หิ้วปีก‘แป้ง.นาโหนด’กลับไทย4มิ.ย.
ขังคุกความมันคงสูง
ขึ้นเครื่องทอ.บินตรง
ตร.เร่งขยายผลทางคดี
หลัง‘ทวี’บินเค้นสอบ
“ทวี” เผยเข้าพบทูตฯ ประสานงานกับทางการอินโดนีเซีย รับ “แป้งนาโหนด” ส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน กลับมาดำเนินคดีที่ไทย ใช้เครื่องบินทัพฟ้าบินตรงถึงเมืองคอน มีตำรวจดูแล ก่อนส่งไปยังคุกความมั่นคงสูง
เมื่อวันที่ 2มิถุนายนที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทย กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข รักษาราชการแทน รองผบ.ตร. พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และคณะ เข้าหารือกับ นายประพันธ์ ดิษยทัต เอกอัครราชทูตไทยประจำอินโดนีเซียเตรียมการรับตัวนายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ ‘แป้ง นาโหนด’ ผู้ต้องหาที่หลบหนีการควบคุมตัวของเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ออกไปจากโรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2566 ซึ่งทางการอินโดนีเซีย จับกุมตัวไว้ได้ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศไทย
พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงขั้นตอนการส่งตัวนายเชาวลิต ว่าคดีนี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ให้กองทัพอากาศ(ทอ.) อำนวยความสะดวกในการส่งตัว เพราะถ้าไปเครื่องบินพาณิชย์จะมีเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ เพราะชื่อเสียงของนายเชาวลิต จะเป็นที่กังวลของผู้โดยสารได้ การใช้เครื่องบินจากกองทัพอากาศ ทำให้ประสิทธิภาพสมบูรณ์มากกว่า และเนื่องจากไทยมีกฏหมาย พ.ร.บ.ป้องกันการทรมานและบังคับบุคลสูญหาย ต้องมีการตั้งกล้องวิดีโอ ถ้าอยู่บนเครื่องบินพาณิชย์ อาจจะดำเนินการได้ไม่สะดวกในวันส่งตัวนายเชาวลิต จะมีทั้งตำรวจไทยและอินโดนีเซียคุมตัว เชื่อว่าการเดินทางจะไม่มีเหตุการณ์ซับซ้อน ถ้ามีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้นก็จะสามารถป้องกันได้ และสุขภาพของนายเชาวลิตไม่ได้มีปัญหา มีร่างกายแข็งแรงดี สามารถเดินทางได้ และยืนยันตัวตนว่าเป็นนายเชาวลิตจริง
“เมื่อกฎหมายใช้บังคับแล้ว ผมเป็นประธานคณะกรรมการอุ้มหายฯ ต้องทำให้ถูกระเบียบ จึงต้องทำให้เกิดความสะดวก ในเรื่องความยุติธรรม ผมไม่ได้มองที่ความสิ้นเปลือง ความยุติธรรมไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ถ้าสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ ไม่มีอะไรที่จะสิ้นเปลือง”พ.ต.อ.ทวี กล่าว
รมว.ยุติธรรม กล่าวอีกว่า ในการส่งตัวนายเชาวลิต จากกรุงจาการ์ต้าประเทศอินโดนีเซีย ไปยัง จ.นครศรีธรรมราช เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พิจารณาแล้วเห็นว่าในทางปฏิบัติจะต้องมีการฝากขังในคดีที่นายเชาวลิต หลบหนีจากเรือนจำนครศรีธรรมราช จากการประสานทางศาลทราบว่าในอดีตฝากขังออนไลน์ได้ แต่ จ.นครศรีธรรมราช ไม่มีการฝากขังทางออนไลน์ จึงต้องคุมตัวนายเชาวลิตไปที่ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจะฝากขังทางวิดีโอคอลได้
“การเดินทางจากอินโดนีเซีย จึงต้องนำตัวไปที่ จ.นครศรีธรรมราช เพื่อความสะดวก จะไม่ไปกรุงเทพฯแล้ว พอถึงนครศรีธรรมราช ฝากขังครั้งแรกเสร็จก็สามารถคุมตัวมากรุงเทพฯ ได้ แต่ครั้งแรกต้องไปปรากฏตัวต่อหน้าศาล โดยจะอยู่ที่จ.นครศรีธรรมราช 1 วัน จากนั้นจะไปฝากขังต่อศาลและในวันที่ 6 มิถุนายนนี้ นายสหการณ์เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กำลังพิจารณาว่าจะนำไปฝากขังที่ใด ซึ่งต้องเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง เพราะอดีตเป็นบทเรียน เพราะเหตุการณ์ความผิดพลาดประชาชนขาดความเชื่อมั่น ถ้าเกิดเหตุอีกประชาชนจะตำหนิ เพราะการจับกุมตัวนายเชาวลิตมีความยากลำบากมาก ทำให้เราต้องใช้ความระมัดระวัง”พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พนักงานสอบสวน จ.นครศรีธรรมราช จะสอบสวนคดีหลักคือคดีหลบหนีเรือนจำและคดีข่มขู่ฯ โดยพนักงานสอบสวนที่ จ.พัทลุง จะมารอสอบปากคำและอายัดตัว พร้อมกับยื่นคำร้องขออำนาจศาลฝากขังที่ จ.นครศรีธรรมราช แต่เพื่อความปลอดภัย อธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะพิจารณาว่าไปคุมขังที่ไหน เช่นที่กรุงเทพฯ หรือเรือนจำความมั่นคงสูง แต่ต้องคำนึงถึง 2 ด้าน เพราะครอบครัวนายชวลิต ห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่ยืนยันว่ากรณีนายเชาวลิต จะไม่นำตัวเข้าเรือนจำนครศรีธรรมราช แต่จะอยู่ในการดูแลของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งแผนในการดูแลความสงบเรียบร้อย ทางรักษาการแทน ผบ.ตร.และกรมราชทัณฑ์ ต้องดูแลและมีมาตรการความปลอดภัย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาพ.ต.อ.ทวี ได้พบกับคณะผู้ประสานงานในการจับกุมนายเชาวลิต ที่มีอดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซียและชุดปฏิบัติการ Pakanด้วย และวันเดียวกันนี้รมว.ยุติธรรม จะพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดและการฉ้อโกงข้ามชาติโดยเฉพาะจะมีข้อมูลจากหน่วยปราบปรามยาเสพติดมาเลเซีย หน่วยงานปราบปรามยาเสพติดอินโดนีเซีย ที่จะเข้าร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนกับ ป.ป.ส.ประเทศไทย ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียที่แสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะหัวหน้าทีมสืบสวนอินเตอร์โพลอินโดนีเซีย ซึ่งรับภารกิจค้นหานายเชาวลิตจนพบตัวและสามารถจับกุมตัวไว้ได้
“ส่วนนายเชาวลิต ขณะนี้อยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจปราบปรามยาเสพติดอินโดนีเซียในกรุงจาการ์ตา ซึ่งพล.ต.ท.ประจวบ จะเป็นหัวหน้าคณะในการรับตัวนายเชาวลิต หลังจากขั้นตอนการประสานงานระหว่างประเทศเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะส่งตัวนายเชาวลิตกลับประเทศไทยได้ในวันที่ 4 มิถุนายนนี้ โดยได้รับการสนับสนุนเครื่องบินจากกองทัพอากาศ ในการรับตัวนายเชาวลิต ทำให้มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงการขยายผลเครือข่ายผู้เกี่ยวข้องในการช่วยเหลือนายเชาวลิต หลบหนี ว่ามีข้อมูลในระดับหนึ่ง แต่เป็นชั้นความลับ เพราะคณะทำงานเรื่องนี้จะต้องใช้ข้อมูลเพื่อประเมินทิศทางของขบวนการค้ายาเสพติดที่ลักลอบเข้ามาในประเทศไทยและอาเซียน ซึ่งมีการเชื่อมโยงไปหลายแห่ง หากสนใจให้ไปอ่านคำพิพากษาคดีของนายเชาวลิต ในคดีปล้น จะมีคำพิพากษาที่โยงใยขบวนการดังกล่าว และเป็นส่วนหนึ่งที่นายเชาวลิตได้ร้องขอความเป็นธรรม
ขณะที่การสืบสวนขยายผลขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติการ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะธนาคารหรือสถาบันการเงิน เกี่ยวกับเรื่องเส้นทางการเงิน เพื่อสกัดนักค้ายาเสพติดรายสำคัญที่มักใช้บุคคลอื่นให้ถูกจับแทนตัวการใหญ่ของขบวนการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี