สถานการณ์’17 จังหวัดภาคเหนือ’กับการจัดการไฟป่าในพื้นที่ ขอร้อง‘หยุดเผา’ทันที

สถานการณ์’17 จังหวัดภาคเหนือ’กับการจัดการไฟป่าในพื้นที่ ขอร้อง‘หยุดเผา’ทันที

วันเสาร์ ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2567, 09.57 น.

สถานการณ์‘17 จังหวัดภาคเหนือ’กับการจัดการ‘ไฟป่า’ในพื้นที่ ขอร้อง‘หยุดเผา’ทันที

ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ อันได้แก่ จ.กำแพงเพชร เชียงราย  เชียงใหม่  ตาก นครสวรรค์ น่าน พะเยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ และอุทัยธานี


“ไฟป่า” มีสาเหตุหลายประการ อาทิ ภูมิศาสตร์ของภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงและมีที่ราบคล้ายแอ่งกระทะ ลักษณะของป่าแตกต่างจากพื้นที่อื่น ๆ และเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน ใบไม้แห้งจะกลายเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี  มีการทำเกษตรเชิงเดี่ยว มีการเผาป่าเพื่อเริ่มทำการเกษตรครั้งใหม่ หรือพืชบางชนิดอาจต้องใช้ไฟเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตหรือผลัดเปลี่ยน เช่น ช่วยให้ผักหวานแตกยอดหรือเห็ดเผาะเมื่อมีต้นไม้และหญ้าขึ้นคลุมผิวดินมาก จะไม่สามารถขึ้นได้และยากต่อการหา จึงทำให้ชาวบ้านมีความเชื่อว่า เมื่อเผาป่าจะหาของป่าได้ง่ายขึ้น

ปัญหานี้จึงอยู่คู่กับภาคเหนือมาตลอด หรือบางครั้งไฟป่าอาจเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

​จากสถานการณ์ไฟป่าที่มีความรุนแรงในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอนและเชียงใหม่ ถือเป็นอีก 2 พื้นที่ที่พบว่ามีจุดความร้อน (Hotspot) คือ จุดที่ดาวเทียมตรวจพบว่า เป็นพื้นที่ที่มีค่าความร้อนสูงผิดปกติติดอันดับต้นๆ ของประเทศโดยเฉพาะพื้นที่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอนและจังหวัดเชียงใหม่ ถือเป็นอีก 2 พื้นที่เกิดไฟป่าที่สำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาประสบปัญหาไฟป่า ทำให้ป่าเสียหายแล้วกว่า 450,000 ไร่ 

​เนื่องจากสาเหตุของการเกิดไฟป่านั้นล้วนมาจากน้ำมือมนุษย์ที่เป็นต้นเพลิงสำคัญแทบทั้งสิ้น ทีเพียงแค่จุดไฟจุดเดียวแต่สามารถลุกลามไปเป็นหลายร้อยไร่ ภายในระยะเวลาไม่กี่วัน สร้างความเสียหายและความเดือดร้อนอย่างมหาศาล การแก้ไขปัญหาไฟป่าโดยหน่วยงานภาครัฐเพียงหน่วยเดียว จึงไม่สามารถทำให้ปัญหาการเกิดไฟป่าลดลงได้ในเวลาอันรวดเร็ว

นายนฤพนธ์ ทิพย์มณฑา ผู้อำนวยการสำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กล่าวว่า ภาพรวมสถานการณ์ไฟป่าทางภาคเหนือปีนี้ มีจุด Hotspot ลดลงจากปีที่แล้ว 35% และพื้นที่เผาไหม้ลดลงจากปีที่แล้ว 39% “ปีนี้มีสภาพอากาศร้อนจัดและมีการลักลอบเผาป่าไม่หยุด จึงขอร้องว่า ขอให้คนเผาป่ายุติเลย เดือดร้อนทุกภาคส่วน เรามองปัญหาในพื้นที่เกิดจากการกลั่นแกล้ง อากาศร้อนขนาดนี้ยังมีคนเผาคิดว่าเผาแล้วไฟไม่ลุกลาม แต่ความแห้งแล้งของพื้นที่ ทำให้ไฟดับยากและลุกลามไปอย่างรวดเร็ว

สาเหตุที่เขากลั่นแกล้ง คือ โดนเบี่ยงเบนประเด็น เช่น มีคนจะเข้าไปลักลอบตัดไม้ทำลายป่า เข้าไปหาของป่า และกลั่นแกล้งไปเผาอีกจุดหนึ่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังไปช่วยดับไฟจุดนั้น และเจ้าหน้าที่ฯเข้มงวดมาก หากทำผิดกฎหมายจะมีการดำเนินการทันที เมื่อเขาทำผิดกฎหมายไม่ได้ ก็มีการ “เผาป่ากลั่นแกล้ง”

ด้านการแก้ไขปัญหาไฟป่า เจ้าหน้าที่ฯยังคงใช้มาตรการเฝ้าระวังและเคาะประตูบ้าน รวมทั้งมาตรการหาข่าวในพื้นที่ ทุกวันนี้หน่วยงานป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ ยังใช้มาตรการสืบข่าวในทางลับ สืบบุคคลที่เข้าไปลักลอบเผาป่า รวมทั้งมาตรการอื่นๆควบคู่กันไป เช่น การลงทะเบียนคนเข้า-ออกในพื้นที่ป่า มีการบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเด็ดขาด 

ผอ.สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า กล่าวอีกว่า การปฏิบัติงานเข้าพื้นที่การเกิดไฟป่าต้องมีความระมัดระวังและให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อป้องกันการสูญเสีย ทุกวันนี้ เจ้าหน้าที่ทำงานหนักมาก เสี่ยงเป็นฮีทสโตรก หากเป็นพื้นที่บนดอยต้องใช้เวลาเดินทางเป็นวัน การเข้าถึงยากลำบาก ต้องการทั้งอากาศยาน ยานพาหนะ รถบรรทุกน้ำ แต่แม้จะมีอุปกรณ์มากมายเพียงใด หากไม่หยุดเผาป่าในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ก็ยังต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างหนักสู้กับคนที่เผาป่าต่อไป 

​“ภาพรวมสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ จึงล้วนเกิดจากมนุษย์บางคนที่ยังเผาไม่หยุด จึงขอร้องว่า โลกร้อนขึ้นทุกวัน หยุดเผาป่ากันเถอะ ไม่ใช่เพื่อตัวคุณเองเท่านั้น แต่เพื่อป่าที่เป็น “บ้าน” เป็นของพวกคุณเองด้วย”

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top