พ.จ.อ.ประเสริฐ มาลัย อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า จากสภาวะมลพิษทางอากาศที่มีความเข้มข้นของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในบรรยากาศของไทยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพอนามัยของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเผาในที่โล่งของภาคการเกษตร เพื่อกำจัดเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร หรือเพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูก รวมถึง
เพื่อความสะดวกในการเก็บเกี่ยวผลผลิต ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดสำคัญของมลพิษที่ก่อนให้เกิดปัญหาหมอกควันสารมลพิษทางอากาศต่างๆ
ทั้งนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 โดยกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ออกประกาศเขตห้ามเผา ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และดูแลกวดขันอย่างเข้มงวดไม่ให้มีการเผา หากฝ่าฝืนให้ลงโทษตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ทางกรมหม่อนไหม จึงแนะนำเกษตรกรเปลี่ยนวิธีการเผากำจัดเศษวัสดุจากการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมมาเป็นการฝังกลบ โดยการไถเปิดร่องข้างต้นหม่อนจากนั้นใส่ใบหม่อน กิ่งหม่อน และมูลไหมลงไปในร่องแล้วไถกลบหรือนำมาหมักเพื่อทำปุ๋ยหมักมูลไหม ก็จะได้ปุ๋ยที่มีอินทรียวัตถุสูง เท่านี้ก็สามารถลดปัญหามลพิษทางอากาศจากเผา อันทำให้เกิดเขม่าควันและฝุ่นละออง PM2.5 ของเกษตรกรผู้ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมลดลงได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี