น้ำลด ตอผุด! กรมชลฯ ทุ่มงบซื้อดิน-ก่อสร้าง แก้มลิงกักเก็บน้ำเกือบ 500 ล้านบาท จนโครงการเสร็จสิ้นตามกำหนดเมื่อปี 66 แต่ปรากฏว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูแล้งจัดที่ผ่านมา น้ำเกิดลดระดับ จนมีสันดอนดิน ที่ยังไม่ได้ขุดโผล่ขึ้นมากลางน้ำ ชาวบ้านร้อง ป.ป.ช.ตรัง ตรวจสอบร่วมกับภาคประชาชน ด้านกรมชลฯ แจงเป็นเหตุสุดวิสัยเนื่องจากเป็นดินเลน ต้องรอน้ำลดถึงขุดได้
วันนี้ 23 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง ร่วมกับเครือข่ายภาคประชาชน และชมรมตรังต้านโกง ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการแก้มลิงท่ามะปราง ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งดำเนินการก่อสร้างโดย สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลาง ที่ 16 (กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง) ซึ่งแบ่งพื้นที่เป็นแก้มลิงท่ามะปรางจำนวน 180 ไร่ แก้มลิงบ้านน้ำพราย 1 เนื้อที่ 192 ไร่ และแก้มลิงบ้านน้ำพราย 2 เนื้อที่ 300 ไร่ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวนประมาณ 280,000,000 ล้านบาท อีกทั้งก่อนหน้านี้ได้ใช้งบประมาณในการจัดหาจัดซื้อเวียนคืนที่ดินจากเอกชน จำนวน 213,897,988 บาท โดยลักษณะพื้นที่บางส่วนเป็นขุมเหมืองเก่า
ซึ่งระยะเวลาดําเนินการก่อสร้าง จำนวน 3 ปี ทางกรมชลฯเป็นผู้ดำเนินการเอง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2564 สิ้นสุดโครงการแล้วเมื่อ พ.ศ.2566 ที่ผ่านมา ซึ่งตามโครงการหากแล้วเสร็จจะสามารถกักเก็บน้ำได้ที่ความจุประมาณ 3.70 ล้านลูกบาศก์เมตร วัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้เพื่อการเกษตรกรรม ของชาวบ้านในพื้นที่ ต.ปากคม ต.ห้วยยอด และ ต.ปากแจ่ม เป็นหลัก บางส่วนก็เพื่อกิจการด้านอุปโภคและบริโภค
แต่ปรากฏว่าโครงการดังกล่าวไม่ปรากฏป้ายโครงการมาตั้งแต่ต้น จนกระทั่งช่วงฤดูแล้งหนักที่ผ่านมา หลังจากสิ้นสุดโครงการปรากฏว่าน้ำได้ลดระดับ จนทำให้เห็นสันดอนดินกลางน้ำ ที่ยังไม่ได้ขุดตามรูปแบบก่อสร้างจำนวนหลายจุดอย่างเห็นได้ชัด จนมีชาวบ้านเข้าร้องเรียนผ่านทาง ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง และเครือข่ายภาคประชาชน
นายชัยวุฒิ สวัสดิรักษ์ ประธานชมรมตรังต้านโกง กล่าวว่า ชาวบ้านได้ร้องเรียนเข้ามาว่า จากการเกิดช่วงภัยแล้งจัดที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา 4 เดือน ซึ่งแก้มลิงท่ามะปราง ที่ดำเนินการโดยสำนักงานชลประทานขนาดกลาง ที่ 16 แต่ดำเนินการไปแล้ว ปรากฏว่าสันดอน หรือเนินดินโผล่ขึ้นมาเป็นจำนวนมากบริเวณกลางอ่างเก็บน้ำ ทำให้ชาวบ้านร้องเรียนเข้ามาในลักษณะการทำงานหรือดำเนินโครงการไม่เรียบร้อย ทำให้ทางชมรมตรังต้านโกง ร่วมกับทาง สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำ จ.ตรัง ลงพื้นที่มาตรวจสอบ ปรากฏว่าพบสันดอนโผล่จริง
นายชัยวุฒิ กล่าวต่ออีกว่า โดยทางชลประทานขนาดกลาง ที่ 16 ได้ชี้แจงว่าโครงการดังกล่าวนี้ ได้รับงบประมาณจากกรมฯ มาดำเนินการเอง แต่ได้มีการเช่าเครื่องจักรกลบางส่วนมาจากเอกชนเพื่อดำเนินการ โดยโครงการได้ดำเนินมาตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา สำหรับประเด็นปัญหาสันดอนที่เกิดขึ้น เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นดินเลน ไม่สามารถนำเอารถแบคโฮลงไปขุดได้ ก็เลยต้องรอให้น้ำลดระดับลงเป็นจำนวนมาก จึงได้กลับมาดำเนินการต่อในช่วงนี้ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ได้ดำเนินการแก้ปัญหาส่วนนี้มาเป็นระยะเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว พร้อมทั้งชี้แจงว่าไม่ได้นิ่งนอนใจพยายามแก้ปัญหา หลังจากนี้ทางชมรมตรังต้านโกงจะเฝ้าเกาะติดโครงการดังกล่าวนี้ที่ใช้งบประมาณมาจากภาษีอากรประชาชนร่วม 400 ล้านบาทว่า จะสามารถแก้ปัญหาหรือให้ชาวบ้านใช้น้ำไปเพื่อการเกษตรได้มากน้อยเพียงใด
ทางด้าน นายสมพล ชุมแก้ว ผอ.สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลาง ที่ 16 กล่าวว่า ประเด็นที่มีสันดอนโผล่ เป็นจุดที่สุดวิสัยที่จะดำเนินการตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ในปัจจุบันนี้อยู่ในช่วงที่ประสานกับทางผู้รับจ้างเข้ามาดำเนินการให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยในขณะนี้ได้ดำเนินการใช้เครื่องจักรหนัก และโป๊ะ ที่จะสามารถลงไปทำงานในที่ลำบากซึ่งเป็นดินเลน ก็คาดว่าระยะเวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์นี้จะสามารถดำเนินการขุด ในส่วนบริเวณนี้ให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการ.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี