พ่อค้าผลไม้ร้องสื่อขอความเป็นธรรม กล้องวงจรปิดจับชัดนาทีถูกภรรยาเพื่อนบ้านอดีตข้าราชการครูด่าว่าเป็นขอทานก่อนสามีจะปรี่เข้ามาตบหัว พร้อมชักมีดจะจ้วงแทง จนวางมวยกัน ขณะที่คู่กรณีขอความเป็นธรรมด้วยอ้างอีกมุมถูกทำร้ายก่อนและเคยถูกพูดกระแทกอยู่บ่อยครั้ง เผยปมปัญหาเป็นเพื่อนบ้านกระทบกระทั่งกันมานานแล้วหลายปี
วันนี้ (8 พ.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนขอความเป็นธรรมและเป็นสื่อกลาง จากครอบครัวนายอาจินต์ อายุ 57 ปี อาชีพขายผลไม้ว่าเหตุการณ์เวลาประมาณ 18.20 น.วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ถูกเพื่อนบ้านซึ่งเป็นอดีตข้าราชการครูบำนาญที่บ้านอยู่ห่างกันเพียงแค่ประมาณ 20 เมตร มีบ้านเพียง 1 หลังคั้นกลางอยู่ ภายในชุมชนซอยสรรพากร ถนนพัทลุง ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง เข้ามาตบศีรษะ 1 ครั้งหลังจากเข้าไปถามภรรยาเขาอายุ 68 ปีว่าพูดอะไร เนื่องจากก่อนหน้านั้นภรรยาของเพื่อนบ้านรายดังกล่าว ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการครูบำนาญเช่นกันมาพูดว่าเป็นขอทาน จึงได้ต่อยสวนไปจากนั้นเพื่อนบ้านชักมีดยาวประมาณ 1 ฝ่ามือไล่แทง แต่ไม่ถูก ซึ่งได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้กับ ว่าที่ ร.ต.อ.พันธรัก พงศ์พฤกษธาตุ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวกล้องวงจรปิดบ้านนายอาจินต์ บันทึกภาพไว้ได้ให้เห็นถึง ตัวนายอาจินต์ แวะถามภรรยาคู่กรณีก่อนที่สามีของคู่กรณีได้ใช้มือมาถูกศีรษะ และเกิดการชกต่อยขึ้น จังหวะเดียวกันนั้นคู่กรณีได้ชักมีดออกมาจะจ้วงแทง ก่อนจะมีรถยนต์ผ่านมาจอดห้าม ทั้งคู่จึงแยกย้ายและมีเสียงพูดจากนายอาจินต์ว่า “มันจะแทงกู” จังหวะต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ทางลูกสาวของคู่กรณี ซึ่งเป็นพยาบาลวิชาชีพ ได้เข้ามาตบญาติผู้หญิงของนายอาจินต์ และลูกชายของคู่กรณีเข้ามาเตะและต่อยนายอาจินต์ และเกิดทำร้ายร่างกายกันชุลมุนกัน จนเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาแยกย้าย ทางฝ่ายคู่กรณีก็ได้ไปหยิบมืดยาวออกมาแต่ถูกห้ามปรามไว้
นายอาจินต์ ยิ่งสกุล อายุ 57 ปี เล่าว่า หลังจากตนขับรถซาเล้งพ่วงข้างออกไปส่งภรรยาขายผลไม้ จึงเดินเท้ากลับมาบ้าน ผ่านหน้าบ้านของคู่กรณีภรรยาคู่กรณีที่นั่งอยู่หน้าบ้านพูดออกมาว่า “ไอ้ขอทานเดินมาแล้ว” ตนได้ยินชัดเจนเต็มหู จึงถามกลับไปว่า “พูดอะไรต่ะกี้” สามีเขาซึ่งยืนอยู่หน้าบ้าน ไม่พูดอะไรปรี่เข้ามาตบหัวตนเลย ด้วยสัญชาตญาณต้องป้องกันตัวจึงสวนหมัดใส่ไป 2 หมัด เตะอีก 1 ครั้ง คู่กรณีจึงได้ชักมีดพกออกจากกระเป๋ากางเกง ถอดออกจากปลอกและพยายามจ้วงแทงสุดมือ 4 ครั้ง แต่ละครั้งตนก็ถอยร่นหลีกไป จนตนตกไปข้างทางและหยิบก้อนหินมา 1 ก้อนไว้ป้องกันตัว และมีคนมาห้าม ก่อนจะเดินเข้าบ้านโทรแจ้งตำรวจ เมื่อตำรวจมาก็ได้เดินออกจากบ้านไปอีกรอบ ลูกชายของคู่กรณีขับรถจักรยานยนต์มาจอดและเข้ามาเตะต่อยตน โดยไม่พูดอะไรแม้ว่าตำรวจจะยืนอยู่ ขณะเดียวกันลูกสาวของคู่กรณีอีกคนก็เข้ามารุมทำร้าย ทำให้คู่กรณีเข้าไปหยิบมีดยาวออกมาจากบ้านเพื่อไล่ฟัน แต่มีคนห้ามเอาไว้อีกครั้ง
หลังจากเกิดเหตุตอนที่ขึ้นมาโรงพักคู่กรณีก็ยังท้าต่อหน้าตำรวจว่ามาดวลมาแลกกันอีกครั้งไหม เขาพร้อมที่จะตาย ถ้ายิงตนตายเขาก็จะยิงตัวตายตาม แต่ตนขอไม่ไปแลกกับคนแบบนั้น ซึ่งจนถึงตอนนี้เจอหน้ากันทุกวัน เพราะตนต้องผ่านหน้าบ้านเขาไปทำงาน ทุกวันนี้ไม่ค่อยสบายใจเท่าไร ส่วนมูลเหตุกระทบกระทั่งกันมาตลอดตั้งแต่ 4-5 ปีที่ผ่านมา ฉนวนเหตุเรื่องแรกคือ เรื่องที่ตนไปจอดรถในที่ดินของญาติของคู่กรณี แต่เจ้าของที่ดินก็ให้ตนจอด ครั้งนั้นก็เคยเอาปืนมาขู่ตน
ส่วนปัญหาที่สองก็เรื่องแมวที่เขาเลี้ยงมาสร้างความรำคาญกับตน หลังจากนั้นก็กระทบกระทั่งกันมาตลอด จนมาถึงเหตุการณ์ล่าสุดนี้ ตนมองว่าครั้งนี้รุนแรงอยู่ๆมาตบตน ตนเข้าไปถามดีๆว่าคุณพูดว่าอะไร ซึ่งก่อนตนจะออกไปขายผลไม้ก็นั่งรอด่าตนอยู่ทุกวัน วันนี้ต้องการยุติปัญหา และมาเรียกร้องขอความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินตน และถามหาความยุติธรรม และอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นกลาง ดำเนินการไปตามกฎหมายตามหลักฐาน และต่างคนต่างอยู่
ลูกชายนายอาจินต์ บอกว่า ตนทำงานอยู่ กทม. ไม่ได้อยู่บ้าน แต่รู้ว่าทั้งคู่มีปัญหากระทบกระทั่งระหองระแหงตลอด แต่ไม่คิดว่าจะลงไม้ลงมือกัน หลังจากเห็นวงจรปิดพ่อไม่ได้เริ่มก่อน สิ่งที่กลัววันนี้พ่อถูกทำร้ายและมีอาวุธ ถึงแม้จะไม่มีใครโดนอาวุธ แต่ถ้าวันหนึ่งโดนขึ้นมา คนนั้นเป็นพ่อตน อีกอย่างที่กลัวหลังจากนี้จะเอายังไงต่อ ใครจะเป็นคนรับผิดชอบ ความปลอดภัยของครอบครัวตนอยู่ตรงไหน ถ้าความยุติธรรมในจังหวัดทำอะไรไม่ได้จริงๆ ครอบครัวที่ไม่มียศถาบรรดาศักดิ์จะดูแลและปกป้องตัวเองกันอย่างไร อยากให้หน่วยงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลและเต็มที่หน่อย ทุกคนเป็นคนเหมือนกัน สิทธิเท่ากัน ส่วนเรื่องที่เขาว่าเราเป็นขอทานเพราะพ่อมีอาชีพค้าขาย
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้เข้าพบนายกอ (นามสมมุติ) อายุ 73 ปี อดีตข้าราชการครูบำนาญ เพื่อความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย นายกอ เล่าว่า วันนั้นตนไปยืนดูนกที่แขวนเลี้ยงไว้ตรงข้ามบ้าน คู่กรณีเดินกลับมาจากขายของมาถึงมาว่าภรรยาตนว่า “มึงพูดอะไร” และจะตบภรรยาตน ตนก็เดินเข้าไปหา ไม่ได้ทำอะไรก่อน มันก็ต่อยมาเลยด้วยอายุตนที่มากแล้ว ก็ได้ชักมีดเหลากรงนกที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาเพื่อต่อสู้มันก็วิ่งไปหยิบก้อนหินจะตีตน จังหวะนั้นนายก อบต.แห่งหนึ่งซึ่งสนิทกับตนขับรถผ่านมาพอดี ก็ได้ลงมาห้ามปราม จนลูกชายตนขับรถมาเห็นว่าตนถูกต่อยเลือดไหลก็เข้าไปต่อยคู่กรณี จังหวะนั้นตนก็เข้ามาหยิบมีดพร้าในบ้าน แต่ลูกๆต่างห้ามเอาไว้
ส่วนมูลเหตุเกิดจากเช้าวันนั้นตนนำแมวไปฉีดวัคซีนฟรีที่ชุมชนสรรพากร ส่วนคู่กรณีพาหมาไปฉีดวัคซีน แต่คู่กรณีได้มาพูดกระแทกภรรยาตน แต่ไม่ได้เอ่ยชื่อว่า “พาแมวมาฉีดยาแมวบ้าแล้ว คนไม่รู้บ้าเหมือนแมวไหม” ภรรยาก็มาเล่าตนแต่ตนก็บอกว่าอย่าไปสนใจ ที่ผ่านมาคู่กรณีนั่งกินเหล้าคนเดียว ชอบพูดด่าครอบครัวตน ถามทุกคนได้เลยนิสัยตนเป็นยังไง ไม่เคยทำหรือพูดเรื่องใครก่อน แต่ถ้าสุดวิสัยจริงตนเอา ตนเล่นและมันก็ไม่มีชีวิตอยู่ ผู้ชายแบบเราบางครั้งมันก็สุดวิสัยจริงๆ ถึงแม้อะไรก็แลกกัน ส่วนตนก็ไม่รู้ว่าภรรยาไปพูดอะไร แต่มาถามทีหลังแฟนก็บอกว่าพูดว่า “ขอทานเดินมาแล้ว" เหตุที่เกิดขึ้นตนยังแค้น อยู่ให้สบายกันไม่ดีกว่าหรือจะชอบพูดกระแทกแดกดันตนและครอบครัวมาตลอด
ลูกชายนายกอ (นามสมมุติ) บอกว่า วันเกิดเหตุน้องสาวโทรไปบอกตนว่าพ่อโดนต่อย ตนรีบขับรถมาก็มาเห็นพ่อเลือดทั้งหน้า คนเป็นลูกเห็นพ่อโดนทำร้าย ก็บันดาลโทสะเข้าไปต่อยหน้าเขาจริงตามในคลิป ก็ยอมรับว่ากฎหมายบ้านเมืองตนไปทำร้ายเขาก็เป็นความผิด แต่สำหรับตนไม่มีใครจะเข้ามาทำร้ายคนในครอบครัวตนได้ ก่อนหน้านี้เคยไปพูดขอคู่กรณีแล้วว่าต่างคนต่างอยู่ อย่ามีปัญหาอะไรกัน ส่วนมูลเหตุเกิดจากเรื่องที่สะสมมา เขาจะพูดกระแทกพ่อแม่ครอบครัวตนมาตลอดแทบทุกวัน ตนก็วางตัวเป็นคนกลางระหว่างสองบ้านนี้มาตลอด ส่วนคู่กรณีก็กินเหล้ากินเบียร์มีหลุดพูดกระแทกบ้านตนมาตลอด สิ่งที่ตนไม่ชอบมากที่สุดคือมากล่าวหาว่าแม่ตนเป็นบ้า พ่อแม่ใครใครก็รัก ส่วนครั้งนี้ทางกฎหมายก็ว่ากันไปตามขบวนการ ส่วนเรื่องราวต่างๆก็อยากให้ยุติ ฝั่งเรายอมยุติ แต่ฝั่งเขาไม่ทราบได้
เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว พร้อมทั้งสอบปากคำฝ่ายนายอาจินต์ และฝ่ายคู่กรณีแล้ว พร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่เกิดเหตุ และอยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวน เพื่อดำเนินการตามข้อกฎหมายต่อไป - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี