เมื่อเวลา 20.30 น.วันที่ 30 กรกฎาคม 2567 นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (อุทกภัย) จังหวัดกาญจนบุรี โดย ร.ท.ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้สรุปสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน สิ่งสาธารณประโยชน์รวมถึงพื้นที่และทรัพย์สินทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ในพื้นที่ อำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละบุรี อำเภอไทอไทรโยค อำเภอเมืองกาญจนบุรี อำเภอศรีสวัสดิ์ และอำเภอด่านมะขามเตี้ย ระหว่างเมื่อวันที่ 25 - 30 กรกฎาคม 2567 สรุปรายละเอียดได้ดังนี้
เกิดฝนตกหนักส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำลันตลิ่ง และดินสไลด์ สาเหตุเกิดจากร่องมรสุมและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พาดผ่านภาคเหนือ เขื่อนวชิราลงกรณลดการระบายน้ำจาก 13.84 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันไม่มีการะบายน้ำจากเขื่อนวชิราลงกรณ
อำเภอสังขละบุรี ตำบลไลโว่ หมู่ที่ 1 น้ำท่วมพื้นที่นาข้าว ประมาณ 40 ไร่ ตำบลปรังเผล บ้านวังขยาย น้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร ได้รับผลกระทบจำนวน 100 หลังคาเรือน และมีดินสไลด์บนถนสาย 323 (ทองผาภูมิ - สังขละบุรี) ช่วงทางโค้ง ก่อนถึงน้ำตกเกริงกะเวีย ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติ
อำเภอไทรโยค ตำบลท่าเสา หมู่ที่ 3 น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณท่าน้ำบ้านปากแชง ระดับน้ำสูง 4 เมตร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอไทรโยค เข้าทำการตัดกระแสไฟฟ้า มีผู้ประสบอุทกภัย รวม 17 หลังคาเรือน และทำการอพยพผู้ประสบอุทกภัยไปที่ศูนย์อพยพวัดน้ำตก ตำบลทำบลท่าเสา เป็นการชั่วคราว สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้จัดตั้งโรงครัวโดยใช้รถประกอบอาหารที่ได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 2 สุพรรณบุรี ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติ
อำเภอเมืองกาญจนบุรี มีน้ำป่าไหลหลาก ประกอบกับมีมวลน้ำจากทางอำเภอไทรโยค และอำเภอทองผาภูมิ ไหลลงมาเป็นจำนวนมาก ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำแควน้อยเพิ่มสูงขึ้น โดยสถานการณ์ในพื้นพื้นที่ ตำบลบ้านเก่า ระดับน้ำเพิ่มขึ้น บริเวณหมู่ที่ 1, 3, 8, 9 และ 13 น้ำไหลเข้าท่วมสถานประกอบการโรงแรมรีสอร์ท ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย และบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ในที่ลุ่ม ปัจจุบันระดับน้ำลดลง
ตำบลหนองหญ้า หมู่ที่ 1 - 6 , 8 และ 9 เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับผลกระทบ จำนวน 50 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 46,440,000 บาท ตำบลเกาะสำโรง หมู่ที่ 2, 3, 5, 7 และ 9 เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับผลกระทบ จำนวน 43 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 94,064,000 บาท ตำบลวังเย็น หมู่ที่ 1, 2, 4 และ 7 เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับผลกระทบ จำนวน 28 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 83,252,200 บาท
อำเภอด่านมะขามเตี้ย เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับผลกระทบในพื้นที่ตำบลจรเข้เผือก หมู่ที่ 1 - 3 จำนวน 11 ราย และตำบลกลอนโด หมู่ที่ 10 จำนวน 1 ราย มูลค่าความเสียหายรวมทั้งหมด ประมาณ 11,860,000 บาท ปัจจุบันระดับน้ำลดลง ผู้ประกอบการกระชังปลาได้รับผลกระทบ 133 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกัน ประมาณ 235,616,200 บาท (สองร้อยสามสิบห้าล้านหกแสนหนึ่งหมื่นหกพันสองร้อยล้านบาท)
อำเภอศรีสวัสดิ์ ตำบลนาสวน มีน้ำป่าไหลหลาก ประกอบกับมีต้นไม้ล้ม เศษหินและเศษดินสไลด์ก็กีดขวางการจราจร หมวดการทางศรีสวัสดิ์ได้นำเครื่องจักรปรับพื้นที่ ปัจจุบันเข้าสู่สภาวะปกติ ตำบลแม่กระบุง บ้านปากเหมือง (ห้วยแม่ขมิ้น) ถนนภายในหมู่บ้านได้รับความเสียหายอยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมแซม
ด้านการดำเนินการและการให้ความช่วยเหลือ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี โดยร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ พร้อมด้วย หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี นายอำเภอไทรโยค นายอำเภอทองผาผาภูมิ นายอำเภอสังขละบุรี นายอำเภอศรีสวัสดิ์ หน่วยทหารในพื้นที่ แขวงทางหลวงกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจ องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคกาญจนบุรี จิตอาสา อปพร. อาสาสมัคร มูลนิธิ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขนย้ายสิ่งของไปยังศูนย์อพยพ สำรวจความเสียหาย มอบถุงยังชีพ จัดตั้งโรงครัวบริเวณวัดน้ำตก ตำบลท่าเสาเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ตัดต้นไม้และดำเนินการแก้ไขสิ่งกีดขวางทางถนนเพื่อให้การสัญจรมีความปลอดภัย
ซึ่งจังหวัดกาญจนบุรีได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย รวม 5 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ อำเภอสังขละบุรี อำเภอเมืองกาญจนบุรี และอำเภอด่านมะขามเตี้ย โดยในแต่ละอำเภอ จะได้เร่งรัดสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือโดยเร็วต่อไป
เพื่อความไม่ประมาท กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแจ้งเตือนและเฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง เตรียมความพร้อม เครื่องมืออุปกรณ์ เครื่องจักรกล ยุทโธปกรณ์ กำลังพลพร้อมให้ความช่วยเหลือ ทันทีตลอด 24 ชั่วโมงเมื่อได้รับการร้องขอ รวมทั้งเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ และจัดตั้งศูนย์อพยพ และโรงครัวประกอบอาหารเลี้ยงผู้อพยพภายในบริเวณวัดน้ำตก ตำบลท่าเสา อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี
นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า โดยเมื่อเวลา 14.00 น.นายมานพ หนูสอน รองอธิบดีกรมประมงและคณะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกระชังปลา ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์มวลน้ำเหนือในแม่น้ำแควน้อยไหลบ่าสู่พื้นที่อำเภอเมืองกาญจนบุรี โดยมีนายสมบูรณ์ แผนสมบูรณ์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ประมงจังหวัดกาญจนบุรี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่สำนักงานประมงจังหวัดกาญจนบุรี ให้การต้อนรับและนำพาตรวจสอบ ซึ่งขณะนี้มีนักเรียนจากวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกาญจนบุรี มาช่วยเหลือตักปลาที่ตายขึ้นจากกระชังปลา บริเวณตำบลเกาะสำโรง และตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี