จับหนุ่มลาวแอบยัดยาบ้าใต้ลำโพงตีเนียนขับรถข้ามสะพานศุลกากรสงสัยเอ็กซเรย์เจอ 2 แสนเม็ด
ที่ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) อาคารปฏิบัติงานศุลกากรนครพนม เมื่อวันที่ 3 พะ.ค.67 ที่ผ่านมา นายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางชนัยพร พูนน้อย นายด่านศุลกากรนครพนม นายอังกูร อังคะเจริญ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร พ.อ.กันตภณ จันทะนันท์ รองหัวหน้าส่วนปราบปราม หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งตัน และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 24 (รอง หน.ปราบปราม นบ.ยส.24) พ.ต.ท.ชัชวาล รัชตะประกร รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม รวมถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครพนม (ตม.ฯ) เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง แถลงการณ์จับกุมผู้ต้องหาชื่อท้าวสมไซ สีกันหา อายุ 50 ปี แขวงคำม่วน สปป.ลาว พร้อมยึดของกลางยาบ้าจำนวน 2 แสนเม็ด มูลค่าเป็นเงินประมาณ 5 ล้านบาท
โดยเวลา 06.30 น. ท้าวสมไซได้ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแมกซ์ สีบรอนซ์ 4 ประตู ทะเบียน อุดรธานี ข้ามสะพานมิตรภาพฯเข้ามายังฝั่งไทย เข้าขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมือง สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน และพบข้อสงสัยการเดินทางเข้าออกที่บ่อยมาก อีกทั้งรถยนต์ก็มีทะเบียนเป็นสัญชาติไทย ตรวจค้นภายในไม่พบสิ่งต้องสงสัย โดยเฉพาะเบาะด้านหลังใส่ลำโพงจนแทบนั่งไม่ได้และเห็นท้าวสมไซมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ศุลกากรจึงนำรถยนต์เข้าเครื่องตรวจเอ็กซเรย์อย่างละเอียด จึงพบวัตถุต้องสงสัย ลักษณะเป็นแท่งหนาดำ อยู่ใต้เบาะหลังที่ดัดแปลงเป็นตู้ลำโพง จึงนำอุปกรณ์มาถอดดูภายใน พบถูกดัดแปลงซุกซ่อนยาบ้า นับได้จำนวน 34 มัด ตรวจนับได้ 2 แสนเม็ด เป็นยาบ้าแพคเกจสีน้ำตาล มีตัวอักษรภาษาอังกฤษ สีเขียว Y1
จากข้อมูลเป็นยาบ้าราคารวมถึงเกรดต่ำที่กำลังระบาดในพื้นที่อีสานจำหน่ายในราคา 3 เม็ด 100 บาทและมีการตรวจยึดจับกุมบ่อยครั้ง เจ้าหน้าที่จึงยึดเป็นของกลาง ประกอบสำนวนการดำเนินคดีแจ้งข้อหาความผิดหลายกระทง เช่น นำเข้ายาบ้าในราชอาณาจักรไทย โดยมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร รวมถึงครอบครอง ด้านความมั่นคง และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
ท้าวสมไซ สีกันหา อายุ 50 ปี ผู้ต้องหาชาวลาว สารภาพว่ารับจ้างจากนายทุนชาวลาวที่รู้จักกัน อ้างว่าไม่รู้มีการซุกซ่อนยาบ้าไว้ใต้ลำโพง โดยนายทุนลาวจะมาขับรถยนต์ตนไปใส่ของ บอกเป็นซากสัตว์ที่ลักลอบมาจำหน่ายในไทย ไม่ใช่สิ่งของผิดกฎหมายร้ายแรง ครั้งแรกขับรถจากลาวมาส่งฝั่งไทย ไปที่ อ.โพนสวรรค์ จอดรถตามจุดนัดหมาย ก็มีคนมาขับรถไปเอาของลงแล้วขับมายังที่เก่า พร้อมมีเงินวางไว้ที่เบาะ 5 พันบาท ก็นำเงินไปกินเที่ยวเตร่
สำหรับครั้งที่สองนี้นายทุนลาวบอกให้ไปที่จอด อ.ท่าอุเทน และไม่นึกว่าภายในจะมียาบ้าคาดว่าเป็นสิ่งของผิดกฎหมายที่ไม่มีโทษรุนแรง แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากพบว่ามีข้อมูลการเข้าออกชายแดนบ่อยครั้ง และต้องเป็นขบวนการรับจ้างขนส่งยาเสพติดผ่านชายแดน ที่มีการดัดแปลงรถยนต์ ตีเนียนตบตาเจ้าหน้าที่ พร้อมจะมีการเพิ่มมาตรการเข้มในการตรวจสอบ เอ็กซเรย์รถยนต์ต้องสงสัยทุกคัน - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี