วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
เปิดมติ ก.พ.ร. กำหนดโครงสร้างใหม่ สกร.มีเงื่อนไขยุบศูนย์วิทย์ฯใน 3 ปี

เปิดมติ ก.พ.ร. กำหนดโครงสร้างใหม่ สกร.มีเงื่อนไขยุบศูนย์วิทย์ฯใน 3 ปี

วันพฤหัสบดี ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 20.13 น.
Tag :
  •  

บอร์ด ก.พ.ร.เห็นชอบโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการภายในกรมส่งเสริมการเรียนรู้ มี 7 กอง 2 กลุ่มงาน กำหนดเงื่อนไขภายใน 3 ปี ยุบเลิก-โอนถ่ายภารกิจศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ ให้หน่วยงานรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ส่วนราชการดำเนินการแทน

นายธนากร ดอนเหนือ อธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (อธิบดี สกร.) เปิดเผยว่า ตนได้รับหนังสือด่วนที่สุด จากสำนักงานพัฒนาระบบราชการ (สำนักงาน ก.พ.ร.) แจ้งมติเรื่องการปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.)กระทรวงศึกษาธิการ ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2567 มีมติให้ความเห็นชอบการปรับปรุงโครงสร้างของ สกร. ตามความเห็นชองของคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ (อ.ก.พ.ร.) ดังนี้ การแบ่งส่วนราชการภายใน สกร. มีจำนวน 7 กอง 2 กลุ่มงาน ได้แก่ สำนักงานเลขานุการกรม, กองบริหารทรัพยากรบุคคล, กองมาตรฐานและส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิ, กองยุทธศาสตร์และแผนงาน, กองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้, ศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้, ศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์, กลุ่มตรวจสอบภายใน และกลุ่มพัฒนาระบบบริหาร โดยกำหนดเงื่อนไขให้โอนถ่ายภารกิจศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ (ท้องฟ้าจำลอง) ให้หน่วยงานรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ส่วนราชการเข้ามาดำเนินการแทน และยุบเลิกศูนย์วิทย์ฯ ภายใน 3 ปี นับจากกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการมีผลใช้บังคับ


อธิบดี สกร. กล่าวต่อไปว่า ก.พ.ร. กำหนดให้ สกร.จัดทำแผนการเปลี่ยนผ่านองค์กร (OD Transition plan ) ระยะ 5 ปี และเสนอ ก.พ.ร. พิจารณาให้ความเห็นชอบภายใน 6 เดือนนับจากกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการมีผลใช้บังคับ โดยสาระสำคัญของแผนเปลี่ยนผ่านองค์กรระยะ 5 ปี ต้องครอบคลุมทั้งด้านการปรับบทบาทและถ่ายโอนภารกิจ การพัฒนาระบบและวิธีการทำงานที่นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาเพิ่มประสิทธิภาพ กลไกการบริหารงาน การทบทวน เกลี่ย และกำหนดอัตรากำลัง การคัดเลือกข้ารการเข้าสู่ตำแหน่ง การพัฒนาบุคลากรเพื่อปรับปรุงทักษะ (Reskill) เพิ่มทักษะ (Upskill) และสร้างทักษะใหม่ (New skills) รวมทั้งการส่งเสริมความก้าวหน้าในอาชีพแก่พนักงานราชการตำแหน่งครู โดย OD Transition Plan ดังกล่าวต้องกำหนดตัวชี้วัดเชิงผลผลิต (Output) ผลลัพธ์ (Outcome) และผลสัมฤทธิ์ (Results) เชิงประจักษ์ที่เป็นรูปธรรม เพื่อประเมินความคุ้มค่าของการจัดตั้งหน่วยงาน ซึ่ง สกร.ต้องจัดส่งแผนดังกล่าวให้สำนักงาน ก.พ.ร. ภายใน 6 เดือน เพื่อสำนักงาน ก.พ.ร. ใช้ในการติดตามประเมินผลต่อไป

นายธนากร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้การปรับเปลี่ยนองค์กรและบุคลากรในระยะต่อไปให้ดำเนินการ ดังนี้ ทดลองจัดตั้งหน่วยขนาดเล็ก (Sandbox Unit) โดยพิจารณาภารกิจหลักบางงานมาดำเนินการ เช่น การออบแบบหลักสูตรหรือนวัตกรรมการเรียนรู้ โดยคัดเลือกคนรุ่นใหม่ หรือ ยืมตัวบุคลากรที่มีศักยภาพจากหน่วยงานอื่นมาปฏิบัติงานและขับเคลื่อนการดำเนินงานลงไปสู่การปฏิบัติจริงได้ในระดับพื้นที่บางจังหวัดหรือบางอำเภอ รวมทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงาน Sandbox Unit ดังกล่าว เพื่อนำมาพัฒนาขยายผล และกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ปฏิบัติงานจริงโดยคัดเลือกบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพจากส่วนราชการต่าง ๆ เข้าสู่กระบวนการพัฒนาส่งเสริมการเรียนรู้ในประเด็นนโยบายหรือยุทธศาสตร์สำคัญ รวมถึงให้ สกร. ปรับตัวชี้วัดและค่าเป้าหมายให้สอดคล้องเหมหาะสมตามที่กำหนดในแผนเปลี่ยนผ่านองค์กร และรายงานผลการดำเนินงานตามตัวชี้วัดสำคัญดังกล่าวใหสำนักงาน ก.พ.ร. ทราบ นับตั้งแต่กฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการมีผลใช้บังคับ และต่อเนื่องทุกปี จนถึงปีงบประมาณ 2571

“ ขั้นตอนหลังจากนี้ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะส่งร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกาตรวจพิจารณาและเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ประกาศในราขกิจจานุเบกษาต่อไป ขณะเดียวกัน สกร.จะนำมติ ก.พ.ร. เสนอคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) เพื่อพิจารณากำหนดสถานะหน่วยงานการศึกษา และสถานศึกษา สังกัด สกร. รวมถึงกำหนดมาตรฐานตำแหน่ง และกรอบอัตรากำลังข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาควบคู่   กันไป ” อธิบดี สกร. กล่าว.

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • กมว.เข้มโทษจรรยาบรรณ เตือนครูทำผิดมีผลพิจารณาต่อใบอนุญาตฯ-ขั้นเงินเดือน-การขอรับรางวัล กมว.เข้มโทษจรรยาบรรณ เตือนครูทำผิดมีผลพิจารณาต่อใบอนุญาตฯ-ขั้นเงินเดือน-การขอรับรางวัล
  • \'สพฐ.\'เดินหน้าลดหนี้สินครูอย่างเป็นระบบ ชูโมเดลแก้หนี้ครูโคราช ขยายผลทั่วประเทศ 'สพฐ.'เดินหน้าลดหนี้สินครูอย่างเป็นระบบ ชูโมเดลแก้หนี้ครูโคราช ขยายผลทั่วประเทศ
  • \'อิสระ\'โชว์วิชั่น ยกระดับสถาบันพระปกเกล้า ให้เป็นผู้นำทางคลังสมองของอาเซียน 'อิสระ'โชว์วิชั่น ยกระดับสถาบันพระปกเกล้า ให้เป็นผู้นำทางคลังสมองของอาเซียน
  • ‘วัดพระธรรมกาย’จัดบวชนานาชาติ 13 สัญชาติ กว่า 120 รูป มุ่งศึกษาพระธรรม ‘วัดพระธรรมกาย’จัดบวชนานาชาติ 13 สัญชาติ กว่า 120 รูป มุ่งศึกษาพระธรรม
  • ไทยพีบีเอสร่วมขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยในงาน \'SPLASH และ TCX 2025\' สู่เวทีนานาชาติ ไทยพีบีเอสร่วมขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทยในงาน 'SPLASH และ TCX 2025' สู่เวทีนานาชาติ
  • สถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย-จีน จับมือ ม.อุซเบฯ พัฒนาหลักสูตร BRI หนุนเศรษฐกิจสองชาติ สถาบันสื่อและบริหารธุรกิจไทย-จีน จับมือ ม.อุซเบฯ พัฒนาหลักสูตร BRI หนุนเศรษฐกิจสองชาติ
  •  

Breaking News

เช็คเสียงโหวตร่างนิรโทษฯ!‘สส.รัฐบาล’เหนียวแน่น ‘6 สส.สายเสื้อแดง พท.’โหวตหนุน‘ฉบับส้ม’

เลยน้ำป่าทะลัก! โรงเรียนปิดการสอน-ชาวบ้านเร่งนำกระสอบทรายกั้น

'แจ็ค ไททัส' Mister Model International 2025 เดินสายพบสื่อมวลชน

'บิ๊กเต่า'ซัดสำนักพุทธฯ ไม่จริงใจ-ปกปิดปัญหา หวั่นปล่อยไว้เป็นมะเร็งร้าย ทำพระพุทธศาสนาเสื่อม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved