ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชินกฤช อุตะปะละ หัวหน้ากองบริหาร ฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเปิดเผยว่า “จากข้อมูลขณะนี้พบว่ามีการขโมยชิ้นส่วนเสาโครงเหล็กสายส่งไฟฟ้าแรงสูง จำนวนมากขึ้นทั้งนอต เหล็กฉากประกอบเสา และแผ่นเหล็ก เพื่อนำไปขาย โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดกระบี่ สงขลา และสุราษฎร์ธานี ซึ่งทาง กฟผ. หวั่นว่าการกระทำดังกล่าวอาจจะส่งผลกระทบกับเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง ทำให้เสาโค่นล้ม ส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับเป็นวงกว้างหลายจังหวัด กระทบกับการใช้ไฟของพี่น้องประชาชน สถานประกอบการ โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ โรงพยาบาลที่กำลังรักษาผู้ป่วยวิกฤต จึงอยากจะวอนถึงผู้ที่ขโมย การกระทำแบบนี้สร้างความเสียหายอย่างมหาศาล ซึ่งที่ผ่านมาทาง กฟผ. ได้ลงพื้นที่ไปทำความเข้าใจและขอความร่วมมือร้านค้ารับซื้อของเก่าว่า หากพบกลุ่มคนที่นำนอตเสาไฟฟ้ามาขายโปรดอย่ารับซื้อเด็ดขาด เพราะผิดกฎหมาย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที”
ซึ่งจากข้อมูลตั้งแต่ต้นปี 2567 ของ กฟผ. ภาคใต้ พบว่า แนวสาย 230 kV กระบี่ - พังงา ตรวจพบเหล็กสูญหาย พื้นที่ ต.เขาทองต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ จำนวน 7 ต้นและ ต.คลองหิน ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ จำนวน 11 ต้น รวมทั้งหมด 18 ต้น จำนวน 449 ชิ้น มีน้ำหนักรวม 3,300 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังพบในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวน 16 ต้นน้ำหนักเหล็กที่ถูกโจรกรรม 7,100 กิโลกรัม, อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เสาส่งถูกโจรกรรมชิ้นส่วนเหล็กรวมจำนวน 8 ต้นน้ำหนักเหล็กที่ถูกโจรกรรม 3,100 กิโลกรัม รวมทุกพื้นที่ประมาณ 13,500 กิโลกรัม มูลค่าความเสียหายประมาณ 398,000 บาท และยังมีค่าใช้จ่ายแฝงในการดำเนินการซ่อม เช่น ค่าสั่งซื้อเหล็กใหม่ ซึ่งราคาเหล็กสั่งทำจะราคาสูงกว่าท้องตลาด/ค่าดำเนินการซ่อม/ค่าอื่นๆ รวมเป็นเงินประมาณ 700,000 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี