ล้อเล่นกับระบบ!รวบ‘ไวท์ ตาคลี’ปลอมเป็น‘สารวัตรแจ๊ะ’ หลอกขายเสื้อเหยื่อ

ล้อเล่นกับระบบ!รวบ‘ไวท์ ตาคลี’ปลอมเป็น‘สารวัตรแจ๊ะ’ หลอกขายเสื้อเหยื่อ

วันพุธ ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 14.02 น.

บุกรวบ‘ไวท์ ตาคลี’มิจฉาชีพออนไลน์ตัวแสบ ปลอมเป็น‘สารวัตรแจ๊ะ’ เลียนแบบหนังดัง หมายจับติดตัวเพียบ ถูกจับยังไม่เข็ด แฉวีรกรรมเคยหลอกเจ้าหน้าที่ขณะโดนจับ

24 กรกฎาคม 2567 ที่ บก.สส.บช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า สืบนครบาลรวบไวท์ ตาคลี  “ปลอมเป็นสารวัตรแจ๊ะ” ไอเดียสุดคลีเอทีฟของ “ไวท์ตาคลี” มิจออนไลน์ตัวแสบ ตุ๋นแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ที่เคยมาจับกุมตัวเองเลียนแบบภาพยนตร์ Catch me if you can ล่าสุดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลเข้าจับกุม ที่เด็ดดวงคือเมื่อตรวจสอบโทรศัพท์พบว่า กำลัง “ปลอมเป็นสารวัตรแจ๊ะ” จะหลอกขายเสื้อให้กับเหยื่อ แต่ประชาชนแฟนเพจจ๋อแจ๊ะของแทร่เห็นความผิดปกติในโลกโซเชียลแจ้งเบาะแสให้จับกุมก่อนสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น


ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2567 กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนติดตามจับกุมนายณรงค์ฤทธิ์ หรือไวท์ ตาคลี อายุ 30 ปี พักอยู่ ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ 2 หมายจับ ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน”  และพบประวัติเคยถูกดำเนินคดีอาญา 2 คดี คือ 1. สน.ทุ่งสองห้อง คดีอาญาข้อหา “นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ใช้ตราสัญลักษณ์ปลอมของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เป็นภาพของผู้ใช้โดยผิดกฎหมาย” และ 2. สภ.เมืองระยอง คดีอาญาข้อหา “ฉ้อโกง”

พฤติการณ์คือ “ไวท์-ตาคลี” ได้ตระเวนก่อเหตุหลอกลวงในโลกออนไลน์มาเป็นเวลาหลายปี จนมีทักษะแพรวพราวพลิกแพลงการหลอกลวง “ตามเทรนด์” สังคมได้อย่างแนบเนียน จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.1 จับกุมตัวไปเมื่อ 26 ก.พ.65 หลังก่อเหตุแอบอ้างปลอมตัวเป็น ฝ่ายไอทีของวิทยาลัยแห่งหนึ่ง แล้วลวงโกงเงินค่าฉีดวัคซีนไปหลายราย หลังเจ้าตัวถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้ประกันตัวออกมาและอยู่ระหว่างสู้คดี “ไร้สำนึก” ยังคงเดินสายหลอกลวงต่อมาเรื่อยๆพัฒนารูปแบบจนเรียกได้ว่า “ไร้รูปแบบ” เช่น ปลอมเป็นเภสัชเข้าไปในกลุ่มขายยาหลอกขายฟ้าทะลายโจร , หลอกขายหวยกองสลากพลัส จนในปัจจุบันเข้าตัวได้มีหมายจับเพิ่มมาอีก 2 หมายจับ

นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรม “ต้มตุ๋นเจ้าหน้าที่” เลียนแบบหนัง Catch me if you can คือ เคยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหนึ่งเข้าไปที่บ้านเพื่อจับกุมตัวนายไวท์ แต่ได้มีการโวยวายอ้างว่าถูกจับกุมไปแล้ว สร้างความไขว้เขวกับเจ้าหน้าที่ ก่อนจะใช้จังหวะทีเผลอหลบหนีออกจากบ้านไป จนล่าสุด วันที่ 23 ก.ค.67 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสืบนครบาลบุกไปถึงที่พักในโรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ตาคลี อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ โดยขณะจับกุมเจ้าตัวยังคงใช้มุขเดิมโดยพยายามตุ๋นเจ้าหน้าที่ว่าตนถูกจับกุมไปแล้ว แต่ชุดสืบนครบาลไม่หลงกล ทำการจับกุมตัวทันที และที่เด็ดดวงคือเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือก็พบว่ามีการ “ปลอมเป็นสารวัตรแจ๊ะ” แล้วกำลังจะหลอกขายเสื้อให้กับเหยื่อได้อย่างฉิวเฉียด

นายณรงค์ฤทธิ์ ให้การว่า เรื่องการขายโควตาวัคซีนนั้น เป็นรับว่าเป็นผู้สร้างบัญชีเฟซบุ๊กขึ้นมาใหม่และประกาศหาคนที่ต้องการฉีดวัคซีนให้มาลงเป็นกับตน แต่ภายหลังไม่ได้การรับวัคซีน จึงเป็นเหตุให้ผู้เสียหายไปฟ้องตน ในส่วนนี้ก็ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ต่อมาการหลอกขายสมุนไพรฟ้าทลายโจร ได้สร้างเฟสบุ๊กขึ้นมาใหม่ ในช่วงเวลาเดียวกับเคสวัคซีน และก็ไม่ได้มีการจัดจัดส่งสมุนไพรให้ผู้สั่งซื้อแต่อย่างใด และกรณีล่าสุดตนเองแอบอ้างเป็นสารวัตรแจ๊ะ กำลังจะหลอกขายเสื้อให้กับเหล่าแฟนคลับแต่ว่ามาถูกจับได้เสียก่อน” หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ดำเนินคดีต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประชาชนกำลังวิตกกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า (COVID-19) แต่คนร้ายอาศัยช่วงเวลาดังกล่าว หลอกจองโควตาการฉีดวัคซีน, หลอกจองสมุนไพรฟ้าทลายโจร ซึ่งสร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก ล่าสุดคนร้ายรายนี้วางแผนเตรียมการ หลอกขายสินค้าให้กับกลุ่มแฟนคลับสารวัตรแจ๊ะ โอกาสนี้จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนทุกคน โปรดระมัดระวังมิจฉาชีพให้ดีสารวัตรแจ๊ะตัวจริงไม่เล่นโซเชียลมีเดียใดๆทุกแพลตฟอร์ม หากท่านมีเบาะแสสามารถส่งข้อมูลมาได้ที่ เพจ สืบนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม.

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top