ระทึก! ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไล่ล่าแก๊งเรือหางยาวลอบขนแรงงานเถื่อนชาวพม่าเข้าไทยด้านชายแดนกาญจนบุรี
วันนี้ (27 เม.ย.67) พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พล.ต.วุทธยา จันทมาศ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9, พ.ต.อ.บรรจง อัมฤทธิ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.กฤตชัย ทองอยู่ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนานรอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.สธนทัต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี, พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี, นายชาคริต ตันพิรุฬห์ นายอำเภอทองผาภูมิ, พ.ต.อ.มนตรี แตงโต ผกก.สภ.ทองผาภูมิ, พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ร.29/ผบ.หน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์, พ.อ.สุรเดช เมฆานุวงศ์ รอง ผบ.ร.29/รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์, พ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.13 (ค่ายพระพุทธยอดฟ้า) ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีขบวนการลักลอบขนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาด้วยการใช้เรือยนต์ล่องมาจากชายแดนด้าน อ.สังขละบุรี มุ่งหน้าขึ้นฝั่งบริเวณริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ บ้านท่าแพ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ เป็นจำนวนมากหลังรับแจ้งจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเดินทางไปซุ่มโป่งบริเวณริมถนนทางลงท่าแพ
จนกระทั่งเวลา 03.00 น.เจ้าหน้าที่พบเรือหางยาวจำนวนหลายลำแล่นมาตามน่านน้ำ เจ้าหน้าที่ประจำเรือตรวจการจึงเปิดไฟส่องสว่างส่งสัญญาณให้คนขับเรือหยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่ปรากฏว่าเมื่อคนขับเรือเห็นเจ้าหน้าที่จึงได้อาศัยความมืดและความชำนาญน่านน้ำขับเรือหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งเรือตรวจการของเข้าหน้าที่ได้พยายามเร่งติดตามไปอย่างกระชั้นชิดแต่ไล่ไม่ทัน โดยพบเรือเพียง 1 ลำลอยอยู่เหนือน้ำเนื่องจากใบพัดเรือเสียจึงไม่สามารถไปต่อได้
เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปควบคุมตัวคนขับเรือพร้อมกับแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาเอาไว้ จากนั้นจึงนำมาขึ้นที่ท่าลงแพ ทราบชื่อคนขับเรือคือนายแขก ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา อายุ 25 ปีโดยมีนานแอน ไม่มีนามสกุล ชาวเมียนมา อายุ 24 ปี ทำหน้าที่เป็นหัวเรือบอกช่องทางร่องลำน้ำ โดยมีแรงงานชาวเมียนมาที่โดยสารมากับเรือลำดังกล่าวจำนวน 13 คน เป็นชาย 11 คน หญิง 2 คนจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดเรือเอาไว้เป็นของกลางพร้อมกับนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ
โดยนายแขก คนขับเรือและนานแอน ทำหน้าที่บอกทาง ให้การว่าตนทั้งสองได้รับการว่าจ้างจากชายชาวเมียนมาด้วยกันให้ขับเรือไปรับแรงงานจำนวนดังกล่าวมาจากท่าน้ำในพื้นที่ อ.สังขละบุรี และให้มาส่งที่ริมน้ำบ้านท่าแพ อ.ทองผาภูมิ โดยจะได้ค่าหัวคนละ 300 บาท ซึ่งพวกตนนำเรือขนแรงงานมาด้วยกันหลายลำเรือ แต่ทั้งหมดสามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ส่วนเรือของตนเกิดใบพัดเสียไปต่อไม่ได้จึงถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ หลังจากผู้ต้องหาทั้ง 2 ยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อกล่าวหา "ร่วมกันช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย" และ "เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต"
ขณะแรงงานที่โดยสารมากับเรือจำนวน 13 ราย ไม่มีเอกสารใดๆมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ และให้การว่า หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติ ทั้งหมดต้องการไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชั้นใน โดยจะจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้าเมื่อไปถึงจุดหมายปลายทางคนละ 15,000 บาท หลังจากรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีในข้อกล่าวหา“เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ชุดข้างต้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีได้ไม่นานก็ได้รับแจ้งจากสายข่าวอีกครั้งหนึ่งว่า พบกลุ่มบุคคลเป็นจำนวนมากหลบซ่อนตัวอยู่ชายป่าริมอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณบ้านท่าแพ ต.ท่าขนุน เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจสอบ
จนกระทั่งเวลา 06.00 น.เจ้าหน้าที่จึงพบกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาหลบซ่อนตัวอยู่ชายป่าริมน้ำ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม จากนั้นจึงนำรถยนต์มาลำเลียงแรงงานทั้งหมดไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ทองผาภูมิ นับรวมกันได้จำนวน 48 คน เป็นชาย 35 คน หญิง 13 คน โดย 4 ใน 48 คน เป็นเด็กหญิงและชาย อายุ ระหว่าง 1-8 ขวบ ซึ่งเด็กทั้ง 4 คน เป็นลูกของแรงงานที่นำพาหลบหนีมาด้วย
จากการสอบสวนผ่านล่ามทราบว่าทั้งหมดหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยด้วยการใช้ช่องทางธรรมชาติทางด้านด่านเจดีย์สามองค์ หมู่ 9 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จากนั้นเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่อหลบด่าน โดยมีคนขับรถยนต์มารับไปลงเรือเรือที่ท่าน้ำในพื้นที่ อ.สังขละบุรี แล้วนำมาส่งที่ชายป่าจุดที่ถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม ซึ่งทั้งหมดรอรถยนต์มารับเพื่อมุ่งหน้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย ทุกคนต้องจ่ายค่าหัวให้กับนายหน้ามากถึงคนละ 35,000-50,000 บาทขึ้นอยู่กับระยะทาง โดยจะจ่ายก็ต่อเมื่อไปถึงที่ทำงานในประเทศมาเลเซีย
หลังจากผู้ต้องหาให้การยอมรับสารภาพเจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อล่าวหา“เป็นบุคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต”ยกเว้นเด็กจำนวน 4 คนที่เป็นลูกของแรงงาน แต่เนื่องจากแรงงานกลุ่มดังกล่าวไม่มีผู้นำพา เจ้าหน้าที่จะส่งตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.ในการรอผลักดับกลับสู่ประเทศต้นทางต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี