ใช้เครื่องบินอินโดฯ
ส่ง‘แป้ง’กลับเข้าคุกเมืองคอน
ตร.300นายตรึงกำลังเข้ม4มิ.ย.
ทัพฟ้า ล้มแผนใช้แอร์บัส ไปรับ“แป้ง นาโหนด” จากอินโดนีเซียหลังโดนวิจารณ์จนหูชา โดยล่าสุดทางอินโดนีเซียจะจัดเครื่องบินส่งตัวมาลงที่สนามบินเมืองคอน 4 มิถุนายน มีตำรวจ 300 นายรอรับนำเข้าคุมขัง ก่อนส่งไปเรือนจำความมั่นคงสูง ด้าน “ทวีสอดส่อง” เผย ป.ป.ส.ช่วย6 แสน เติมน้ำมันเครื่องบิน
วันที่ 3 มิถุนายน 2567 พล.อ.ต.บุญเลิศ อันดารา โฆษกกองทัพอากาศเปิดเผยว่า กองทัพอากาศ ได้สนับสนุนอากาศยาน ในภารกิจรับ นาย ชวลิต ทองด้วง หรือ แป้งนาโหนด ผู้ต้องหา ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กระทรวงยุติธรรมได้ ขอรับการสนับสนุน ซึ่งกองทัพอากาศได้พิจารณาแล้วว่าอากาศยานที่มีความเหมาะสมในภารกิจครั้งนี้ คือ c-130
ทั้งนี้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดเตรียมแผนไว้ 2 แผนคือ ในวันที่ 4 มิ.ย.67 เครื่องบิน c-130 จะออกเดินทางจาก ท่าอากาศยานทหาร 2 ดอนเมือง ในช่วงเช้า ไปยังฐานทัพอากาศฮาลิม สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
จากนั้นทำภารกิจภาคพื้นประมาณประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนเดินทางออกจากฐานทัพอากาศฮาลิม ตรงไปยังสนามบินนานาชาตินครศรีธรรมราช ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมง เมื่อมาถึง สนามบินนานาชาติ นครศรีธรรมราชจะใช้เวลาดำเนินการในกระบวนการประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นจะบินกลับมาที่กรุงเทพฯทันที รวมระยะเวลาตั้งแต่ที่ประเทศอินโดนีเซีย มาถึง สนามบินนานาชาตินครศรีธรรมราช ประมาณ 13 ชั่วโมง
ทั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ของไทย ร่วมคณะเดินทาง ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากสถาบันเวชศาสตร์การบิน ฝ่ายเสนาธิการ และตำรวจคอมมานโด รวมไปถึงชุดตรวจการพิเศษ ‘หนุมาน’ ตำรวจสอบสวนกลาง รวมผู้ปฏิบัติการเคลื่อนย้ายผู้ต้องหาในครั้งนี้กว่า 40 คน
พล.อ.ต.บุญเลิศ กล่าวอีกว่า กรณีที่มีข่าวเผยแพร่ออกไปว่าจะใช้ แอร์บัส 320 ของกองทัพอากาศนั้น เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการพิจารณาแล้ว ทั้งในเรื่องของความสะดวกสบายของเจ้าหน้าที่ และค่าใช้จ่าย โดยพิจารณาแล้วว่าเครื่องบิน c-130 มีความเหมาะสมกว่า ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย การดำเนินการ ความรอบคอบรัดกุม รวมถึงมีสภาพดีกว่า จึงได้เลือกใช้ แอร์บัส 320
สำหรับแผนที่ 2 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยได้ประสานไปยังเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศอินโดนีเซีย ให้เจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจอินโดนีเซีย เป็นผู้ควบคุมตัวนายชวลิต มาส่งให้กับเจ้าเจ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยที่สนามบินนานาชาตินครศรีธรรมราช ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงาน ของผู้ที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของกองทัพอากาศนั้น ได้มีความพร้อมและสามารถ ปฏิบัติงานได้ทันทีเมื่อได้รับคำสั่ง
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่าความจริงสามารถรับตัวเสี่ยแป้งได้ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน ที่ผ่านมาแล้ว แต่บังเอิญขาดเรื่องเอกสาร ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นความเข้มแข็งขององค์การตำรวจอาชญากรรมระหว่างประเทศ หรือ (อินเตอร์โปล)
ดังนั้น โดยหลักการเมื่อตำรวจสอบสวนเสร็จ และแจ้งข้อหาแล้วจะต้องนำไปขัง ณ ศาล ที่เกิดเหตุ เพราะขณะนี้สำนวนยังไม่ได้โอนมา และหลังจากนั้นจะเป็นเรื่องของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ จะพิจารณาว่าจะนำตัวนายชวลิตควบคุมตัวไว้ ณ ที่ใด
เมื่อถามว่าเป็นห่วงหรือไม่หากนายชวลิตกลับไปจ.นครศรีธรรมราชแล้วจะเกิดปัญหาอะไรตามมาหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ได้ให้เจ้าหน้าที่ประเมินดู ทุกอย่างไม่น่ามีปัญหา
เมื่อถามต่อว่ามีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ ที่จะนำตัวนายชวลิตมาดำเนินคดีในกรุงเทพมหานครโดยไม่ไปที่จ. นครศรีธรรมราชตามที่นายชวลิตขอร้อง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ต้องรอทำตามขั้นตอนก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อถามอีกว่าประเด็นที่จะนำตัวมา ส่วนกลางที่กรุงเทพฯมีความเป็นไปได้มากกว่าใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เดิมเป็นความคิดของอธิบดีกรมราชทัณฑ์ที่อยากนำตัวมาไว้ที่กรุงเทพฯ แต่ ตนก็บอกว่าต้องประชุมกันให้ดี ทั้งนี้ตนอยากจะบอกว่าการนำตัวนายชวลิตกลับมาประเทศไทยมีบางกระแสที่บอกว่ามีการใช้งบประมาณที่ฟุ่มเฟือย ซึ่งตนขอชี้แจงว่าทางเรามีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เพราะถ้ามาเครื่องบินพาณิชย์ ในเงื่อนไขเดิมจะแพงกว่าการที่มากับเครื่องบินของกองทัพอากาศ เพราะคณะของอินโดนีเซียที่มาส่งก็หลายคน
เมื่อถามย้ำว่าสามารถเปิดเผยตัวเลขค่าใช้จ่ายในครั้งนี้ว่ามีเท่าไหร่ได้หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่าเท่าที่ปปส. ประมาณ 600,000 บาท ทั้งค่าน้ำมันและค่าจอดเครื่องบิน อย่างไรก็ตามย้ำว่าเราพิจารณาแนวทางที่ดีที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องปฏิบัติตามกฏหมายโดยนำตัวผู้กระทำความผิดมาฟ้องร้อง และนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ ซึ่งเรื่องนี้ความจริงไม่ใช่เรื่องที่จะต้องน่าดีใจ มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิด แต่เมื่อมันเกิดแล้วเราก็ต้องไปตรวจสอบ ว่ามันเป็นอย่างไร หนีไปอย่างไร หรือมีความเกี่ยวข้องกับใคร มีผู้บงการ ผู้ใช้ หรือผู้ช่วยเหลืออย่างไร และกรณีที่นายชวลิตออกมา ร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากสื่อ แม้ว่าจะไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ แต่บุคคลที่เขาอ้างอิงถ้าเราไปสอบสวนแล้วมีมีความผิด ก็จะเป็นหลักฐานใหม่ ฉะนั้นก็ขอให้ทำหน้าที่ตรงนี้ก็แล้วกัน
วันเดียวกัน ที่ห้องประชุม ศปก.ชั้น 2 สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมนายตำรวจและตำรวจชุดต่างๆทั้งชุดตำรวจชุดสอบสวน ชุดสืบสวน และสายตรวจและตำรวจจราจร มาประชุม เพื่อวางแผนเตรียมความพร้อมในการรับนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ ”แป้ง นาโหนด” ซึ่งมีกำหนดถูกนำตัวโดยเครื่องบินแอร์บัสของกองทัพอากาศจากประเทศอินโดนีเซียบินมาลงที่สนามบินนานาชาตินครศรีธรรมราชในวันที่ 4 มิถุนายน
มีรายงานข่าวว่า ในที่ประชุมได้มีการประชุมวางแผนแบ่งหน้าที่กัน ตั้งแต่รับตัวนายเชาวลิตหรือแป้งนาโหนด ขณะลงจากเครื่อง แล้วนำขึ้นรถตู้แล้วนำมายังห้องสอบสวนสภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการในขั้นตอนการสอบสวนฝากขังต่อไป
พ.ต.อ.กิตติชัย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว โดยเตรียมกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบพร้อมอาวุธปืนครบมือจำนวนกว่า 100 นายไว้พร้อมแล้ว รวมอุปกรณ์พันธนาการต่างๆกุญแจมือและเอกสารหมายจับ เพื่อความเรียบร้อย คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหาอะไร
ส่วนกำหนดเวลาที่เดินทางมาถึงสนามบินจ.นครศรีธรรมราชยังไม่ชัดเจนว่ามาถึงตอนไหน แต่เราได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้วไม่ต้องห่วง และจะเร่งรีบดำเนินการฝากขังให้เสร็จโดยเร็วหลังจากนั้นก็จะเป็นหน้าที่ของกรมราชทัณฑ์ที่จะพาตัวนายเชาวลิตหรือแป้งนาโหนดไปขังไว้ที่ไหนต่อไปก็เป็นเรื่องของกรมราชทัณฑ์
ในส่วนห้องขังสภ.เมืองนครศรีธรรมราช ก็ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบเร่งรีบทำความสะอาดห้องขังแล้ว และตนจะกำหนดให้ขังเดี่ยวนายเชาวลิตหรือแป้ง โดยจะไม่ให้ปะปนกับผู้ต้องหาขังคนอื่นๆ และขณะนายเชาวลิตถูกขังในห้องขังก็จะเตรียมกำลังตำรวจ 5 นาย เฝ้าตลอด 24 ชม. และในห้องขังก็จะมีวงจรปิดไม่น้อยกว่า10 ตัว เพื่อติดตั้งจับตาดูความเคลื่อนไหนนายเชาวลิตหรือแป้งตลอดเวลาในห้องขังด้วย รวมทั้งคุมเข้มเรื่องอาหารการกินที่จะเอาไปให้นายเชาวลิตกินนั้น ตนก็จะจัดกำลังตำรวจของตนเท่านั้นเข้าไปให้อาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะคนนอกหรือญาติห้ามเข้ามาให้อาหารแป้งโดยเด็ดขาด จนกว่าการดำเนินการของตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราชเสร็จสิ้นและฝากขังยังศาลนครศรีธรรมราช
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้สั่งเตรียมพร้อมกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ ”ราชเดช” ของตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราชมาเสริมกำลังคุ้มกันนายเชาวลิตอีก 1 ชุดด้วย เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ พร้อมทั้งสำรวจเส้นทางจากสนามบิน มายัง สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งตั้งอยู่บนถนนราชดำเนิน และเส้นทางไปยังศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชอยู่บนเส้นทางถนนราชดำเนินด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามการเตรียมความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการนำตัวนายเชาวลิต ทองด้วง หรือแป้ง นาโหนด ในครั้งนี้ นับเป็นผู้ต้องหารายหนึ่งที่ทางจังหวัดนครศรีธรรมราชให้ความสำคัญ ถึงต้องมีการอารักขาอย่างเข้มข้นซึ่งไม่เคยมีมาก่อน หากนับรวมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งในและนอกเครื่องแบบทั้งจากส่วนกลางที่เดินทางมาล่วงหน้าและในจังหวัดนครศรีธรรมราช ตลอดจนตำรวจภูธรจากภาค 8 น่าจะประมาณไม่ต่ำจาก 300 นาย ซึ่งในวันพรุ่งนี้จะทำให้จังหวัดนครศรีธรรมราชคึกคักขึ้นเป็นพิเศษ และอาจจะทำให้สถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชคับแคบในเวลาอันรวดเร็ว
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์คดีการจับกุม นายเชาวลิต ทองด้วง ที่อินโดนีเซียว่า ทุกอย่างดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ตามสิทธิที่เขาพึงจะได้รับ เพราะผู้ต้องหาก็ไม่ได้มีการต่อสู้ เข้าใจว่าเขายอมกลับมา ทั้งนี้ทางการอินโดนีเซียก็ให้ความร่วมมือกับทางการไทยดีมาก
พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เผบงาสได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงคดี”แป้ง นาโหนด”แล้วยังไม่ถือว่าเป็นคดีพิเศษ ตำรวจยังเป็นผู้รับผิดชอบในคดีเหมือนเดิม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี