ปอท.ลุยกวาดล้าง

แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เงินหมุน7หมื่นล.

จับ2ผู้ต้องหาสำคัญ

ตำรวจ ปอท.เปิดปฏิบัติการล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลุยตรวจค้น 9 จุด จับกุมผู้ต้องหารายสำคัญ ยึดของกลางอื้อ พบแฝงตัวในไทย ก่อเหตุลวงเหยื่อ มีเงินหมุนเวียนกว่า 7 หมื่นล้านบาท เร่งสอบขยายผล

เมื่อวันที่ 29 เมษายน ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. พ.ต.อ.สุพจน์ พุ่มแหยม ผกก.2 บก.ปอท. พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.3 บก.ปอท.แถลงจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์รายใหญ่ 2 คดี จับกุมผู้ต้องหา 6 คน พร้อมของกลางหลายรายการ

พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า คดีแรกทางตำรวจ กก.2 บก.ปอท.จับกุมนายเชน ยินไล (MR.CHEN YON LAI) อายุ 32 ปี สัญชาติจีน และนายอนันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน , ร่วมกันทุจริตโดยนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ , มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และสมคบฟอกเงิน พร้อมของกลาง เงินสด 11 ล้านบาท คอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง โทรศัพท์ 7 เครื่อง บัญชีธนาคาร 8 เล่ม บัตรกดเงินสด 13 ใบ รถยนต์ 5 คัน และทรัพย์สินอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 42 ล้านบาท จับกุมนายเชน ได้ที่บ้านหรูย่านถนนราชพฤกษ์ แขวงบางจาก เขตภาษีเจริญ กทม.ขณะที่นายอนันต์ จับกุมได้ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา

พ.ต.อ.สุพจน์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เนื่องจากช่วงปลายปี 2566 เจ้าหน้าที่ได้จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งสร้างเว็บไซต์กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ปลอมขึ้นมา หลอกลวงเงินจากผู้เสียหาย โดยครั้งนั้นสามารถจับกุมผู้กระทำผิดไว้ได้ 5 ราย ก่อนจะขยายผล กระทั่งทราบว่ามีการทำเป็นขบวนการใหญ่ โดยเฉพาะนายเชน และนายอนันต์ เป็นผู้จัดการกระเป๋าดิจิทัลใช้ในการกระทำผิดและแปลงสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเงินสด นำมาเป็นค่าใช้จ่ายของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับ และเข้าตรวจค้นเป้าหมาย 9 จุด ทั้งใน กทม.4 จุด จ.สมุทรปราการ 2 จุด จ.ฉะเชิงเทรา 2 จุด และ จ.นครราชสีมา 1 จุด ก่อนจะจับกุมผู้ต้องหาทั้งสอง พร้อมของกลางดังกล่าว

สอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 .ห้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของนายเชน พบการใช้แอปพลิเคชั่นจัดการกระเป๋าดิจิทัลที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มียอดเงินหมุนเวียนกว่า 7 หมื่นล้านบาท เป็นข้อมูลที่ตรงกับที่ได้รับแจ้งความออนไลน์กว่า 30 คดี

สำหรับคดีที่ 2 พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้จับกุม นายเฉิน (Mr. Zheng) อายุ 31 ปี สัญชาติจีน ในความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และเป็นบุคคลตามหมายจับของตำรวจสากล (Red Notice Interpol) , ร.ต.ท.อังคะ อายุ 70 ปี , นายดาเล็ก อายุ 35 ปี และนายซุ่น อายุ 31 ปี สัญชาติกัมพูชา ตามหมายจับศาล ข้อหาร่วมกันนำหรือพาบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำการด้วยประการใดๆ อันเป็นการอุปการะหรือช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวฯ จับกุมนายเฉิน ได้บนทางหลวงหมายเลข 33 อ.เมือง จ.สระแก้ว ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือจับกุมได้ที่ตลาดโรงเกลือ ต.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว

พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ กล่าวว่า ในส่วนของการจับกุมผู้ต้องหารายนี้ เนื่องจากทางศูนย์ AOC : Anti Online Scam Operation Center บช.ก.ได้สืบสวนกรณีการเปิดบัญชีธนาคาร (บัญชีม้า) เพื่อนำไปใช้กระทำความผิดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยพบว่ามีนายหน้าติดต่อชาวบ้านใน จ.สระแก้ว เปิดบัญชีธนาคารแบบออนไลน์และพาเดินทางข้ามชายแดนไทย-กัมพูชา ไปสแกนหน้าเพื่อรับเงินเมื่อผู้เสียหายโอนเข้ามาและทำรายการโอนเงินให้กับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์

“จากการสืบสวนพบว่าบุคคลที่ถูกว่าจ้างให้ไปเปิดบัญชีม้าเหล่านี้ จะเดินทางออกจากไทยบริเวณตลาดโรงเกลือ ซึ่งช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา มีการเดินทางเฉลี่ยวันละ 60-70 คน มีนายทุนชื่อนายดาใหญ่ เป็นผู้เก็บเงินครั้งละ 3,000 บาทต่อคนต่อครั้ง นอกจากนี้ได้ตรวจสอบพบเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางเดียวกับที่ชาวจีน เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ใช้ในการหลบหนีเข้ามาประเทศไทยด้วย” พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ กล่าว

ผกก.3 บก.ปอท.กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามกระทั่งพบว่ามีกลุ่มชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลักลอบเดินทางเข้าไทย จึงร่วมกับตำรวจทางหลวง สกัดจับนายเฉิน ขณะกำลังนั่งรถรับจ้างเดินทางไป กทม. และจากการตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจีน พบว่าเป็นบุคคลที่มีหมายจับของตำรวจสากล (Red Notice Interpol) ซึ่งรัฐบาลจีนต้องการตัวไปดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์ โดยในส่วนนั้นมีผู้เสียหาย 121 ราย คิดเป็นความเสียหายกว่า 40 ล้านหยวน

พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่านายเฉิน มีหน้าที่วางแผนทางการเงินและฟอกเงินให้เครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จึงคุมตัวส่ง สภ.เมืองสระแก้ว ดำเนินคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง และผลักดันกลับประเทศจีนเพื่อดำเนินคดีต่อไป ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือพบว่ามีหน้าที่รับจ้างนำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ลักลอบเข้าประเทศกัมพูชา ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ โดยคิดค่าหัวคนละ 3,000 บาท คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ปอท.ดำเนินคดี ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวนายดาใหญ่ ที่ยังหลบหนี เพื่อจับกุมตัวมาดำเนินคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าวในครั้งนี้ ทาง พล.ต.ท.จิรภพ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ ศูนย์ AOC บช.ก.และนายพงษ์สิทธิ์ ชัยฉัตรพรสุข ผู้แทนประธานสมาคมธนาคารไทย ได้ส่งมอบเงินสด 1.8 ล้านบาท กลับคืนให้ยายวัยกว่า 70 ปี ผู้เสียหาย ภายหลังสามารถช่วยอายัดเงินจำนวนดังกล่าวได้ทันเวลา ใน ขณะที่กำลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงให้โอนเงิน