เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความระบุว่า "น็อคเต็มบึงเลยครับ เจอพายุลมเมื่อวาน ความเสียหายไม่ต่ำ 10 ตัน บึงละหาน" ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวบ้านในชุมชน และผู้ได้ทราบเรื่อง โดยชาวบ้านหลายตำบลบริเวณรอบบึง ได้ตั้งข้อสงสัยถึงสาเหตุณ์การตายหมู่ครั้งประวัติศาสตร์ของฝูงปลาหลายสายพันธุ์ในครั้งนี้

ทั้งนี้ บึงละหาน มีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 4 ตำบล ใน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ คือ ต.ละหาน , ต.หนองบัวใหญ่ , ต.หนองบัวบาน และ ต.ลุ่มลำชี โดยมีพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในบริเวณ ต.ละหาน อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ มมีเนื้อที่ 29.09 ตารางกิโลเมตร (18,181 ไร่) เป็นทะเลสาบน้ำจืดและแหล่งชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของประเทศไทย

ล่าสุด นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อม นายสมบัติ ไตรศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จิตอาสา กำลังช่วยกันนำเรือหางยาวกว่า 30 - 40 ลำ เก็บลำเรียงซากปลาเน่าเกลื่อนบนท้องน้ำ ขึ้นใส่รถบรรทุก 10 ล้อ นำไปทิ้งฝัง และจะนำบางส่วนไปตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ล่าสุด สำนักงานประมงจังหวัดชัยภูมิ ได้สรุปสาเหตุการตายในครั้งนี้ คือ 1.เมื่อวานตอนค่ำได้เกิดลมแรง ทำให้น้ำเกิดคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ปลาตกใจมุดโคลน เนื่องน้ำตื้นมากประมาณ 0.5 - 1 เมตร ตะกอนดินไปอุดเหงือกปลา ปลาไม่สามารถหายใจได้ 2.เกิดฝนตก ทำให้อุณหภูมิของน้ำเปลี่ยนแปลงฉับพลัน ทำให้ปลาน็อคน้ำตายจำนวนมาก

ขณะที่อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน กำลังประสานงานเพื่อเก็บซากปลาที่ตายขึ้นจากบึงละหาน เพื่อไม่ให้น้ำเน่า ซึ่งจะมีผลระทบกับปลาที่ยังรอดชีวิต และคุณภาพของน้ำที่ใช้เป็นน้ำประปาของหมู่บ้าน เบื้องต้นจากการประเมินน้ำหนักปลาทั้งหมดกว่า 24 ตัน

- 006