแล้วพวกผมไม่ได้รับการแก้ไข พวกเราคงจะไม่มีที่พึ่งแล้ว อยากให้นายกฯมาแก้ปัญหาพวกเราให้จบสักที ถ้านายกช่วยแก้ปัญหาให้เราได้จะขอขอบคุณมากครับ สิ่งที่ชาวบ้าน ต้องการมากที่สุดตอนนี้คืออยากให้นำเอาสารเคมีที่เกิดไฟไหม้เอาออกไปโดยเร็ว เร็วเท่าไหร่ได้ยิ่งดี เพราะยิ่งเอาไว้นานชาวบ้านก็จะยิ่งเดือดร้อนทวีคูณขึ้นไปอีก"นายอนันต์ กล่าว
ขอบคุณภาพมุมสูง ซูม ระยอง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี