หมูเถื่อน..คดีพิศวง สาวไม่ถึงตัวการใหญ่ รัฐต้องเอาจริง ตรวจสอบ DSI เร่งปิดคดี

หมูเถื่อน..คดีพิศวง สาวไม่ถึงตัวการใหญ่ รัฐต้องเอาจริง ตรวจสอบ DSI เร่งปิดคดี

วันพุธ ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 17.47 น.

หมูเถื่อน..คดีพิศวง สาวไม่ถึงตัวการใหญ่ รัฐต้องเอาจริง ตรวจสอบ DSI เร่งปิดคดี

การลักลอบนำเข้า “หมูเถื่อน” น่าจะเข้าข่าย “คดีพิศวง” ที่หน่วยงานผู้เกี่ยวข้องไม่สามารถสาวไปถึงตัวการใหญ่ได้ ทั้งที่มีข่าวมาเป็นระยะว่ามีการบุกตรวจเปิดตู้แช่เย็นตามท่าเรือต่างๆ จนพบหมูเถื่อนซุกซ่อนอยู่หลายต่อหลายล็อต แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถปิดคดีได้ จนกลายเป็นคดีที่มีความยืดเยื้อที่สุดอีกหนึ่งคดีของไทย


ล่าสุด DSI ออกมาเปิดเผยถึง คดีหมูเถื่อน 2,388 ตู้ หลังจากใช้เวลาขยายผลมานานกว่า 1 ปี แต่ก็ยังคงอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งที่ระยะเวลาทำงานที่ผ่านมาก็เนิ่นนามมาถึงขวบปี เป็นการดำเนินการขยายผลตามข้อกังวลของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลมากไปกว่านี้ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกลัวเสียรูปคดี หรือกลัวจะไปสะดุดตอใหญ่ที่ยังไม่ผุดขึ้นมากันแน่

ก่อนนี้ สิทธิพันธ์ ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ได้ร้องรัฐตรวจสอบหมูเถื่อนซ้ำทั่วประเทศ พร้อมเร่งดำเนินคดี ด้วยหวั่นว่าจะยังมีหมูเถื่อนตกค้างในระบบ และมีการระบายออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ส่งผลต่อราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์ม ที่ยังไม่สามารถปรับขึ้นข้ามเส้นคุ้มทุนไปได้ โดยราคาหน้าฟาร์มปัจจุบันอยู่ที่ 68-76 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่เกษตรกรกลับต้องแบกรับต้นทุนการเลี้ยงที่อยู่ในระดับสูงถึง 80-82 บาทต่อกิโลกรัม ไม่ต่างกับการบีบคั้นให้คนเลี้ยงหมูต้องพ้นจากอาชีพนี้

เรื่องนี้ต้องทวงถามการทำงานของ DSI ที่ย้ำว่าขยายผลเกือบทุกมิติแล้ว เหตุไฉนยังเปิดเผยข้อมูลไม่ได้ โดยอ้างเหตุต้องมีพยานหลักฐานอย่างสมบูรณ์เสียก่อน ทั้งที่ก่อนนี้ก็มีการประกาศรายชื่อบริษัทและชื่อนายทุนที่เป็นผู้ลักลอบนำเข้าแล้ว แต่กลับเป็นเพียงการเรียกสอบปากคำและปล่อยตัวไป ไม่ได้มีการดำเนินคดีแต่อย่างใด หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป มิวายที่ตัวการใหญ่อาจจะรอดคดีกันทั้งขบวนการ

สาเหตุที่เกษตรกรต้องออกเร่งการทำงานของภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ DSI ที่เป็นโต้โผในการปราบปรามหมูเถื่อน เพราะเป็นคดีที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงแก่ประเทศชาติ คนเลี้ยงหมูต่างได้รับผลกระทบจากกลไกราคาหมูที่ถูกบิดเบือน จนราคาตกต่ำกว่าต้นทุนการผลิตจากผลพวงของปัญหาหมูเถื่อน มาเป็นเวลานานถึง 2 ปีกว่า นับจากปี 2565 เป็นต้นมา ทำให้เกษตรกรรายย่อยต้องออกจากระบบไปนับหมื่นราย จากช่วงปี 2564 ก่อนที่จะเกิดโรคระบาด ASF ไทยมีผู้เลี้ยงหมูราว 150,000 รายทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันเหลือแค่ 50,000 ราย หรือเพียงร้อยละ 33 เท่านั้น

วันนี้สิ่งเดียวที่คนเลี้ยงหมูต้องการคือ ขอให้ผู้เกี่ยวข้องกับการปราบปรามหมูเถื่อน เร่งดำเนินการกวาดล้างขบวนการนี้ สาวไปให้ถึงตัวการใหญ่และนำตัวมาดำเนินคดี ใช้อำนาจของกฎหมายจัดการเอาตัวคนผิดมาลงโทษ ให้มารับผิดชอบความเสียหายที่เกิดกับทั้งเศรษฐกิจชาติ อาชีพเกษตรกร และสุขภาพของคนไทยโดยเร็วที่สุด

กันยาพร สดสาย นักวิชาการด้านปศุสัตว์

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top