ตาย1บาดเจ็บ3/สั่งอพยพประชาชน
‘มาบตาพุดแทงค์’ระเบิด
กนอ.สั่งปิดรง.ต้นเหตุทันที
ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ2
ทหารเรือส่งกำลังช่วยเหลือ
ไฟไหม้แท็งก์สารเคมี บริษัทดัง ติดท่าเรือมาบตาพุด จ.ระยอง ดับ 1บาดเจ็บ 3 ด้าน “กนอ.” สั่งปิดโรงงาน ออกประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2ขณะที่จังหวัดระยอง สั่งอพยพคนออกนอกพื้นที่เกิดเหตุ
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 9 พฤษภาคม ศูนย์เฝ้าระวังและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม หรือ EMCC นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้ถังเก็บสาร Pyrolysis gasoline (แก๊สโซลีน) บริษัท มาบตาพุด แท้งก์ เทอร์มินัล จำกัด ถนนไอ-แปด ท่าเรือมาบตาพุด ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง จึงแจ้งไปยังการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) มาบตาพุด พร้อมกับแจ้งตำรวจ สภ.มาบตาพุด และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบควันไฟเป็นสีดำพวยพุ่งขึ้นทั่วท้องฟ้า โดยมีเปลวไฟลุกไหม้บนถังสารโซลีน ขนาดใหญ่อย่างรุนแรง เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4ราย ถูกนำส่งไปรักษาที่ รพ.กรุงเทพระยอง มีการอพยพผู้ที่อยู่ภายในบริเวณจุดเกิดเหตุออกมายังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว แต่ทีมดับเพลิง ยังไม่สามารถเข้าดับไฟได้เนื่องจากเปลวเพลิงยังลุกไหม้รุนแรง ประกอบกับมีเชื้อเพลิงเป็นสารเคมีอยู่ในถังขนาดใหญ่ ส่วนชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ต่างได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้ ทำให้พากันรู้สึกหวาดผวา เกรงว่าจะเกิดระเบิดและส่งผลกระทบกับที่อยู่อาศัยโดยต้องรีบพากันหนีออกจากพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ Pyrolysis Gasoline เป็นสารเพิ่มค่าออกเทนในน้ำมัน และเป็นสารตั้งต้นสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีหลายอย่าง ไวไฟระดับ 3 อันตรายต่อสุขภาพ ระดับ 2 คาดว่าลมจะพัดไปทางพื้นที่ อ.บ้านฉาง ทั้งนี้ ชาวบ้านที่ชุมชนตากวน ต.มาบตาพุด ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 7 กิโลเมตร ต่างได้ยินเสียงระเบิด แต่ครั้งแรกเข้าใจว่าเป็นยางรถบรรทุกระเบิด จนมองไปเห็นกลุ่มควันไฟพวยพุ่งสู่ท้องฟ้า จึงรู้ว่าเป็นโรงงานระเบิด ส่วนผู้ที่เคยทำงานในบริษัทดังกล่าว ยืนยันว่าช่วงนี้เป็นช่วงการชัตดาวน์ทำความสะอาดถังเก็บสารเคมี คาดว่าน่าจะเกิดความผิดพลาดจนเกิดระเบิดขึ้น โดยชาวบ้านต่างเกรงว่าจะเกิดมลพิษสร้างผลกระทบอย่างหนักให้กับพื้นที่ จนต้องพากันอพยพออกจากพื้นที่เป็นการชั่วคราว
ต่อมาทางบริษัทฯ ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ชี้แจงกรณีดังกล่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 10.45 น.ได้เกิดกลุ่มควันบริเวณถังจัดเก็บสารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน ของบริษัทมาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินัล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ทำเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง บริษัทฯ ได้ระดมทีมเพื่อควบคุมสถานการณ์ในทันทีที่เกิดเหตุตามแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน โดยตัดแยกระบบ และหยุดกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงงานตามชั้นตอนความปลอดภัย ขณะนี้อยู่ระหว่างการหาสาเหตุ เบื้องต้นได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต 1 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส3 ราย ซึ่งได้นำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์เรียบร้อยแล้ว โดยเหตุดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ สารไพรโรไลสิส แก๊สโซลีน เป็นสารที่อาจจะส่งผลต่อสุขภาพในระดับต่ำ
บริษัทฯ ขออภัยในเหตุที่เกิดขึ้น และจะพยายามอย่างเต็มที่ในการควบคุมสถานการณ์ โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของชุมชน และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ลงพื้นที่เพื่อดูแล ชี้แจง และรับฟังความคิดเห็นของชุมชนบริเวณรอบโรงงาน และจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่หากพบว่าได้รับผลกระทบ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อศูนย์สื่อสารหมายเลขโทรศัพท์ 038-911-995 หากมีความคืบหน้า บริษัทฯ จะรายงานสถานการณ์ให้ทราบโดยเร็วที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทฯ ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุของการเกิดเหตุระเบิดในครั้งนี้แต่อย่างใด คาดว่ายังอยู่ระหว่างเร่งดับเพลิงและให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุละเอียดอีกครั้ง
ด้านนายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการกนอ.เปิดเผยถึงเหตุปะทุและมีเปลวไฟ ภายในถังสารเคมี C-9 (nine) กลุ่มอโรมาติก ของบริษัท มาบตาพุด แทงค์ เทอร์มินอล จำกัด ว่าเบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย โดยบริษัทฯ ได้นำส่งโรงพยาบาลและอยู่ในความดูแลของแพทย์เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้รับรายงานว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม และอยู่ในระหว่างระงับเหตุ โดยกลุ่มบริษัทในเครือเอสซีจีได้นำโฟมมาดับเพลิงและเตรียมเรือพาประชาชนออกจากพื้นที่หากสถานการณ์รุนแรง
อย่างไรก็ตาม กนอ.อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ให้บริษัท มาบตาพุดแทงค์ เทอร์มินอล จำกัด หยุดประกอบกิจการโรงงานในกระบวนการที่เกี่ยวข้องกับหน่วยถังสารเคมี C-9 (nine) กลุ่มอโรมาติก เป็นการชั่วคราว นับตั้งแต่วันที่ได้รับทราบคำสั่ง เพื่อให้ดำเนินการตรวจสอบสาเหตุและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น รวมทั้งให้บริษัทฯ ตรวจสอบความเสียหายของโครงสร้างถังสารเคมี C-9 (nine) กลุ่มอโรมาติก และมีหนังสือรับรองการตรวจสอบจากวิศวกร ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 สรุปผลการตรวจสอบและแนวทางปรับปรุงแก้ไขเสนอ กนอ.เพื่อใช้ประกอบการพิจารณา นอกจากนี้ต้องตรวจวิเคราะห์หาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยเร่งด่วน และจัดทำมาตรการด้านความปลอดภัย เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ โดยต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานภายนอกที่ให้การรับรองด้านความปลอดภัย (Third Party) พร้อมทั้งชี้แจงแนวทางและมาตรการในการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวด้วย
เวลา 14.00 น.นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการกนอ.ได้สั่งการให้สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร.) และสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด (สนพ.) จ.ระยอง อพยพคนในพื้นที่ทั้งพนักงาน และสถานประกอบการโรงงานทุกแห่งในพื้นที่เกิดเหตุออกจากพื้นที่โดยด่วน หลังจากเริ่มมีการลุกลามของเพลิงไหม้ โดยในพื้นที่ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับที่ 2 แล้ว โดยขณะนี้บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างควบคุมสถานการณ์ ซึ่งมีแนวโน้มลุกลาม ขณะนี้ทางจังหวัดระยอง ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินระดับ 2 พร้อมอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่โดยเร่งด่วนแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ได้เร่งเข้าควบคุมเพลิงที่กำลังลุกไหม้บริเวณที่เกิดเหตุอย่างหนัก ระหว่างนั้นถังเก็บแก๊สโซลีนถังที่ 3 ได้เกิดระเบิดขึ้น ทำให้ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ต้องเร่งเฝ้าระวังในส่วนของถังที่ 4 เพื่อไม่ให้เพลิงลุกลาม รวมทั้งเร่งอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด สำหรับกลุ่มควันดำยังคงพวยพุ่ง ลอยไปทางพื้นที่ อ.มาบตาพุดและห้วยโป่ง เจ้าหน้าที่ต้องประกาศแจ้งเตือนประชาชนบริเวณดังกล่าวให้เตรียมอพยพเพิ่มเติม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี