พ่อสาวตายทั้งกลมลั่นไม่เผาศพลูกสาวหลังคู่กรณีเบี้ยว ยันจะรอจนกว่าจะได้รับความยุติธรรม ขณะที่แม่ของสาวตายทั้งกมเผยเรื่องราวชวนขนหัวลุกได้ยินวิญญาณ 2 แม่ลูกที่เสียชีวิตมาหยอกกันประสานแม่ลูกในห้อง
กรณีรถยนต์ SUV ยี่ห้อ Ford Territony สีเทา ทะเบียนประเทศลาว ป้ายเหลือง แขวงคำม่วน สปป.ลาว ฝ่าไฟแดง 4 แยกบ้านดอนโมง ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ฝั่งขาเข้าตัวเมือง พุ่งชนรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บรวม 10 รายแยกเป็นรถเก๋งโตโยต้า วีออส 7 รายในจำนวนนี้มี น.ส.วิชุดา หรือน้องบี อายุ 23 ปีผู้ช่วยพยาบาลโรงพยาบาลนครพนม ซึ่งตั้งท้องแก่อายุครรภ์ 8 เดือนถูกคอนโซลหน้ากระแทกอย่างแรงเป็นเหตุให้เสียชีวิตตายทั้งกลม แพทย์ผ่าศพนำเด็กทารกออกมาเป็นเพศหญิงที่มีความสมบูรณ์อวัยวะครบ 32 ส่วนฝั่งคู่กรณีรถยนต์หรูมีผู้บาดเจ็บ 3 คนเป็นหญิงทั้งหมด หนึ่งในนั้นเป็นแพทย์ประจำ รพ.แขวงคำม่วน สปป.ลาว อายุ 52 ปีมีบาดแผลขาขวาหัก หลังแพทย์ รพ.นครพนม ผ่าตัดด้ามเหล็กให้แล้วผู้บาดเจ็บทั้ง 3 คนก็กลับไปรักษาต่อที่แขวงคำม่วน เหตุเกิดบนทางหลวงแผนดินหมายเลข 22 (นิตโย) สายนครพนม-สกลนครเวลาประมาณ 18.00 น.
โดยศพน้องบีได้ตั้งบำเพ็ญกุศลกับศพลูกทารก ณ บ้านเลขที่ 88 หมู่ 11 ต.นาราชควาย อ.เมืองนครพนม และเมื่อวันที่ 6 สค.ญาติได้นำร่างหนูน้อย 8 เดือนในครรภ์ไปเผาตามคติความเชื่อที่ป่าช้าท้ายหมู่บ้าน และในวันเดียวกันทางคู่กรณีได้ประสานผ่านคนสนิทใน รพ.นครพนม ขอเจรจาไกล่เกลี่ยในเวลาประมาณ 18.00 น.หลังถูกโซเชียลเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดทำให้เห็นว่ารถยนต์หรูขับมาด้วยความเร็วสูง ฝ่าไฟแดงพุ่งชนรถเก๋งโตโยต้า จนไม่สามารถดิ้นหลุดได้ แม้จะใช้กำลังภายในให้เป็นเหตุประมาทร่วมแถมมีก๊อกสองจะให้ฝั่งผู้สูญเสียเป็นเมาแล้วขับโดยประเด็นหลังอาจจะมีคนมีส่วนรู้เห็นเป็นใจเพราะรถยนต์หรูมีความคุ้นเคยกันจึงพยายามจะสลับผลเลือดเนื่องจากคนขับรถหรูมีการดื่มแอลกอฮอล์มา หลังไปเยี่ยมญาติที่อยู่ จ.สกลนคร ในส่วนของนายณรงค์ฤทธิ์ หรือเอ็ม อายุ 27 ปีผู้เป็นสามีของน้องบีและเป็นคนขับ ตรวจเลือดซ้ำหลายครั้งก็ไม่เจอ
วันนี้ (7 ส.ค.67) พระครูศรีปริยัติการ (อรุณ ฐิตเมโธ) เจ้าอาวาสวัดโอกาสศรีบัวบาน ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม เดินทางมาเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตนายสมิง อายุ 56 ปี พ่อของน้องบีได้ขอคำปรึกษาเนื่องจากทางฝั่งรถหรูเบี้ยวนัด เบื้องต้นได้หารือกับญาติๆแล้ว มีความเหตุตรงกันว่าจะไม่เผาศพน้องบีจนกว่าลูกสาวจะได้รับความเป็นธรรม ซึ่งท่านพระครูแนะว่า หากกังวลใจในเรื่องคดีความก็นำศพไปฝากไว้ที่วัดในหมู่บ้านก่อน
จากนั้นนายสมิง เปิดเผยว่า เสียความรู้สึกที่ทางคู่กรณีส่งคนอื่นมาเป็นตัวแทนในการเจรจาไกล่เกลี่ยเหมือนไม่ให้ความสำคัญ ถ้าวันนี้ยังไม่มาก็จะไม่ยอมเผาศพลูกสาวที่กำหนดจะเผาในวันที่ 8 สค.นี้ รอให้ได้รับความยุติธรรมก่อนจึงจะเผา อีกอย่างคนที่รับมาเป็นตัวแทนก็ทำงานที่เดียวกับตน ลูกเขย และน้องบีคนตาย
ด้านนายณรงค์ฤทธิ์ หรือเอ็ม สามีของน้องบี เล่าว่าในวันเกิดเหตุได้ไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าจากนั้นก็เดินทางกลับได้จอดรถติดไฟแดง พอไฟเขียวก็เคลื่อนรถออกมาอย่างช้าๆ แต่รถคู่กรณีมาเร็วมากจึงพุ่งชนอย่างจัง ตนสลบไปพักหนึ่งรู้สึกตัวพยายามเรียกชื่อเมีย ตอนนั้นเห็นเมียตาค้างก่อนเจ้าหน้าที่กู้ชีพมางัดร่างไปส่งโรงพยาบาล ยอมรับว่าเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ต่อให้เอาเงินมากอง 10 ล้านบาทก็ไม่คุ้มอยากได้ชีวิตเมียและลูกกลับมามากกว่า
