ปลัดมท.สนองพระดำริ  สานต่อผ้าลายสิริวชิราภรณ์  จัดอบรมใหญ่ที่เมืองน่าน

ปลัดมท.สนองพระดำริ สานต่อผ้าลายสิริวชิราภรณ์ จัดอบรมใหญ่ที่เมืองน่าน

วันอาทิตย์ ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.

ปลัดมท.สนองพระดำริ

สานต่อผ้าลายสิริวชิราภรณ์

จัดอบรมใหญ่ที่เมืองน่าน

ปลัด มท. ร่วมกับคณะทำงานผ้าไทยใส่ให้สนุก สนองแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” ในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา โค้ชชิ่ง “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP กลุ่มช่างทอผ้าและงานหัตถกรรม 16 จังหวัดภาคเหนือ เน้นย้ำ “ของเก่าเราก็ไม่ทิ้ง ของใหม่เราก็ต้องมี” มุ่งมั่นพัฒนาฝีมือเพื่อทำให้ผ้าไทยเป็นที่นิยมชมชอบของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ยังผลให้มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน

เมื่อวันที่ 11วันนี้ (11 พ.ค. 67) เวลา 14.00 น. ที่โรงแรมน้ำทองน่าน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ช่างทอผ้าและงานหัตถกรรม (Coaching) ผ้าลายพระราชทาน “ผ้าลายสิริวชิราภรณ์” และงานหัตถกรรม จุดดำเนินการที่ 2 จังหวัดน่าน โดยมี


นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า พวกเราทุกคนคือความหวังของประเทศชาติ ทั้งผู้ที่เป็นข้าราชการ ตลอดจนถึงพี่น้องผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย ช่างทอผ้าและงานหัตถกรรม เพราะทุกคนคือผู้สืบสาน รักษา และต่อยอด สิ่งที่เป็นมรดกภูมิปัญญาวัฒนธรรม ทั้งงานหัตถกรรม งานผ้าประจำถิ่น (ผ้าไทย) ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่าของชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคสมัยแห่งความเจริญทางวัตถุ พวกเราสามารถตระหนักได้โดยง่ายว่า บุคคลผู้ที่จะช่วยทำให้มรดกของบรรพบุรุษเรายังคงอยู่เป็นอัตลักษณ์ของคนไทยตามจังหวัดต่าง ๆ ยิ่งเหลือน้อยลง เฉกเช่นจังหวัดน่านแห่งนี้ กลิ่นไอของคนน่านก็เริ่มจะเลือนหายไป เพราะเรารับสิ่งต่าง ๆ ของตะวันตก และทั่วโลก ทั้งการศึกษา การสื่อสาร มารยาท การพูด การแต่งกาย ภาษา เพิ่มมากขึ้น จนกระทั่งกลิ่นไอความเป็นน่านเจือจางลง

“แต่นับว่าเป็นความโชคดีของคนไทยทุกคนที่เรามีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงมีพระราชปณิธานที่แน่วแน่ สะท้อนผ่านพระปฐมบรมราชโองการ เนื่องในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ความว่า “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” อันเป็นเป้าหมายที่พระองค์ท่านทรงอยากให้เกิดขึ้นในประเทศไทยแห่งนี้ และต่อมา เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 พระองค์ได้พระราชทานพระราชดำรัสแก่ข้าราชบริพารในพระองค์ ความว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ซึ่งพวกเราชาวมหาดไทยได้รับใส่เกล้าใส่กระหม่อมมาเป็นหลักใช้ในการปฏิบัติราชการเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับพี่น้องประชาชน และยิ่งเป็นความโชคดีของคนไทยทุกคน ที่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงมีพระปณิธานอันมุ่งมั่นในการแบ่งเบาพระราชภาระของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยทรงสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชปณิธานของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยทรงเสด็จลงมาช่วยเหลือพี่น้องคนไทยในหลาย ๆ เรื่อง

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ตนมีความภาคภูมิใจทุกครั้งที่ได้เดินทางมาเปิดกิจกรรม coaching เพราะทำให้ได้มาเจอพี่น้องข้าราชการในแต่ละจังหวัด แต่ละอำเภอ มาเจอพี่น้องตัวแทนของคนไทยผู้มีความมุ่งมั่นในการรักษาภูมิปัญญาของชาติผ่านงานผ้า งานหัตถกรรม หัตถศิลป์ในจังหวัดต่าง ๆ และยังได้มีโอกาสมาร่วมงานกับคณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุกในพระดำริสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ซึ่งทุกท่านมาด้วยจิตอาสา ด้วยความมุ่งมั่น ด้วย passion ที่จะนำพระปณิธานมาถ่ายทอดขยายผล เพื่อพัฒนาผ้าไทย ทำให้ผ้าไทยไม่มีทางตัน ทำให้เรามีความรุ่งโรจน์จากการผลิตและจำหน่ายผ้าไทย เพราะผ้าไทยจะทำให้พี่น้องประชาชนคนไทยได้มีรายได้ มีโอกาสที่ดีของชีวิตเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น การ Coaching แบบเดินสายจึงมีประโยชน์อย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้เรามีความมั่นใจในภูมิความรู้ภูมิปัญญา ในการประกอบสัมมาชีพแล้ว ยังก่อให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “การแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรม” ตลอดจนถึงการพัฒนาช่องทางการตลาด ดังเช่นเรื่อง Branding มีความสำคัญ เพราะจะช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าและผลิตภัณฑ์ เพื่อที่จะหนุนเสริมให้เกิดการเพิ่มรายได้ สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างโอกาส และผ้าไทยแต่ละแบรนด์ที่มีเทคนิคแตกต่างหลากหลายกันไป จะมีกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน เพราะความชอบของคนไม่เหมือนกัน ผ้าไทยยังคงมีช่องว่างให้กับเราในการออกแบบอยู่เสมอ แต่เราต้องเปิดใจรับเอาสิ่งที่โลกนิยมเข้ามาใช้ในการประกอบสัมมาอาชีพด้วย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า ความสำเร็จของพวกเราคือความภาคภูมิใจของคนทั้งชาติ ด้วยพลังของข้าราชการและพลังภาคีเครือข่ายทั้ง 7 ภาคีในทุกพื้นที่ อันประกอบด้วย ภาคราชการ ภาคผู้นำศาสนา ภาควิชาการ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคประชาสังคม ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด จะทำให้พวกเราได้เป็นต้นแบบให้ลูกหลานในอีกหลายร้อยปีข้างหน้าได้มีผ้าไทยสวมใส่ มีอาหารไทยให้กิน มีงานหัตถกรรมให้ได้ใช้สอย และมีผืนแผ่นดินไทยที่ร่มรื่น อุดมสมบูรณ์ แสนสุขสบาย ให้ได้อยู่อาศัย จึงขอให้ทุกคนได้ภาคภูมิใจว่า พวกเราคือบุคคลสำคัญผู้ที่จะช่วยสนองแนวพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ในการทำให้พี่น้องประชาชนได้มีสิ่งที่ดีเกิดขึ้นในชีวิต ดังนั้น เราต้องแสดงออกถึงความอดทน ความมานะบากบั่น ขยันหมั่นเพียร ต้องยอมเหนื่อยยากลำบากกาย ลุกขึ้นมาเป็นผู้นำของกลุ่ม ของหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด เพื่อเราจะได้เป็นผู้นำของโลกแฟชั่นต่อไปในอนาคต ทำให้ผืนผ้าไทยทุกผืนใส่แล้วสนุก ใส่แล้วกิ๊บเก๋ ใส่แล้วหล่อเหลา สวยงาม ดูดี เป็นที่ถูกอกถูกใจของประชาชนคนไทย และผู้บริโภคทั่วโลก อันจะยังผลทำให้ผืนผ้าไทยได้รับการตอบรับ และเป็นที่นิยมชมชอบอย่างแพร่หลาย ส่งผลให้พี่น้องประชาชนคนไทย ได้มีงาน มีอาชีพ มีรายได้ ส่งผลให้ครอบครัวและลูกหลานได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนตลอดไป

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top