นายกฯลงพื้นที่นครพนม มอบที่ดินกรมธนารักษ์ 67 แปลงแก่ราษฎรใช้ทำกิน

นายกฯลงพื้นที่นครพนม มอบที่ดินกรมธนารักษ์ 67 แปลงแก่ราษฎรใช้ทำกิน

วันศุกร์ ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 22.57 น.

นายกฯลงพื้นที่นครพนม มอบที่ดินกรมธนารักษ์ 67 แปลงแก่ราษฎรใช้ทำกิน และบ้านผู้ยากไร้เฉลิมพระเกียรติ ตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต

วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ที่หอประชุมมรุกขนคร โรงเรียนนครพนมวิทยาคม เขตเทศบาลเมืองนครพนม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะ ส.ส.นครพนมเขต 2 พรรคเพื่อไทย นางสาวจิราพร  สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะทำงานลงพื้นที่ ประกอบพิธีมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุที่อยู่ในการครอบครองของกองทัพอากาศ ตามโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม


ทั้งนี้ นายเศรษฐา ได้มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง จำนวน 67 ราย เนื้อที่ประมาณ 661 ไร่ ตามโครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์  โดยเป็นที่ดินราชพัสดุในความครอบครองของกองทัพอากาศ กระทรวงกลาโหม พร้อมจัดสรรให้กับประชาชนได้เข้าใช้ประโยชน์ ในการเป็นที่ดินทำกินหรือที่อยู่อาศัย โดยราษฎรทั้ง 67 รายได้รับเอกสารรับรองการใช้ประโยชน์ที่ดินตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวกระทรวงการคลัง ร่วมกับกระทรวงกลาโหม และจังหวัดนครพนม ได้เลือกที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ นพ. 1400 ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม ที่อยู่ในความครอบครองใช้ประโยชน์ในราชการของกองทัพอากาศ เนื้อที่ประมาณ 661 ไร่เป็นพื้นที่เป้าหมาย เป็นการบูรณาการร่วมกันของหลายส่วนราชการ เป็นสัญญาเช่าเพื่อประกอบการเกษตรในอัตราค่าเช่าผ่อนปรนเนื้อที่ไม่เกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 20 บาทต่อไร่/ปี และหากเกิน 50 ไร่ อัตราเช่า 30 บาทต่อไร่/ปี โดยมีสัญญาเช่าครั้งละ 3 ปี

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะยังได้ลงพื้นที่ บ้านนาคำกลาง หมู่ 4 ต.นาทราย อ.เมืองนครพนม ประกอบพิธีมอบป้ายบ้านให้กับผู้ร่วมในโครงการซ่อมบ้านผู้พิการ ผู้ยากไร้ จำนวน 6 ราย เพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนอย่างยั่งยืน ภายใต้การสนับสนุนจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับกระทรวงกลาโหม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึงส่วนราชการและหน่วยงานในพื้นที่

ด้าน นายเศรษฐา ได้กล่าวกับราษฎรที่ได้รับการจัดสรรที่ดินทั้ง 67 ราย ว่า ขอแสดงความยินดีกับพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ได้รับสิทธิการเช่าที่ราชพัสดุ รู้สึกเป็นเกียรติ และมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาร่วมพิธีมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุในวันนี้ นโยบายดังกล่าวเป็นการสร้างความมั่นคง ด้านที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน เพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน ภายใต้นโยบายรัฐบาล ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างโอกาส และความเสมอภาคทางสังคม โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรม และลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ อีกทั้งการดำเนินการจัดให้เช่าที่ดินราชพัสดุ ในความครอบครองของกระทรวงกลาโหม โดยกระทรวงการคลัง และกระทรวงกลาโหม ได้บูรณาการร่วมกันดำเนินโครงการจนบรรลุผลสำเร็จ และผู้ถือครองที่ดินราชพัสดุ ได้เข้าสู่ระบบการเช่าโดยชอบด้วยกฎหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ใน 3 พื้นที่กล่าวคือ กองทัพบก กองทัพไทย กองทัพเรือ

ในวันนี้เป็นในส่วนของกองทัพอากาศ โดยทั้ง 4 พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย  เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ขอให้ทุกภาคส่วน ที่ได้บูรณาการความร่วมมือเพื่อดำเนินโครงการนี้ให้สำเร็จลุล่วงอย่างดี เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาล ทำให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินมีความมั่นคงในอาชีพและรายได้นำไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดี มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น รัฐบาลพร้อมสนับสนุนในการขับเคลื่อนโครงการเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประชาชน

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top