เตือนพายุ‘มาลิกซี’

ทั่วไทยฝนถล่มหนัก56จว.

กทม.ปริมณฑลจัดเต็ม80%

กรมอุตุฯเตือน ทั่วไทย เจออิทธิพล “พายุดีเปรสชั่น” ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นโซนร้อน“มาลิกซี”ในทะเลจีนใต้ทำให้ไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้นถล่มหนัก 56 จังหวัด ‘กทม.-ปริมณฑล’80% ภาคกลาง 70% ภาคใต้ 70% อีสาน 60% ปชช.ระวังฝนตกสะลม เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก คลื่นสูงกว่า 2 เมตร โดยออกประกาศฉบับที่ 2 เตือนพายุดีเปรสชันมีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าว่า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณอ่าวตังเกี๋ยและพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออกและภาคใต้ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย

ทั้งนี้ หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะมีแนวโน้มเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ช่วงวันนี้ (31 พฤษภาคม)- 1 มิถุนายน จากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ส่วนพายุโซนร้อน“เอวิเนียร์”บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่นอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว

สุดสัปดาห์ทั่วไทยฝนถล่ม60-80%

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย วันที่ 1 มิถุนายน ภาคเหนือมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 บริเวณจ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก พิจิตร กำแพงเพชร สุโขทัย พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีษะเกษ และอุบลราชธานี ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 มีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม ราชบุรี สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม ส่วนกรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 มีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 มีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ทะเลมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

อีก10วันฝนตกเย็นถึงค่ำถล่มทุกภาค

นอกจากนี้ กรมอุตุนิยมวิทยายังพยากรณ์10 วันล่วงหน้า ระหว่างวันนี้ (31 พฤษภาคม)-9 มิถุนายนเริ่มมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นบริเวณประเทศไทยตอนบน เนื่องมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางถึงค่อนข้างแรง พัดปกคลุม เข้าสู่พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน (ตะวันออกของเกาะไหหลำ) โดยฝนยังตกช่วงเย็นถึงค่ำ มีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก กทม.และปริมณฑล ต้องเฝ้าระวังฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักโดยเฉพาะด้านรับมรสุม

อุตุฯเตือนฉบับ2โซนร้อน“มาลิกซี”

วันเดียวกัน กรมอุตุนิยมวิทยายังออกประกาศ เรื่อง พายุ “มาลิกซี” ฉบับที่ 2 (109/2567) ว่า เมื่อเวลา 13.00 น. พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “มาลิกซี” แล้ว และเมื่อเวลา 16.00 น. มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองหยางเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ประมาณ 120 กิโลเมตร ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีนในคืนนี้ (31 พฤษภาคม) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับในระยะต่อไป ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางในระยะนี้ไว้ด้วย

จันท์อ่วมน้ำป่าท่วม200หลังคาเรือน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.จันทบุรีหลังเกิดฝนตกหนักตลอดทั้งคืน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนสร้างความเดือดร้อนเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชนวัดทองทั่ว และชุมชนบ้านคลองเตย ตำบลคลองนารายณ์ อ.เมือง จ.จันทบุรี ซึ่งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าสำรวจผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากพบมีบ้านเรือนประชาชน ได้รับความเดือดร้อนเกือบ 200 หลังคาเรือน ประกอบด้วยบ้านเรือน หมู่ 3/หมู่ 4/หมู่ 5/หมู่ 6/หมู่ 11/หมู่ 12 และหมู่ 14 จึงวอนหน่วยงานราชการเร่งเข้าช่วยเหลือเป็นการด่วน