สุดเถื่อนสะเทือนใจ!!! โซเซียลแชร์ว่อนแก๊งการ์ดพัทยาซอย 6 รุมกระทืบเตะหน้าฝรั่งนักท่องเที่ยวสลบเหมือด อ้างปัญหาจากปมบิลเครื่องดื่ม ด้านจนท.ตามคุมตัวได้ยกแก๊ง หิ้วตัวมาดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด เโดนต่อยก่อนจนดั้งจมูกแตกเย็บ 6 เข็ม ไหว้สวยขอโทษสังคมทำเกินกว่าเหตุ

เมื่อเวลา 17.26 น.วันที่ 26 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสังคมโซเชียล  มีสมาชิกเฟสบุ๊ครายหนึ่ง โพสต์คลิปวีดีโอ 2 คลิป ความยาว 1.16 นาทีและ 1.04 นาที พร้อมระบุข้อความ ถามว่า ต้องทำขนาดนี้ไหม?...... #พัทยาซอย6 ขอบคุณ ผู้หญิงไทยที่พยายามช่วยกันห้ามพี่การ์ดคนเก่ง (เด่วพัทยาจะซวยทั้งระบบ) ซอฟต์พาวเวอร์ไหมล่ะ ไทยแลนด์ ปล.ยังไม่ทราบต้นเหตุที่แท้จริง ทำให้มีสมาชิกรายอื่นเข้ามาแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์กันต่างๆนานา ถึงความเหมาะสม ความรุนแรง ป่าเถื่อน สะเทือนใจ บางความคิดเห็นพูดถึงให้มองในมุมของต้นเหตุก่อนจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้น

โดยคลิปวีดีโอทั้ง 2 คลิปนั้น มีนักท่องเที่ยวสามารถบันทึกภาพไว้ได้ เป็นวินาทีที่การ์ด 3 คน กำลังไล่รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 2 คน อย่างโหดร้ายทารุณ รายแรกเป็นชาวต่างชาติสวมเสื้อสีขาว กลุ่มการ์ดได้ปรี่เข้าไปชกต่อย กระโดดถีบจนล้มลงไปกับพื้น หนึ่งในกลุ่มการ์ดยังตามเข้าไปเตะซ้ำ ก่อนที่นักท่องเที่ยวเสื้อสีเทาจะวิ่งเข้ามาช่วยแต่ก็ถูกกลุ่มการ์ดกระชากจนล้มแล้วรุมต่อยรุมเตะเข้าที่ใบหน้านับครั้งไม่ถ้วน จนชาวต่างชาติเสื้อเทาสลบเหมือดนอนแน่นิ่ง กลุ่มการ์ดจึงย้อน กลับมารุมกระทืบรายแรกเสื้อขาวซ้ำอย่างดุเดือด  ท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมไปถึงกลุ่มพนักงานบาร์ที่อยู่ในละแวกดังกล่าว ร้องห้ามปรามแต่กลุ่มการ์ดไม่หยุดความป่าเถื่อน

ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์คือน.ส.สมร (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี แคชเชียร์ร้านที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศ 3 คน เข้ามานั่งดื่มภายในร้าน โดยสองคนแรกจะจ่ายบิลต่อบิล ส่วนอีกหนึ่งคนยังไม่ได้จ่าย แล้วลุกเปลี่ยนที่นั่งหลายที่ ทั้งให้ดื่มเด็ก เล่นเกม ก่อนจะลุกเดินออกจากร้านไป ทางพนักงานจึงเรียกขอเก็บเงินจากกลุ่มเพื่อน ซึ่งนักท่องเที่ยวเสื้อขาว (ที่ปรากฏในคลิป) ได้มีการโต้เถียงกับพนักงานว่าตนเองนั้นจ่ายบิลแล้ว ตนเองจึงอธิบายว่าเป็นของเพื่อนในกลุ่มอีกหนึ่งคน ที่ยังไม่จ่าย ส่วนของพวกคุณนั้นไม่มีปัญหาอะไร

แต่กลับถูกนักท่องเที่ยวต่อว่า ด้วยคำหยาบคายต่างๆนานา และอ้างว่าทางร้านโกงบิล ยืนยันจะไม่ยอมจ่ายเงิน ก่อนจะพาลไปทำร้ายนักท่องเที่ยว ที่เป็นลูกค้ารายอื่น ทั้งยังยึดโทรศัพท์ของลูกค้าเพราะคิดว่าจะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางร้านจึงโทรแจ้งให้การ์ด ว่าลูกค้าไม่ยอมจ่ายบิลให้มาช่วยดูหน่อย จนกระทั่งการ์ดมาถึง หนึ่งในกลุ่มนักท่องเที่ยวนี้ก็ยอมจ่ายเงินให้กับทางร้านเป็นเงิน 2,800 บาท

หลังจากนักท่องเที่ยวชำระบิลเสร็จตนเองก็ให้แยกย้ายกันไป แต่นักท่องเที่ยวเสื้อขาวกลับปรี่เข้าผลักอกการ์ด ก่อนจะเกิดเหตุชุลมุนกันกลางถนนตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ ซึ่งหากการ์ดมาระงับเหตุไม่ทัน ชาวต่างชาติกลุ่มนี้อาจจะทำร้ายตนเองและและนักท่องเที่ยวที่เป็นลูกค้ารายอื่นก็เป็นได้

ต่อมาเวลา 23.36 น. พ.ต.อ.นาวิน ธีรวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ศิรชัช หนูเทศ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองพัทยา พ.ต.ท.ชัยนรงค์ จิตตสุนทร สว.สส.สภ.เมืองพัทยาพ.ต.ต.อภิชาติ จารุรักษ์ สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ. เมืองพัทยาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนท่องเที่ยวเมืองพัทยา ไปควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสามรายคือนายบอล อายุ 27 ปี นายต้อม อายุ 36 ปี นายไอซ์ 24 ปี มาสอบสวนดำเนินคดียังสภ. เมืองพัทยา

โดยทั้ง ผู้ก่อเหตุทั้งสามรายให้การรับสารภาพ ว่าเป็นผู้ก่อเหตุตามที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้จริง โดยนายบอล เปิดเผยเหตุการณ์ว่า ตนเองเป็นคนแรกที่ถูกนักท่องเที่ยวผลัก และต่อยจนได้รับบาดเจ็บบริเวณดั้งจมูกเย็บถึงหกเข็ม ก่อนจะเกิดชุลมุนกันอย่างที่่เห็นในคลิป ซึ่งพวกตนยอมรับว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุจริง ที่ทำลงไปเพราะบันดาลโทสะขาดความคิด พร้อมทั้งขอโทษสังคมกับสิ่งที่พวกตนกระทำลงไป

ด้านพ.ต.อ.นาวิน ธีรวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้อบรมกลุ่มผู้ก่อเหตุ เนื่องด้วยอาชีพการ์ดนั้น ต้องทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว มิใช่มาก่อเหตุเสียเอง ซึ่งการกระทำ ที่เกิดขึ้นนั้นถือเป็นการทำลายภาพลักษณ์เมืองเมืองท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ในสิ่งที่การ์ด สมควรทำนั้นคือการระงับยับยั้ง แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมสถานการณ์ ซึ่งเมื่อทำผิดแล้วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องดำเนินคดี ตามกระบวนการทางกฎหมาย พร้อมทั้งฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ ให้กับผู้ประกอบอาชีพการ์ด ว่าในขณะการปฎิบัติหน้าที่ อย่าใช้อารมณ์เป็นใหญ่ ควรที่จะป้องกันเหตุ ไม่มีหน้าที่ที่จะไปทำร้ายใคร

เบื้องต้นพ.ต.อ.นาวิน ธีรวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้สั่งการให้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุทั้งสามราย ซึ่งยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายขั้นเด็ดขาดต่อไป

ขณะที่กล้องวงจรปิดซึ่งสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ จากที่กลุ่มนักท่องเที่ยวกำลังโวยวายใส่พนักงานแคชเชียร์ กระทั่งกลุ่มการ์ดเข้าไประงับเหตุ จนเกิดกระทบกระทั่งบานปลาย จนเป็นเหตุความรุนแรงดังกล่าว ซึ่งได้มอบให้พนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี