ผู้ประกอบการสถานบันเทิงหอบหลักฐานร้องผู้ว่าฯโคราช ตรวจสอบการปฏิบัติงานของฝ่ายปกครอง หลังสั่งระงับกลางอากาศคอนเสิร์ตศิลปินดัง ไม่ให้ขึ้นเวทีทำการแสดงในร้านสร้างความเสียหายมูลค่า 3 แสนบาท ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พร้อมปล่อยหลักฐานขอสนับสนุนเงินและเหล้าหลายครั้งหมดไปกว่า 3 แสนบาท ด้านพ่อเมืองสั่งปลัดจังหวัดตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงทันที ผิดว่าไปตามผิด ขณะที่หน.ชุดฝ่ายปกครองยันทำตามกฏหมาย คาดไม่พอใจเพราะเคยทำผิดกฎหมาย    ถูกสั่งปิดมาแล้ว

วันที่ 26 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนายพิชิตชัย นิสสัยหาญ อายุ 43 ปี ผู้ประกอบการสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเขต อ.เมือง จ.นครราชสีมา นำหลักฐานยื่นหนังสือร้องเรียนขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ตรวจสอบการปฏิบัติงานของฝ่ายปกครอง หัวหน้าชุดจัดระเบียบสังคม ที่สั่งระงับกลางอากาศคอนเสิร์ตศิลปินดัง ไม่ให้ขึ้นเวทีทำการแสดงในร้าน เมื่อช่วง 4 ทุ่ม วันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายมูลค่า 3 แสนบาท

ซ้ำยังถูกดำเนินคดีข้อหาไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรา และข้อหาปล่อยให้เด็กอายุไม่ถึง 20 ปีจำนวน 3 คนเข้าไปใช้บริการ เป็นการปฏิบัติงานที่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา 157 หรือไม่ ตรงเป้าหมายพอดิบพอดี มีการเผชิญหน้ากันเล็กน้อย แต่ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายบานปลายใด ๆ

นายพิชิตชัย แสดงเอกสารข้อมูลหลักฐาน ระบุว่า ทางร้านมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานบันเทิงและใบอนุญาตจำหน่ายสุราอย่างถูกต้อง ส่วนกรณีมีเด็กต่ำกว่า 20 ปีเข้ามาในร้าน เป็นเหตุสุดวิสัย เหตุการณ์ที่ถูกหัวหน้าชุดฝ่ายปกครองสั่งระงับคอนเสิร์ต แม้จะมีการแสดงเอกสารใบอนุญาตให้ดูแล้ว แต่ยังถูกสั่งปิด และถูกดำเนินคดี 2 ข้อหา ซึ่งทางร้านได้รับความเสียหาย เป็นการปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง หรือชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ที่สำคัญยังมีหลักฐานเจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์จากทางร้าน ทั้งขอสนับสนุนเงินและเหล้า ทางร้านจำยอมโอนเงินให้ไปหลายครั้ง ช่วงตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 จนถึงตุลาคม 2566 มีการโอนเข้าบัญชีครั้งละ 3,000 บาท 5,000 บาท 10,000 บาท และ 15,000 บาท เป็นเงินรวมมากกว่า 30,000 บาท มีหลักฐานการโอนเงินชัดเจน มีข้อความแชทในไลน์ระบุ “...ขออนุเคราะห์สนับสนุนงบเลี้ยงทีมงานป้องกันที่เขาใหญ่ ปากช่อง ด้วยครับ...” พร้อมส่งเลขบัญชี และมีหลักฐานสลิปการโอนเงินด้วย จึงอยากให้ทางจังหวัดตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และขอให้ย้ายหัวหน้าชุดผู้ถูกกล่าวหาไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นในระหว่างการสอบสวน

ขณะที่ นายนิสิต วงศ์หทัย ป้องกันจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าชุดฝ่ายปกครอง ผู้ถูกกล่าวหา ได้กล่าวยืนยันว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วนกรณีกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์ ขอปฏิเสธไม่เป็นความจริง ไม่มีการเรียกรับเงินแต่อย่างใด เป็นการยืมเงินจากคนที่รู้จักกัน เหมือนพี่น้องกัน น่าจะเคยยืมเงินแค่ครั้งสองครั้ง ไม่แน่ใจ การกล่าวหาแบบนี้น่าจะมีมูลเหตุมาจากความขุ่นข้องหมองใจ เพราะว่าร้านเคยทำผิดกฎหมาย และเคยถูกสั่งปิดมาแล้ว

ล่าสุด นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จังหวัดได้รับเรื่องแล้ว พร้อมสั่งการให้ปลัดจังหวัดซึ่งเป็นหน่วยงานผู้บังคับบัญชาชั้นต้นโดยตรง สอบสวนข้อเท็จจริงเร่งด่วน สิ่งใดที่ขัดต่อกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ผิดว่าไปตามผิด โดยเฉพาะเรื่องการรับส่วย รับสินบน ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง หากทำถูกต้องตามกฎหมายก็ต้องให้ความเป็นธรรม แน่นอนหากใครทำผิดก็ต้องได้รับโทษทั้งทางวินัยและอาญา เป็นเรื่องปกติ ตนยินดีที่หลายฝ่ายช่วยตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานน่าจะสรุปผลได้ ไม่น่ามีอะไรสลับซับซ้อน