ต่อมานายโชคชัย โคจริก อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนายเฉลิมชัย วัฒนชัย อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการ และนายอนุรักษ์ กาวิโจง รองอัยการจังหวัดได้เดินทางไปเคารพศพ น.ส.วิชุดา หรือน้องบี เพื่อให้คำปรึกษาชี้แนะด้านคดีแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย
นายโชคชัย กล่าวว่า การจัดการมรดกของผู้ตายถ้าผู้ตายยังมีชื่อถือครองในทรัพย์สินหลังจากเสียชีวิตแล้วต้องมีการจัดการ ในส่วนนี้อัยการจะเข้าไปดูแลให้เต็มที่เป็นขั้นเป็นตอน ไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย เชื่อว่าคู่กรณีต้องมาเยียวยาผู้เสียหาย เขาอาจจะตั้งหลักอยู่ แต่ข้อเท็จจริงก็ไม่ทราบ คดีถือว่าเป็นเรื่องประมาทแล้วทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเกิดความเสียหาย สิ่งที่จะปกป้องผู้ต้องหาได้ดีที่สุดคือการมาเยียวยาให้ผู้เสียหายอย่างเต็มความสามารถ
ขณะที่นางรินดา หรือ แม่หล้า อายุ 50 ปี ผู้เป็นแม่ เผยว่าเมื่อคืนนี้ช่วงตี 2 ตนนอนไม่หลับ เพราะไม่ได้ไปร่วมงานเผาศพหลาน เนื่องจากสะโพกร้าวหมอให้ขยับตัวให้น้อยที่สุด ตนได้ยินเสียงหลานสาวที่เผาไปแล้วมาหยอกล้อกับ น.ส.วิชุดา หรือน้องบี ภายในห้องนอน ตนจำเสียงลูกสาวได้ พูดคุยกันกับหลานน้อยในห้อง โดยทั้งคู่หัวเราะหยอกกันประสาแม่ลูก และเขามาหยอกกันเพื่อให้เราได้ยิน เขาคงจะให้รู้ว่าแม่หนูมาแล้วนะ
"ลูกสาวเสียชีวิตเที่ยงคืนของวันที่ 4 สค.ขณะตนยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.เช้ามืดวันที่ 6 ส.ค.ก่อนแพทย์จะอนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลได้ เห็นน้องบีใส่เสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ เป็นชุดที่ใส่ในวันที่เสียชีวิต มายืนอยู่ปลายเตียงแล้วก็ยิ้มให้และก็เดินออกไป เชื่อวิญญาณลูกยังห่วงจึงวนเวียนมาหา" นางรินดา หรือแม่หล้า กล่าว
ทั้งนี้ ในกรณีที่จะเพิ่มข้อหาให้ฝั่งผู้เสียหายนางรินคำ เผยว่าขณะนอนรักษาตัวอยู่ใน รพ.คู่กรณีก็นอนอยู่ในอาคารชั้นเดียวกันญาติๆฝั่งเขาก็มาเยี่ยม โดยไม่มีการทักทายหรือสอบถามอาการใดๆ แม้มีเตียงห่างกันแค่ 2 เตียง และมีการพูดคุยกันว่าใครเมาแล้วขับ ก็ชี้มายังนายเอ็มลูกเขยที่เฝ้าไข้น้องริว ลูกชายคนโตวัย 7 ขวบว่า โน่นไงคนเมาแล้วขับ ตนก็ยังงงทำไมจะให้ฝั่งตนเป็นฝ่ายผิด
มีรายงานข่าวว่า คู่กรณีได้ส่งสัญญาณผ่านเพื่อนคนไทยว่า จะข้ามโขงมาเจรจาไกล่เกลี่ยจริงๆ โดยนายสมิงกล่าวว่าถ้าจะมาเคารพศพลูกสาวก็ยินดี ส่วนการเยียวยาขอให้เป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งตอนนี้สภาทนายความจังหวัดนครพนมยื่นมือมาให้คำแนะนำด้านข้อกฎหมาย รวมถึงสำนักงานอัยการจังหวัดนครพนม นอกจากนี้ยังมีสายธารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครพนม สำนักงานประกันสังคมจังหวัดนครพนม รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่ทราบถึงชะตากรรมครอบครัวตน เดินทางมาบริจาคช่วยเงินช่วยเหลือ ขอขอบคุณในน้ำใจคนไทยอย่างจริงใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี