กรมอุตุฯเตือน

19จว.ฝนถล่ม

กทม.ร้อยละ40

เหนือยังร้อนจัด

กรมอุตุฯ เตือน 19 จังหวัดทั่วไทยรับมือฝนตกหนัก ส่วนเมืองกรุงมีฝนร้อยละ 40 ของพื้นที่ เตือนให้เฝ้าระวังฝน-ลมกระโชกแรง ขณะเดียวกัน ภาคเหนือ อากาศร้อนสุด อุณหภูมิแตะ 41 องศาฯ

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศว่า ลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทย ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันออกเคลื่อนเข้าปกคลุมอ่าวไทย และภาคใต้ ขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน และมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ในภาคเหนือ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ โดยมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรง และฝนตกหนักในระยะนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ 19 จังหวัด เสี่ยงภัยฝนตกหนัก ประกอบด้วย นครนายก, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี, ตราด, สุราษฎร์ธานี, พังงา, กระบี่, นครศรีธรรมราช, ตรัง, พัทลุง, สตูล, สงขลา, ปัตตานี, ยะลาและนราธิวาส

ส่วนบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ อากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากที่ จ.เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัยและตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากที่ จ.เลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากที่ จ.อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรีและราชบุรี ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราด

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีตกฝนหนักบางแห่ง ส่วนมากที่ จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ จ.พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ส่วน กทม.และปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่

ด้านสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือGISTDAร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” พบว่า 18 จังหวัดภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจได้แก่ อ่างทอง สิงห์บุรี สระบุรี ศรีสะเกษ ลพบุรี อุบลราชธานี พระนครศรีอยุธยา สุรินทร์ ยโสธร ชัยนาท ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครราชสีมา ปทุมธานี สุพรรณบุรี มหาสารคาม และบุรีรัมย์ ขณะที่อีก 28 จังหวัดอยู่ในระดับสีส้มที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ

ส่วนกทม.พบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานทุกเขต โดยพบ 2 เขต ที่มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดงที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ คือดอนเมือง และหลักสี่ ขณะที่อีก 48 เขตที่เหลืออยู่ในระดับสีส้มที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ

แอปพลิเคชั่น “เช็คฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับสีส้มและสีแดงต่อเนื่องทั้งนี้ ข้อมูลบนแอปพลิเคชัน “เช็คฝุ่น” มีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมร่วมกับ AI (Artificial intelligence) ในการวิเคราะห์ค่าฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมงในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ร่วมกับการใช้ข้อมูลการตรวจวัด PM 2.5 จากกรมควบคุมมลพิษ, ข้อมูลสภาพอากาศ จากกรมอุตุนิยมวิทยา รวมถึงข้อมูลของแหล่งกำเนิดฝุ่น เช่น จุดความร้อน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมาก นำเสนอในรูปแบบข้อมูลตัวเลข เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจสถานการณ์ได้ง่ายยิ่งขึ้น สำหรับประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่ตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