วิจารณ์แซ่ด!‘อัยการปราบทุจริตฯ’ร่อนหนังสือด่วนที่สุดให้‘ตำรวจ สอท.’รับสำนวนคดีเว็บพนันพัวพันบิ๊กตำรวจไปส่ง‘ป.ป.ช.’ ทั้งที่‘อัยการสูงสุด’ยังไม่มีคำสั่งชี้ขาดข้อหารือ สงสัยเป็นบรรทัดฐานใหม่หรือไม่?
8 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค.67 นายอภิชาต ถาใจ อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 2 ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ถึงหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 583/2566 เรื่องขอทราบข้อหารือกรณีการคืนสำนวนการสอบสวน
ใจความว่า ตามที่คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่ 583/2566 ส่งสำนวนการสอบสวน คดีอาญาที่ 724/2566 ของ (สอท.) 1 ระหว่าง พันตำรวจโท มนต์ชัย บุญเลิศ ผู้กล่าวหา นายณัฐวัตร พิมพ์สวัสดิ์ กับพวก รวม 61 คน (เป็นเยาวชน 2 คน) ผู้ต้องหา ในคดีเว็บพนันที่พัวพันนายตำรวจใหญ่
ต่อมาท่านแจ้งข้อเท็จจริงและขอหารือเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ มีหนังสือเรียกสำนวนการสอบสวนคดีอาญาที่ 724/2566 ในส่วนของสำนวนการสอบสวน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย กับผู้ต้องหาจำนวน 14คน (ผู้ต้องหาที่ 1-3 ผู้ต้องหาที่ 12-14 , 20-26 และ 61 ) เพื่อดำเนินการเอง ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2561มาตรา 66 ขอให้ส่งเรื่องและส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 2 แจ้งให้คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนฯ รับสำนวนการสอบสวนคืนเพื่อดำเนินการ ตามหนังสือที่อ้างถึง
ต่อมาท่านมีหนังสือกราบเรียนหารือไปยังอัยการสูงสุด และหารือวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวนคดีนี้ มีข้อความเป็นอย่างเดียวกันไปยังอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 2 และมีหนังสือขอทราบข้อหารือกรณีการคืนสำนวนการสอบสวน ความละเอียดแจ้งแล้ว นั้น พนักงานอัยการคณะทำงาน สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 2 ได้นำกราบเรียนอัยการสูงสุด เสนอแนวทางการตอบข้อหารือวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวนคดีนี้ ตามหนังสือแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของอัยการสูงสุด
อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 2 เสนอความเห็นว่า เมื่อพนักงานอัยการมีคำสั่งให้คืนสำนวนการสอบสวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561มาตรา 66 แล้ว พนักงานสอบสวนมีหน้าที่ส่งสำนวนการสอบสวนการสอบสวน พร้อมการสอบสวนเพิ่มเติมตามคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติมทั้งหมด และสำนวนการสอบสวน
ส่วนที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 2 คืนสำนวนการสอบสวนบางข้อหาของผู้ต้องหา 8 ราย ให้พนักงานสอบสวนส่งให้พนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษ ไปยังคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณา และหากอัยการสูงสุดเห็นพ้องด้วยกับความเห็นของพนักงานอัยการคณะทำงาน สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีปราบปรามการทุจริต 2 แล้ว จักมีหนังสือตอบข้อหารือดังกล่าวอย่างเป็นทางการอีกวาระหนึ่ง
อนึ่ง ท่านสามารถรับสำนวนการสอบสวน คดีอาญาที่ 724/2566 ของกองบังคับการการสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 คดีระหว่าง พันตำรวจโท มนต์ชัย บุญเลิศ ผู้กล่าวหา นายณัฐวัตร พิมพ์สวัสดิ์ กับพวก พร้อมการสอบสวนเพิ่มเติมตามคำสั่งสอบสวนเพิ่มเติมทั้งหมดได้ ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย.2567 โดยไม่จำต้องรอความเห็นตอบข้อหารือวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับสำนวนการสอบสวนคดีนี้แต่ประการใด จึงเรียนมาเพื่อทราบ หนังสือดังกล่าว สอท. มีการลงรับวันที่ 4 ก.ค. 2567 เวลา 16.13 น.
อย่างไรก็ตาม จากหนังสือดังกล่าวเป็นวิพากษ์วิจารณ์กันในหมู่พนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการฯถึงความเห็นให้คืนสำนวนครั้งนี้ของอัยการสำนักงานปราบปรามการทุจริตฯนี้จะถือเป็นบรรทัดฐานในการทำงานต่อๆไป ว่าแม้สำนวนจะอยู่ในอำนาจและหน้าที่ของอัยการแล้ว ป.ป.ช.ซึ่งมีสถานะเป็นพนักงานสอบสวนยังสามารถมีอำนาจในเรียกสำนวนคืนได้ หรือตามระเบียบของ ป.ป.ช.ที่เหมือนจะเขียนไว้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและชอบด้วยกฎหมาย ป.วิอาญา หรือไม่ หรือแค่ชอบตามกฎหมาย ป.ป.ช. และกรณีเป็นความเห็นในครั้งนี้ของ อัยการสูงสุด คณะทำงานที่พิจารณาหรือเพียงเจ้าของสำนวนที่พิจารณาคำสั่งคืนสำนวนในครั้งนี้จะถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ให้หน่วยในวงการอัยการต้องปฏิบัติตามหรือไม่
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี