กระทบการค้าชายแดน‘ไทย-เมียนมา’
น้ำป่าถล่มแม่ฮ่องสอน
‘แม่สะเรียง-สบเมย’อ่วม
กรมชลฯเฝ้าระวังสุโขทัย
อุตุฯเตือนฝนยังตกหนัก
แม่ฮ่องสอน ประสบอุทกภัยแล้วที่ “แม่สะเรียง-สบเมย” กระทบการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ขณะที่กรมชลประทานเป็นห่วงน้ำท่วมสุโขทัย ส่งเครื่องสูบน้ำ เครื่องจักรกลหนักเข้าไปเตรียมพร้อมช่วยเหลือ ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาเตือนภาวะฝนยังกระหน่ำหนัก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะป่าต้นน้ำตามแนวชายแดนที่บ้านเสาหิน ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงสู่ลำห้วยแม่แงะ เส้นทางไปบ้านเสาหิน ปริมาณน้ำเพิ่มสูงอย่างรวดเร็ว ทาง อ.แม่สะเรียงแจ้งเตือนประชาชนระมัดระวังในการเดินทางทั้ งนี้อุปสรรคในการเดินทางส่งผลกระทบต่อการค้าชายแดนช่องทางบ้านเสาหินโดยปริยาย
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 นายวรศักดิ์ พานทอง นายอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากราษฎรและองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ต.เสาหินว่า ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น.เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ปริมาณน้ำในลำห้วยแม่แงะ ที่เป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างบ้านโพซอ-บ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง ฯ ได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทำให้ราษฎรที่อาศัยเส้นทางดังกล่าวต้องเร่งข้ามผ่านแม่น้ำแม่แงะ ให้ได้เพื่อนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค รวมไปถึงสินค้าที่จะส่งไปขายให้ชาวเมียนมาบ้านแม่แจ๊ะ ตรงข้ามช่องทางบ้านเสาหิน ต้องรีบลำเลียงสิ่งของผ่านไปให้ได้ หากไม่เช่นน้ำถ้าน้ำป่าไหลหลากและเพิ่มปริมาณสูงมากกว่านี้จะทำให้ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ซึ่งบางจุดต้องใช้รถลากรถจากลำห้วยขึ้นสู่ฝั่ง ทั้งนี้เส้นทางจากบ้านโพซอ ไป บ้านเสาหิน ต้องผ่านลำน้ำแม่แงะ จำนวน 52 จุด/ท่า เนื่องจากแม่น้ำไหลคดเคี้ยวไปตามร่องเขาที่เป็นเส้นทางสู่บ้านเสาหิน ซึ่งมีเพียงเส้นทางเดียวเท่านั้น
เตือนระมัดระวังในการสัญจร
นายอำเภอแม่สะเรียง เปิดเผยต่อไปว่าจากสถานการณ์ดังกล่าว ทางอำเภอได้แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการสัญจรผ่านลำห้วยสายดังกล่าว หากพบว่าน้ำสูงเกินกว่าที่จะข้ามผ่านให้ยุติการข้ามไว้ก่อนเนื่องจากอาจจะเกิดอันตรายต่อประชาชนที่ผ่านบริเวณจุดลำห้วยแม่แงะ หากน้ำป่าไหลหลากมากเกินไปให้ยุติการเดินทางและให้พักรอบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง จนน้ำลดลงสู่ระดับที่สามารถข้ามไปให้แล้วค่อยเดินทางต่อ อย่างไรก็ตามเมื่อค่ำวานที่ผ่านมา คณะทีมคุณหมอพยาบาล พอ.สว. ที่เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาประชาชนบ้านเสาหิน ได้เดินทางกลับออกมาด้วยความทุลักทุเล และทุกคนปลอดภัยดี
“สบเมย”ยังวิกฤติหนัก
ด้านนายศราวุท ทังดิน นางอำเภอสบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้รับรายงานจาก อบต.แม่สามแลบ ว่าตามที่ฝนตกต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 22 – 26 ก.ค .2567 ทำให้เกิดเหตุทกภัยและได้รับผลกระทบ เส้นทางยากลำบาก ไหล่ทางทรุด 3 จุด ในพื้นที่ ของ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะ พื้นที่บ้านโตแฮ ถนนเกิดดินทรุดตัวลงจากการกัดเซาะของน้ำ ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณ โรงเรียน ต.ช.ด. บ้านโตแฮ ทำให้ถนนขาด รถไม่สามารถสัญจร เข้า-ออกได้ทุกชนิด นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเชื่อมต่อระหว่าง บ้านปูคำน้อย – บ้านบุญเลอ และ หมู่ 4 บ้านสบเมย ระหว่างบ้านบุญเลอ – บ้านสบเมย ถนนบางจุดเป็นดินโคลนและลื่นมากการสัญจรเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ ติดโซ่เท่านั้น หากฝนตกลงมาอย่างหนักก็ไม่สามารถสัญจรได้เช่นกัน
นอภ.ท่ามะกาสั่งพร้อมรับมวลน้ำ
นางอรทัย วงศ์วัชรมงคล นายอำเภอท่ามะกา จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า จังหวัดกาญจนบุรีเป็นจังหวัดที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 24-31 กรกฎาคม 2567 โดยเฉพาะ อ.เมืองกาญจนบุรี อ.สังขละบุรี อ.ทองผาภูมิ อ.ศรีสวัสดิ์ อ.ไทรโยค และ อ.ด่านมะขามเตี้ย
ขณะที่สำนักงานชลประทานที่ 13 แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 21-25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พื้นที่ตอนบนของจังหวัดกาญจนบุรีมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแม่น้ำแม่กลองเป็นจำนวนมาก เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนแม่กลองเป็นไปตามเกณฑ์ควบคุม สำนักงานชลประทานที่ 13 มีความจำเป็นที่จะปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนแม่กลอง ในปริมาณมากกว่า 800 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำแม่กลองท้ายเขื่อนแม่กลอง มีระดับสูงขึ้นจากปัจจุบัน 1-2 เมตร
ซึ่ง อ.ท่ามะกาเป็นหนึ่งในอำเภอที่อยู่ท้ายเขื่อนแม่กลอง มีประชาชนอาศรัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่กลองตลอดแนว ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนผู้ประกอบการ ตลอดจนประชาชนที่อยู่อาศัยริมแม่น้ำ ที่ลุ่มต่ำ ที่อาจได้รับผลกระพบจากระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ขอให้ประชาชนที่อยู่จุดเสี่ยงภัยได้เตรียมการเฝ้าระวังและติดตามข่าวสารสถานการณ์น้ำจากหน่วยราชการอย่างใกล้ชิด
กรมชลเฝ้าระวังสุโขทัย
นายชูชาติ รักจิตร อธิบดีกรมชลประทาน และนายเดช เล็กวิชัย รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมความพร้อมรับมือน้ำหลาก (แม่น้ำยม) ในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย โดยมี นายทวีวัฒน์ สืบสุขมั่นสกุล ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 4 และผู้เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่และบรรยายสรุปแนวทางการเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากในพื้นที่ ณ สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 4 ก่อนจะเดินทางไปติดตามโครงการปรับปรุงคลองยม-น่าน รวมถึงติดตามสถานการณ์น้ำบริเวณคลองยม-น่าน ประตูระบายน้ำคลองหกบาท และประตูระบายน้ำแม่น้ำยม (บ้านหาดสะพานจันทร์) อำเภอสวรรคโลก ตลอดจนพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยในเขตอำเภอเมืองสุโขทัยตามลำดับ
สำหรับการเตรียมพร้อมรับมือน้ำหลากในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย สำนักงานชลประทานที่ 4 ได้ถอดบทเรียนจากสถานการณ์อุทกภัยในปี 2566 ที่ผ่านมา นำมาวิเคราะห์ วางแผนป้องกัน และเตรียมแผนเผชิญเหตุรับมือกับสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนนี้ โดยได้วางแผนจัดจราจรน้ำในลุ่มน้ำยม เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่จะไหลลงมาจากจังหวัดแพร่ ด้วยการหน่วงน้ำไว้ที่บริเวณด้านเหนือประตูระบายน้ำแม่น้ำยม (บ้านหาดสะพานจันทร์) โดยจะผันน้ำส่วนหนึ่งเข้าคลองยม-น่าน ผ่านทาง ปตร.คลองหกบาท ก่อนระบายลงสู่แม่น้ำยมสายเก่าและแม่น้ำน่านตามลำดับ เพื่อควบคุมปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านตัวเมืองสุโขทัยให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการผันน้ำเข้าคลองที่เชื่อมกับแม่น้ำยมสายหลัก เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงสู่พื้นที่ด้านท้ายน้ำ
ทั้งยังกำชับให้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด จัดเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ เครื่องสูบน้ำ ประจำจุดเสี่ยงต่างๆ ให้พร้อมใช้งาน สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที หวังบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องชาวสุโขทัยให้มากที่สุด
อุตุฯเตือนไทยมีฝนหนักบางแห่ง
ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายอากาศในช่วงวันที่ 28 - 30 ก.ค.2567 ร่องมรสุมกำลังปานกลางพาดผ่านภาคเหนือตอนบน และประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนในช่วงวันที่ 31 ก.ค. – 2 ส.ค. 2567 ร่องมรสุมจะเลื่อนขึ้นไปพาดผ่านประเทศเมียนมาและลาวตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้จะทำให้ประเทศไทยมีฝนเลดลงแต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1 - 2 เมตร บริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี