'บอส' ชาติชาย กลิ่นหอม หนุ่มวัย 31 ปี จบ ปวส.ไฟฟ้า ฝ่าฟันนับ 10 อาชีพ ก่อนจะสานฝันนั่งแท่น CEO แฟรนไชส์ “คิง ออคโตปุส” จากร้านรถเข็นเล็กๆในตลาดนัดจตุจักร สู่ราชาปลาหมึก ที่เปิดให้บริการรวม 70 สาขาทั่วไทย โดยเฉพาะตามงานวัด งานประจำปีต่างๆ ด้วยรสชาติของปลาหมึก และ น้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเด็ด ทำกำไรสูงสุดได้วันละ 1 ล้าน

17 มิถุนายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าร้านราชาปลาหมึก คิง ออคโตปุส (King Octopus)  เป็นร้านเจ้าดังที่บรรดานักอินฟู และ นักรีวิวต่างๆ ทั่วไทย ต่างให้ความสนใจเข้าไปรีวิวกันจำนวนมาก และ สร้างความฮือฮาในการทำยอดขายได้วันละ 1 ล้านบาท จากงานประจำปีองค์พระปฐมเจดีย์ และ งานประจำปีวัดไร่ขิง จ.นครปฐม

ด้วยความสดของปลาหมึกมีความกรอบเด้ง เนื้อไม้เหนียว ที่ผ่านกระบวนกรรมวิธีของทางร้านในการหมักซอส และ ทอด ควบคู่ไปกับน้ำจิ้มซีฟู๊ดรสเด็ด ทำให้มีลูกค้าทั้งขาจรและขาประจำแวะเวียนมาซื้อกันไม่ขาดสาย

นายชาติชาย กลิ่นหอม หรือ บอส วัย 31 ปี ชาว ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรึ เจ้าของ ร้าน “ราชาปลาหมึก “คิง ออคโตปุส” (King Octopus)” ปัจจุบันจดตั้งบริษัท ดำเนินธุรกิจ ชื่อ “คิง ออคโตปุส” เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า กว่าตนจะมาถึงฝัน ด้วยวัยเพียง 31 ปีนั้น ตนเริ่มขายหมึกมาตั้งแต่ อายุได้เพียง 24 ปี เรียน จบ ปวส.ไฟฟ้า มาและหันมาค้าขายด้วยการขายครีม เครื่องสำอาง ขายน้ำในโรงเรียน รับจ้างเป็นช่าง ไฟฟ้า ติดตั้งอินเตอร์เน็ต ขายเส้นก๋วยเตี๋ยว เพราะถั่วงอกขาย ขายเสื้อผ้า ก่อนจะหันมาขายข้าวมันไก่ และเปลี่ยนมา ขายร้านข้าวผัดกระเพรา 3 สาขา

คุณบอส เล่าถึงเส้นทางการมาขายปลาหมึกต่อว่า มีเพื่อนชวนมาทำปลาหมึกสาย มาขายที่ตลาดนัดจตุจักรเป็นแห่งแรก โดยได้คัดสรรวัตถุดิบปลาหมึกที่สดใหม่ส่งตรงจากชาวประมงจังหวัดเพชรบุรี มาพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรพิเศษ ที่ตนได้คิดขึ้นเองในสูตรส่วยผสมของตนเอง และได้รับตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้า ทำให้ขยายผ่านออนไลน์และเปิดแฟรนไชส์ โดย “ King Octopus”จตุจักร สามารถทีรายได้วันละ 30,000 บาท ต่อมาได้ขยายสาขา เพิ่มเป็น 9 ร้านในตลาดนัดจตุจักร

ธุรกิจร้านขายปลาหมึกกำลังไปได้ดี จนกระทั่ง เข้าสู่ยุคโควิด ทำให้ต้องยุบจาก 9 เหลือ 1 ร้าน เท่านั้น ทำให้เกิดการขาดทุนอย่างหนัก จนกระทั่งตลาดจตุจักรปิด ก่อนจะถูกกลุ่มเพื่อนชักชวนไปจัดตาลสดอีเว้นจากตลาดจตุจักรขายที่ประเทศสิงคโปร ไปขายได้ 2 เดือน สามารถฟื้นทุนมีกำไรจึงกลับมาไทยขายในประเทศต่อ เพื่อได้ชวนให้ตนมาขายที่งานองค์พระ จ.นครปฐม ด้วยการกู้หนี้ยืมสิน ขายทอง ขายรถ และจำนำรถ ได้เงินมาจำนวน 1.35 แสนบาท และขายได้เพียง 3 วัน ฟื้นทุนเลย สามารถทำยอดขายได้กว่า 2 ล้านบาท เพื่อหักทุน และ หนี้สินที่กู้ยืมมา เหลือกำไร 5 แสนบาท

จนกระทั่ง ประมาณปี 2565 ตนได้ตัดสินใจเปิดบริษัท “คิง ออคโตปุส (King Octopus)” และ อีกบริษัทชื่อ ร่ำรวยอาหาร กระเพรา ด้วยความสดของปลาหมึก และ น้ำจิ้มรสเด็ด ปัจจุบันสามารถเปิดขายแฟนไชน์ได้มาถึง 70 สาขาทั่วไทย ปัจจุบัน ร้านหลักอยู่ที่ตลาดนัดจตุจักร 3 สาขา และมีการขยายสาขาไปต่างประเทศทั้งในกัมพูชาและลาว สามารถสร้างยอดขายต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท

คุณบอส เผย บางส่วนของสูตร เด็ดที่มัดใจลูกค้าว่า “ราชาปลาหมึก “คิง ออคโตปุส” (King Octopus)” เลือกใช้เอกลักษณ์สีแดงเป็นสีประจำหลัก ตนเดินทางไปคัดเลือกวัตถุดิบด้วยตนเองที่เพชรบุรี ที่นับเป็นแหล่งของหมึกสาย ที่มีความสดเป็นหมึกที่ใช้ส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น และ เกาหลี จึงเป็นส่วนสำคัญของทางร้าน หลังจากได้ปลาหมึกสดที่คัดพิเศษมาแล้ว ก็นำมาสู่กระบวนการผสมกับน้ำซอสที่ตนได้คิดขึ้นมามีความหอม และได้รสชาติ นำมาทอดในน้ำมันร้อนๆ เนื้อจะกรอบเด้งไม่เหนียว และสะอาด ปลาดสจากเชื้อโรคต่างๆ ด้วย เพราะผ่านน้ำมันที่ร้อน หลังจากทอดจนได้ที่แล้ว จะนำขึ้นมาตักขาย คู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ด จำหน่าย ถ้วยขนาดไซต์ M ราคา 100 บาท ถ้วยขนาดไซต์ L ราคา 200 บาท

นอกจากนี้ยังมีซอสเกาหลีที่กำลังได้รับความนิยมจากลูกค้า ซึ่งวิธีก็เพียงแค่นำปลาหมึกที่ทอดจนได้ที่แล้ว นำมาคลุกกับซอสเกาหลีสูตร ลับของทางร้าน ที่ให้รสชาติความ หวาน เปี้ยว เค็ม ออกไป 3 รส และมีรสชาติเผ็ด โดยด้วยงาขาวและต้นหอมซอย ตักขาย ถ้วยขนาดไซต์ M ราคา 100 บาท ถ้วยขนาดไซต์ L ราคา 200 บาทนอกจากนี้ยังมีเมนูปลาหมึกไข่ตัวใหญ่ชุบแป้งทอดกรอบ กินกับน้ำจิ้มซีฟู้ดด้วย เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ขายดีมาก ขายตัวละ 100 – 120 บาท

สำหรับผู้ที่ต้องการไปหาเลือกชิมปลาหมึกของทางร้าน สามารถไปได้ที่ตลาดนัดจตุจักร หรือ ไปพบกันตามงานอีเส้นต่างๆ งานคาราวานสินค้า งานประจำปี งานวัดใหญ่ๆ ทั่วไป โดยสังเกตร้านสีแดง มีชื่อ “ราชาปลาหมึก “คิง ออคโตปุส” (King Octopus)” และภาพตนเองซึ่งจะเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยตนเองด้วย หรือ โทรสอบถามได้ที่ 088-9585455