วันอังคาร ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
            
								หมูเถื่อน..คดีพิศวง สาวไม่ถึงตัวการใหญ่ รัฐต้องเอาจริง ตรวจสอบ DSI เร่งปิดคดี
การลักลอบนำเข้า “หมูเถื่อน” น่าจะเข้าข่าย “คดีพิศวง” ที่หน่วยงานผู้เกี่ยวข้องไม่สามารถสาวไปถึงตัวการใหญ่ได้ ทั้งที่มีข่าวมาเป็นระยะว่ามีการบุกตรวจเปิดตู้แช่เย็นตามท่าเรือต่างๆ จนพบหมูเถื่อนซุกซ่อนอยู่หลายต่อหลายล็อต แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถปิดคดีได้ จนกลายเป็นคดีที่มีความยืดเยื้อที่สุดอีกหนึ่งคดีของไทย
ล่าสุด DSI ออกมาเปิดเผยถึง คดีหมูเถื่อน 2,388 ตู้ หลังจากใช้เวลาขยายผลมานานกว่า 1 ปี แต่ก็ยังคงอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งที่ระยะเวลาทำงานที่ผ่านมาก็เนิ่นนามมาถึงขวบปี เป็นการดำเนินการขยายผลตามข้อกังวลของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลมากไปกว่านี้ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลัวเสียรูปคดี หรือกลัวจะไปสะดุดตอใหญ่ที่ยังไม่ผุดขึ้นมากันแน่
ก่อนนี้ สิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้ร้องรัฐตรวจสอบหมูเถื่อนซ้ำทั่วประเทศ พร้อมเร่งดำเนินคดี ด้วยหวั่นว่าจะยังมีหมูเถื่อนตกค้างในระบบ และมีการระบายออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ส่งผลต่อราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์ม ที่ยังไม่สามารถปรับขึ้นข้ามเส้นคุ้มทุนไปได้ โดยราคาหน้าฟาร์มปัจจุบันอยู่ที่ 68-76 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่เกษตรกรกลับต้องแบกรับต้นทุนการเลี้ยงที่อยู่ในระดับสูงถึง 80-82 บาทต่อกิโลกรัม ไม่ต่างกับการบีบคั้นให้คนเลี้ยงหมูต้องพ้นจากอาชีพนี้
เรื่องนี้ต้องทวงถามการทำงานของ DSI ที่ย้ำว่าขยายผลเกือบทุกมิติแล้ว เหตุไฉนยังเปิดเผยข้อมูลไม่ได้ โดยอ้างเหตุต้องมีพยานหลักฐานอย่างสมบูรณ์เสียก่อน ทั้งที่ก่อนนี้ก็มีการประกาศรายชื่อบริษัทและชื่อนายทุนที่เป็นผู้ลักลอบนำเข้าแล้ว แต่กลับเป็นเพียงการเรียกสอบปากคำและปล่อยตัวไป ไม่ได้มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป มิวายที่ตัวการใหญ่อาจจะรอดคดีกันทั้งขบวนการ
สาเหตุที่เกษตรกรต้องออกเร่งการทำงานของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ DSI ที่เป็นโต้โผในการปราบปรามหมูเถื่อน เพราะเป็นคดีที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่ประเทศชาติ คนเลี้ยงหมูต่างได้รับผลกระทบจากกลไกราคาหมูที่ถูกบิดเบือน จนราคาตกต่ำกว่าต้นทุนการผลิตจากผลพวงของปัญหาหมูเถื่อน มาเป็นเวลานานถึง 2 ปีกว่า นับจากปี 2565 เป็นต้นมา ทำให้เกษตรกรรายย่อยต้องออกจากระบบไปนับหมื่นราย จากช่วงปี 2564 ก่อนที่จะเกิดโรคระบาด ASF ไทยมีผู้เลี้ยงหมูราว 150,000 รายทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันเหลือแค่ 50,000 ราย หรือเพียงร้อยละ 33 เท่านั้น
วันนี้สิ่งเดียวที่คนเลี้ยงหมูต้องการคือ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องกับการปราบปรามหมูเถื่อน เร่งดำเนินการกวาดล้างขบวนการนี้ สาวไปให้ถึงตัวการใหญ่และนำตัวมาดำเนินคดี ใช้อำนาจของกฎหมายจัดการเอาตัวคนผิดมาลงโทษ ให้มารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดกับทั้งเศรษฐกิจชาติ อาชีพเกษตรกร และสุขภาพของคนไทยโดยเร็วที่สุด
กันยาพร สดสาย นักวิชาการด้านปศุสัตว์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี