วันพุธ ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / ในประเทศ
'กสม.'ลงพื้นที่ลุยแก้ปัญหาชุมชนลุ่มน้ำสาละวิน ถูกอุทยานฯแย่งที่ทำกิน-ยึดไร่เหล่า

'กสม.'ลงพื้นที่ลุยแก้ปัญหาชุมชนลุ่มน้ำสาละวิน ถูกอุทยานฯแย่งที่ทำกิน-ยึดไร่เหล่า

วันศุกร์ ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567, 16.59 น.
Tag : กสม. ชุมชนลุ่มน้ำสาละวิน ที่ทำกิน ไร่เหล่า อุทยานฯ
  •  

กสม.ลงพื้นที่หลังจากชุมชนลุ่มน้ำสาละวินโวยถูกอุทยานฯแย่งที่ทำกิน-ยึดไร่เหล่า ชาวบ้านถูกจับถูกฟ้องศาล ประจาน“แม่ฮ่องสอนโมเดล”

ระหว่างวันที่ 7-8 สิงหาคม 2567 คณะทำงานของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ลงพื้นที่  อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจสอบข้อร้องเรียนกรณีที่ชาวบ้านที่อาศัยในเขตอุทยานแห่งชาติ (อช.) สาละวินถูกดำเนินคดีและถูกยึดที่ทำกิน โดยในวันที่ 7 สิงหาคม ได้มีการจัดประชุมร่วมกับชาวบ้านในหย่อมบ้านต่างๆ ในพื้นที่ หมู่ 5 ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน อาทิ บ้านแม่ก๋อน แม่สะบา ห้วยยาก ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีปัญหาถูกดำเนินคดี โดยในที่ประชุมได้มีการหารือกันถึงข้อมูลพื้นที่ทำกินที่ถูดยึด ซึ่งกสม. ได้รับข้อมูลดังกล่าวจากอุทยานแห่งชาติสาละวินเช่นกัน ซึ่งมีการดำเนินคดีและยึดที่ดินทำกิน บ้านแม่ก๋อน จำนวน 6 แปลง บ้านแม่สะบา จำนวน 3 แปลง บ้านแม่ละมอง จำนวน 3 แปลง และบ้านห้วยยาก จำนวน 7 แปลง


จากนั้นในวันที่ 8 สิงหาคม คณะทำงาน กสม.ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านแม่ละมอง ร่วมกับชาวบ้านพร้อมทั้งรับฟังข้อมูลจากชาวบ้านและผู้นำชุมชน ในขณะที่มีฝนตกหนักทั้งวันและเส้นทางสัญจรเป็นดินโคลนเนื่องจากขึ้นไปบนดอย

นายสะท้าน ชีววิชัยพงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำยวม เงา เมย สาละวิน กล่าวว่าจากากรลงพื้นที่ร่วมกัน เห็นชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นทีดินไร่เหล่า (ไร่หมุนเวียนที่เว้นระยะเพื่อการฟื้นฟูของชาวบ้าน) เช่น กรณีของนายหม่อง ส่วยนุ มีลูก 8 คน แปลงที่อุทยานฯ ยึดไปนั้นมีจำนวน 2 แปลง เจ้าของที่ดินบอกว่าได้รับที่ดินนี้มาจากพ่อแม่ เป็นที่ดินมรดก 40-50 ปี เนื่องจากเป็นไร่หมุนเวียน ได้มอบให้ลูก ซึ่งต่อมามีการดำเนินการ “แม่ฮ่องสอนโมเดล” จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้มาสำรวจ จับพิกัด GPS และนำมาสู่การจับกุม

นายสะท้านกล่าวว่า กรณีที่ดินของนายมงคล มีจำนวน 6 ไร่ ตอนนี้เหลือเพียงไร่ครึ่ง เนื่องจากอุทยานฯ แจ้งว่าไม่ปรากฎในแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ ทั้งที่ชาวบ้านยืนยันว่าเป็นไร่เหล่า ไม่ใช่ขยายเข้าไปในพื้นที่ป่าแต่อย่างใด เช่นเดียวกับที่บ้านห้วยยาก เป็นพื้นที่ไร่เหล่าเช่นกัน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่มาเดินสำรวจ แต่จากนั้นอุทยานฯ ก็มาติดป้ายและดำเนินคดีชาวบ้านสองคนสามีภรรยา จนมีคำพิพากษาปรับจำนวน 2.3 แสนบาท รอลงอาญ ซึ่งชาวบ้านทั้งสองได้จ่ายไปแล้ว 2 งวด รวม 1.1 แสนบาท

“จู่ๆ ครอบครัวต้องมีหนี้สิน ที่ทำกินก็ถูกยึดไป ทั้ง 2 คนทำกินในพื้นที่เดิมเป็นพื้นที่ไร่หมุนเวียนในโครงการแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินแม่ฮ่องสอนโมเดล ชาวบ้านวางแผนว่าจะร้องเรียนไปยังหน่วยงานอื่นๆ ด้วย เพื่อให้ช่วยผลักดันแก้ไขปัญหา เพราะเป็นปัญหาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ แต่ทำกินไม่ได้ ที่ผ่านมาอุทยานฯ ได้มีเจ้าหน้าที่มาประชุมกับชาวบ้าน บอกว่าให้ทำกินได้ทุกแปลง แม่ฮ่องสอนโมเดล ตามพรบ.ใหม่”นายสะท้าน กล่าว

นายนุ ชำนาญคีรีไพร ผู้นำชุมชนลุ่มน้ำสาละวิน จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่าการลงพื้นที่ของ กสม. ครั้งนี้มีการเตรียมเอกสาร แผนที่โมเดล เอกสารของชาวบ้าน หารือปัญหาและแนวทางการแก้ไขว่าชาวบ้านถางไร่ทำไร่หมุนเวียนตามวิถีชีวิตของชาวปกากญอ แต่การรังวัดของอุทยานฯ กลับไม่ตรงกัน ไม่ตรงกับโมเดล

“กสม. มาลงพื้นที่ ชาวบ้านก็พาไปดู ฝนตกทางเละก็อยากพาไปดูว่าเป็นพื้นที่ทำกินของเราจริงๆ ไม่ได้บุกรุกป่า แต่เราทำไร่หมุนเวียน สืบทอดกันมาป่าก็ไม่เคยหมดไป เป็นการเกษตรที่เหมาะสมกับพื้นที่ป่า วันนี้ชาวบ้านบอกว่าขอให้กสม. ลงมาดูปัญหาก่อน ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรในพื้นที่ หากจำเป็นก็ไปขั้นตอนต่อไป พยายามแบบนี้ไปก่อน” นายนุ กล่าว

ทั้งนี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ชาวบ้านหมู่บ้านแม่ก๋อน หมู่ที่ 5 ต.แม่คง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กว่า 20 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยงซึ่งอาศัยอยู่และทำกินในป่าบริเวณนี้มาก่อนอุทยานแห่งชาติสาละวิน ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นางปรีดา คงแป้น คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการจัดการที่ดินของโครงการแม่ฮ่องสอนโมเดล โดยทางอุทยานแห่งชาติสาละวินเข้ามายึดพื้นที่ทำกินของชาวบ้าน และยังมีการดำเนินคดีกับชาวบ้านในข้อหาบุกรุกป่า

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ออส.ขอชุมชนในเขตป่าอนุรักษ์ที่ทำกินบนพื้นที่สูงชัน ปรับวิธีเป็นแบบขั้นบันไดแก้หน้าดินพังทลาย ออส.ขอชุมชนในเขตป่าอนุรักษ์ที่ทำกินบนพื้นที่สูงชัน ปรับวิธีเป็นแบบขั้นบันไดแก้หน้าดินพังทลาย
  •  

Breaking News

ลาออกทันที! 'หมอวี'จี้นายกฯอิ๊งค์หยุดปฏิบัติหน้าที่ เซ่นคลิปอังเคิล'ฮุนเซน'

สภาฯไม่ได้มีปัญหา! ‘อ.ไชยันต์’ชี้‘อิ๊งค์’ต้องลาออกสถานเดียว

ฟาดยับอิ๊งค์! ‘กษิต’ไล่พิจารณาตัวเอง เหตุไร้ความสามารถบริหารประเทศ-ไร้ศักดิ์ศรีคนไทย

(คลิป) ลากไส้! กบฎ คนขายชาติ!! 'อุ๊งอิ๊งค์' พวกเดียว 'ฮุนเซน' ซัด! แม่ทัพภาค2 คือฝ่ายตรงข้าม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved