สั่งปิดชั่วคราว!!! โรงน้ำแข็งอุดรฯทำก๊าซแอมโมเนียรั่ว พบขออนุญาตประกอบกิจการถูกต้อง แต่ไม่ได้ขอมาตรฐาน อย.
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเกิดเหตุดก๊าซแอมโมเนียรั่ว ที่โรงน้ำแข็งแห่งหนึ่งใกล้ตลาดสดเทศบาล ต.นางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี จนมีกลิ่นของก๊าซแอมโมเนียฟุ้งกระจายไปในรัศมีเกือบ 300 เมตร ชาวบ้านแถวโรงน้ำแข็งต้องหอบลูก อุ้มคนแก่หนีออกมา เนื่องจากมีอาการแสบตาและจมูกเป็นอย่างมาก เจ้าของโรงงานได้เร่งแก้ไขเสร็จในเวลาไม่นาน ชาวบ้านจึงพากันอพยพกลับมายังบ้าน
ต่อมา นางวันเพ็ญ ใจซื่อ สาธารณสุขอำเภอน้ำโสม ได้ลงพื้นที่ ให้ข้อมูลว่า หลังแก๊สรั่วเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอน้ำโสมได้ลงพื้นที่ทันที เบื้องต้นมีประชาชนได้รับผลกระทบ ปวดหัววิงเวียน 6 คน แน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก 3 คน ระคายเคืองผิวหนัง 2 คน แสบตา 4 คน แสบคอ 2 คนคอแห้ง 1 คน รวม 20 คน หนึ่งใน 20 คน มีหญิงตั้งครรภ์ 1 ราย อายุครรภ์ 28 สัปดาห์ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าลูกดิ้นน้อยลง ผลการตรวจครรภ์ปกติดี นอกจากนี้ ยังมีชายไทยอายุ 75 ปี มาด้วยอาการปวดศีรษะคอแห้ง ผลตรวจแพทย์วินิจฉัยว่าอาการปกติ สำหรับโรงน้ำแข็งดังกล่าวเปิดกิจการนานแล้วตั้งแต่ปี 2559 รวม 8 ปี ผลิตน้ำแข็ง 100 ตันต่อวัน มีก๊าซแอมโมเนียอยู่ราวเครื่องละ 1,200 ลิตร จำนวน 2 เครื่อง ขนาด 2,400 ลิตร เมื่อปีที่แล้วก็เกิดก๊าซแอมโมเนียรั่วแต่ไม่รุนแรงเหมือนในครั้งนี้
ล่าสุด ทีมสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี พร้อมอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี และศูนย์ความปลอดภัยแรงงาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานน้ำแข็ง หลังสารแอมโมเนียรั่วออกจากถังเก็บ และได้ดำเนินการแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีเจ้าของโรงน้ำแข็ง พาเจ้าหน้าที่ตรวจดูตรงจุดที่ก๊าซรั่ว โดยเจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างน้ำที่นำมาทำกระบวนผลิตน้ำแข็งทั้งก่อนผลิตน้ำแข็งไปตรวจสอบด้วย และจากการตรวจสอบพบว่าโรงงานที่การขออนุญาตประกอบกิจการถูกต้องตามกฎหมาย แต่ไม่มีการขออนุญาตผลิตอาหาร หรือ อย. จากสำนักงานสาธารณสุข จ.อุดรธานี โดยเจ้าของฯ ชี้แจงว่า แจ้งบริษัทขอ อย.หลายปีแล้ว แต่ทางบริษัทที่ไปจ้างทำยังไม่ดำเนินการให้เลย ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับเจ้าของโรงน้ำแข็งว่า ต้องขอให้ปิด หยุดการผลิตน้ำแข็งเป็นชั่วคราวไปก่อน จนกว่าจะแก้ไขให้แล้วเสร็จและขอมาตรฐาน อย.ให้ถูกต้อง ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง
ขณะที่เจ้าของโรงน้ำแข็ง ตัดพ้อว่า "พี่ๆ อย่าปิดโรงงานหนูเลย แบบนี้พี่ๆ ก็มาฆ่าหนูให้ตาย มันไม่ได้เป็นอะไรมากเลย ถังก๊าซไม่ได้ระเบิด เป็นแค่อุบัติเหตุท่อหลุดและรั่ว จากนั้นก็รีบปิด ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาทีเท่านั้น"
นอกจากนี้ เจ้าของโรงน้ำแข็ง ชี้แจงกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นอะไรมาก พวกพี่ๆ นักข่าวพากันตีข่าวใหญ่โตว่าถังก๊าซระเบิด ประโคมข่าวเวอร์ไป แค่ท่อหลุดและรั่วเท่านั้น สำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากก๊าซอาร์เมเนียรั่วที่เป็นผู้เฒ่าผู้แก่ 9 คน ทางโรงงานเรายินดีรับผิดชอบทุกอย่าง หรือหากใครต้องการเยียวยาก็พร้อมจะช่วยเหลือ ยืนยันก๊าซแอมโมเนียรั่วเป็นเพราะอุบัติเหตุ เนื่องจากน้ำแข็งเด้งออกหลอดประมาณ 10 นาที จากนั้นก็รั่ว และก็สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อยากฝากคนที่เสนอไปถึงนักข่าวที่เสนอข่าวไปมั่วๆ ระวังจะโดนฟ้อง เพราะทางโรงงานเสียหาย สำหรับโรงงานแห่งนี้เปิดมาตั้งแต่ปี 2559 รวมถึงตอนนี้ก็ 8 ปีแล้ว
ด้าน นายอดุลย์ ลาภะแนน เภสัชกรชำนาญการพิเศษ สสจ.อุดรธานี เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบกรณีโรงงานน้ำแข็งแอมโมเนียรั่ว ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ให้คำแนะนำให้เร่งดำเนินการตามมาตรฐาน โดยทางสาธารณสุขจะมีการเก็บตัวอย่างน้ำที่ใช้ในการผลิตและน้ำแข็งไปตรวจสอบ และจาการตรวจเชิงลึกพบว่าโรงงานแห่งนี้ไม่ได้ขออนุญาต อย.และไม่มีมาตรฐาน GMP อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะมีการกล่าวโทษผ่านพนักงานสอบสวน สภ.น้ำโสม เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตให้ถูกต้อง ตั้งโรงงานผลิตอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเราจะรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้พนักงานสอบสวน ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป สำหรับสารแอมโมเนียหากสูดดมเข้าร่างกายในปริมาณมากก็จะกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ อย่างไรก็ดี ผู้ที่ได้รับผลกระทบมีจำนวนไม่มาก และปลอดภัยแล้ว
ขณะที่ นายภูมิภัส มัลเชษฐ์ นักวิชาการอุตสาหกรรมชำนาญการ สนง.อุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบหาสาเหตุก๊าซแอมโมเนียรั่ว เกิดจากท่อมีการชำรุดเสียหาย ในส่วนของท่อที่ต่อเข้าถังบรรจุแอมโมเนีย สำหรับโรงงานแห่งนี้ขออนุญาตตั้งโรงงานผลิตน้ำแข็งโดยถูกต้องตามกฎหมาย ในส่วนมาตรฐานอื่นๆ นั้น ทางอุตสาหกรรมไม่ได้ดูแล ในส่วนมาตรฐาน อย.และ GMP ขึ้นตรงอยู่กับสาธารณสุข เบื้องต้นทางอุตสาหกรรมได้มีการให้โรงงานดังกล่าวปรับปรุงแก้ไข และได้สั่งให้หยุดการผลิตน้ำแข็งก่อน จนกว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จทุกอย่าง
ทั้งนี้ มีเสียงยืนยันจากชาวบ้านใกล้เคียง แจ้งว่า ก่อนที่ก๊าซแอมโมเนียจะรั่ว ก็ได้ยินเสียงระเบิดจริงๆ ในเวลา 05.40 น.จากนั้นเวลา 05.46 น.ก๊าซก็ลอยมาแตะจมูกและตา จนแสบมากต้องพากันหนีออกจากบ้าน ครั้งนี้หนักกว่าครั้งแรก เพราะแสบตาแสบจมูกมาก จนต้องหนีออกจากบ้าน
ส่วนชาวบ้านที่มีบ้านตรงข้าม บอกว่า ตอนนั้นตนกำลังอาบน้ำ เวลาประมาณ 07.00 น.เมื่อเปิดร้านออกมาก็ได้กลิ่นก๊าซแอมโมเนียจนแสบตาแสบจมูก ตนจึงหยิบแมสขึ้นมาใส่ แต่ก็อยู่บ้านไม่ได้ จึงขับรถออกจากบ้านไป สำหรับเหตุการณ์แอมโมเนียรั่วไหลนั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว 1 ครั้งเมื่อปีที่แล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี