งจรปิดมัดรวบหญิงสาวขโมยเงินยาย 80 ปีตาพร่ามัว ย่ามใจย่องก่อเหตุ 2 ครั้ง ปากแข็งอ้างในกล้องไม่ใช่ตน
วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 พ.ต.อ.คณพศ พนมชัย ผกก.สภ.หลักศิลา อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มอบหมายให้ พ.ต.ท.สุรศักดิ์ พวงเพชร สารวัตรสืบสวน สภ. หลักศิลา นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ประสานงานร่วมกับนายวิชัย รอดคลองตัน อายุ 66 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมันหย่อน หมู่ 3 ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามจับกุมคนร้ายกรณีมีญาติผู้เสียหายร้องทุกข์ พร้อมนำหลักฐานคลิปกล้องวงจรปิด ขอความช่วยเหลือผ่านสื่อโซเชียล เนื่องจากมีคนร้ายเป็นหญิงสาว ย่องเข้าไปในบ้านเลขที่ 31 หมู่ 3 บ้านมันหย่อน ต.แสนพัน อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อขโมยกระเป๋าเงินคุณยายทอง สีดา อายุ 80 ปี ซึ่งเป็นผู้พิการทางสายตา
โดยตรวจสอบพฤติกรรมแล้วมีการก่อเหตุถึงสองครั้ง ครั้งแรกประมาณวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา ฉกกระเป๋าเงินมีเงินสด 2,000 บาท รวมถึงโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แต่ไม่มีหลักฐานเอาผิด ส่วนครั้งที่สองคนร้ายย่ามใจ ก่อเหตุเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2567 ครั้งนี้มีภาพหลักฐานมัดตัว เพราะหลานชายผู้เสียหาย นำกล้องมาติดตั้งหวังเก็บหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีกับคนก่อเหตุ เป็นหญิงร่างท้วมสวมชุดเสื้อยืดสีชมพู กางเกงขาสั้น ตรวจสอบเป็นหญิงเพื่อนบ้าน เข้าไปขโมยเงินสดไป 60 บาท
ต่อมา พ.ต.ท.สุรศักดิ์ พวงเพชร สารวัตรสืบสวน สภ.หลักศิลา นำชุดสืบสวน พร้อมหลักฐานคลิปวงจรปิดตรวจสอบ พบหลักฐานรูปพรรณตรงกับเพื่อนบ้าน ที่มีบ้านพักติดกัน คือ นางสาวจริยา อายุ 36 ปี จึงขอตรวจค้นบ้านพักผู้ต้องสงสัยพบหลักฐานชุดเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ แต่ไม่พบของกลางที่สูญหาย คือกระเป๋าเงินของผู้เสียหาย ซึ่งในส่วนผู้ต้องสงสัยที่พบหลักฐานในการก่อเหตุได้ปฏิเสธกับเจ้าหน้าที่อ้างว่าในคลิปวงจรปิดไม่ใช่ตน พร้อมแสดงอาการไม่พอใจกับทางตำรวจ อย่างไรก็ตามตำรวจมีหลักฐานชัดเจน จึงได้ตรวจสอบเก็บหลักฐาน คุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.หลักศิลา
สอบถามเพื่อนบ้าน ระบุว่าปกติยายทอง วัย 80 ปี อาศัยอยู่กับหลานชาย เนื่องจากลูกไปทำงานต่างจังหวัด ส่วนสามีเสียชีวิตนานแล้ว โดยยายทองเป็นโรคชรา จึงมีสายตาพร่ามัว แต่ลูกทำงานอยู่ กทม.จะฝากเงินไว้ให้ใช้จ่ายและดูแลหลาน โดยมีเพื่อนบ้านคอยช่วยเหลือดูแลตามประสาชาวบ้าน กระทั่งเพื่อนบ้านมีพฤติกรรมฉวยโอกาสขโมยเงิน เนื่องจากช่วงกลางวันส่วนใหญ่ผู้เสียหายจะอยู่คนเดียว กลายเป็นโอกาสดีของผู้ก่อเหตุ
โดยก่อนหน้านี้มีการก่อเหตุครั้งแรก แต่ไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ หลานชายจึงนำกล้องวงจรปิดมาติดตั้งบันทึกเป็นหลักฐาน ทำให้ผู้ก่อเหตุย่ามใจย่องมาก่อเหตุซ้ำและมีหลักฐานมัดตัวชัด เมื่อสอบถามยายทองผู้เสียหาย ยืนยันว่าต้องการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด กลัวเป็นภัยสังคม เชื่อว่าตกงานไม่มีรายได้ เห็นยาย ผู้เสียหายอยู่คนเดียว จึงก่อเหตุนำเงินไปใช้จ่าย กินเที่ยว เพราะไม่มีงานเป็นหลักแหล่ง
ด้าน พ.ต.อ.คณพศ พนมชัย ผกก.สภ.หลักศิลา เปิดเผยว่า ถึงแม้ผู้ต้องหาจะให้การปฏิเสธ สุดท้ายจนมุมด้วยหลักฐานคลิปวงจรปิด รวมถึงเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ เบื้องต้นแจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานเวลากลางวัน นำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป มั่นใจมีหลักฐานเอาผิดเพียงพอ ส่วนการตรวจหาสารเสพติดไม่พบ - 003
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี