จับ 3 หนุ่มนครพนมคิดสั้นรับจ้างขนยาบ้ากว่า 3 แสนเม็ด แม่ร่ำไห้โผกอดลูกชาย คนขับอ้างหาเงินผ่าตัดพ่อป่วยมะเร็ง
ที่หน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ตชด.237) ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เมื่อบ่ายวันที่ 3 พ.ค.67 ที่ผ่านมา นายกัมปนาท วิเวศ ศรีพุทธา รอง ผวจ.นครพนม พ.อ.กันตภณ จันทะนันท์ รองหัวหน้าส่วนปราบปราม หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งตัน และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 24 (รอง หน.ปราบปราม นบ.ยส.24) พ.ต.ท.ธนพล ท้าวหนู รอง ผกก.ตชด.23 ค่ายศรีสกุลวงศ์ สกลนคร พ.ต.ท.ชัชวาล รัชตะประกร รอง ผกก.สืบสวน ภ.จว.นครพนม พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผบ.ร้อย ตชด.237 และฝ่ายปกครอง ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้าจำนวน 338,000 เม็ด พร้อมจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 คน และรถยนต์ 1 คัน เหตุเกิดบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2132 สายศรีสงคราม-ท่าแร่ เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า ขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ มีการเคลื่อนไหวเตรียมลำเลียงยาเสพติด จากฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน จึงประสานหน่วยงานความมั่นคง ร่วมลาดตระเวนทั้งทางน้ำและทางบก กระทั่งเวลาประมาณ 23.00 น.พบรถยนต์กระบะต้องสงสัยยี่ห้อเชฟโรเลต แค็บ สีขาว ทะเบียนหนองคาย แล่นอยู่บนถนนทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 2390 สายนาพระชัย-ปฏิรูป มุ่งหน้าไปยัง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ร.ต.อ.จรณ์ แก้วคำแสน หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว ตชด.237 จึงขับรถยนต์ไล่ติดตามไปจนถึง ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม และส่งสัญญาณให้รถกระบะเชฟโรเลตจอดรถเพื่อขอตรวจค้น ปรากฏว่าคนขับกลับเร่งเครื่องพยายามหลบหนี ขณะเดียวกันพบว่ามีการโยนวัตถุบางอย่างทิ้งด้วย
เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ยุทธวิธีเข้มข้นขึ้น ด้วยการยิงที่ยางรถยนต์ล้อหน้าด้านขวาจนระเบิด แต่คนขับไม่ยอมหยุดยังบดกระทะล้อ จนเกิดประกายไฟบนถนนเป็นทางยาวเพื่อหลบหนี คนร้ายบังคับพวงมาลัยรถไปไกลถึง 15 กิโลเมตรจึงหมดฤทธิ์ บริเวณสะพานลำน้ำอูนถนนทางหลวงแผ่นดิน 2123 สายศรีสงคราม-ท่าแร่ พบคนร้ายนั่งอยู่ในรถรวม 3 คน ได้แก่ 1.นายธีระเดช อายุ 22 ปี อยู่หมู่ 7 บ้านหนองสะโน ต.โพนสวรรค์ ทำหน้าที่เป็นคนขับ 2.นายธีรวัฒน์ อายุ 23 ปี อยู่หมู่ 10 บ้านเสาเล้าเหนือ ต.โพนสวรรค์ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เพื่อนที่ร่วมขบวนการคือ และ 3.นายทินพงษ์ อายุ 35 ปี อยู่หมู่ 11 บ้านนาน้อย ต.เหล่าพัฒนา อ.นาหว้า จ.นครพนม จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปยังจุดที่ทิ้งสิ่งของต้องสงสัย ซึ่งเป็นยาบ้าจำนวน 169 มัด ประมาณ 338,000 เม็ด บรรจุในกระดาษไขสีเหลือง มีอักษร Y1 ก่อนจะนำตัวไปสอบสวนขยายผลต่อที่กองร้อย ตชด.237
เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 คน มีฐานะเป็นญาติพี่น้องกัน โดยนายธีรวัฒน์ยอมรับว่าเป็นคนชักชวนเพื่อนมาร่วมลำเลียงยาบ้า มีคนในพื้นที่ ต.โพนสวรรค์เป็นเอเย่นต์ และว่าจ้างในราคา 1 หมื่นบาท และตนเห็นว่านายธีระเดชกำลังเดือดร้อน ต้องการเอาเงินไปใช้ผ่าตัดพ่อที่ป่วยเป็นมะเร็งในถุงน้ำดี ประกอบกับนายธีระเดชมีรถยนต์ด้วย พร้อมชวนนายทินพงษ์คนอยู่บ้านนาน้อย อ.นาหว้ามาสมทบอีกคน
นายธีรวัฒน์กับนายทินพงษ์ยอมรับว่า ก่อนไปรับยาบ้าได้เสพยาบ้าไปคนละเม็ด ส่วนนายธีระเดชคนขับไม่ได้เสพ หลังรับยาบ้าจากริมฝั่งโขงได้แล้ว บุคคลที่เป็นสายสั่งการได้โทรศัพท์ให้ขับรถไปบนเส้นทางสายบ้านนาพระชัย-ศรีสงคราม จนมาถึง ต.หาดแพงเห็นรถเจ้าหน้าที่ส่งสัญญาณให้จอด นายธีระเดชจึงเหยียบคันเร่งพยายามหลบหนี พร้อมช่วยกันทิ้งห่อยาบ้าลงถนน แต่ถูกยิงที่ยางล้อหน้าขวาจะระเบิด แต่นายธีระเดชประคองพวงมาลัยหลบหนีจนกระทะบดถนนเป็นประกายไฟยาวถึง 15 กิโลเมตรก็สิ้นฤทธิ์ดังกล่าว
ขณะที่มีการแถลงข่าว ได้มีญาติๆของผู้ต้องหานำข้าวกล่องมาส่งที่กองร้อย ตชด.237 หลังสิ้นเสร็จเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้งสามไปส่ง สภ.ศรีสงคราม ปรากฏว่านางสมหวัง สนมศรี อายุ 51 ปี แม่ของนายธีรวัฒน์หัวโจกเข้าร่ำไห้ไปสวมกอดลูกชาย ส่วนนายธีระเดชคนขับ เอามือปาดน้ำตาร้องไห้ พร้อมฝากญาติช่วยดูแลพ่อแม่ตนด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าทำให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย ส่วนเอเย่นต์ที่เป็นคนสั่งการ หลังทีมงานถูกจับ ก็ขับรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ดีแม็ค 4 ประตู สีขาว หลบหนีออกจากบ้านไปแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี